นายคมสัน จำรูญพงษ์ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 3 ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การปลูกพืชร่วมกับกลุ่มเกษตรกร พบว่า ถั่วดาวอินคาเป็นพืชทางเลือกที่สร้างรายได้ให้เกษตรกร มีสรรพคุณทางยาและเป็นที่นิยมของผู้รักสุขภาพ ซึ่งตัวอย่างของเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จ คือนายวิสุทธิ์ ภารกิจ เกษตรกรต้นแบบเจ้าของแปลงเรียนรู้ ศพก.บ้านดงป่ายาง ต.ท่าสะอาด อ.นาด้วง จ.เลย ซึ่งก่อนหน้านี้ทำสวนยางพารามานาน แต่เมื่อประสบปัญหาราคา จึงมีแนวคิดทำการเกษตรแบบผสมผสาน โดยจัดสรรพื้นที่ 2 ไร่ ปลูกถั่วดาวอินคา

ในปีที่ 1 สามารถเก็บผลผลิตได้ 2–3 รอบ เฉลี่ยปีละ 1,200 กิโลกรัมต่อไร่ ปีที่ 2 เก็บผลผลิตได้ 3–5 รอบ เฉลี่ยปีละ 2,500 กิโลกรัมต่อไร่ และนำถั่วดาวอินคากะเทาะเปลือก ก่อนนำเมล็ดเข้าเครื่องบีบขนาดเล็กเพื่อสกัดน้ำมัน โดยเมล็ดถั่วดาวอินคา 3 กิโลกรัมสกัดน้ำมัน 1 ลิตร ซึ่งถั่วดาวอินคา 1 ไร่ จะได้น้ำมัน 130-150 ลิตร ส่งขายขนาดบรรจุ 800 มิลลิลิตร 2,000 บาท ใบตากแห้งทำเป็นใบชาราคา 500 บาทต่อกิโลกรัม ช่วยเสริมรายได้เดือนละ
20,000-30,000 บาท ทั้งนี้หากใครสนใจการปลูกถั่วดาวอินคา สามารถติดต่อได้โดยตรงกับ นายวิสุทธิ์ โทร.09-3379-5337หรือสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 3 จ.อุดรธานี โทร. 0-4229-5578