วันศุกร์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2568
นางสายชล แสงแก้ว นักวิชาการเกษตรชำนาญการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครราชสีมา สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 4 กรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า แมลงวันผลไม้เป็นศัตรูพืชที่สำคัญของไม้ผลโดยเฉพาะการผลิตไม้ผลเพื่อการส่งออก เนื่องจากแมลงวันผลไม้เป็นศัตรูกักกันที่ประเทศผู้นำเข้าเข้มงวดห้ามมีติดไปกับผลผลิตเด็ดขาด ซึ่งพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เป็นแหล่งผลิตไม้ผลเพื่อการส่งออกสำคัญแห่งหนึ่งในประเทศ โดยเฉพาะมะม่วงน้ำดอกไม้ น้อยหน่าเพชรปากช่อง และพุทรานมสดทางศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครราชสีมา จึงได้ทำการศึกษาการใช้เทคโนโลยีแบบผสมผสานเพื่อควบคุมแมลงวันผลไม้ใน 3 ชนิดพืชดังกล่าว ดำเนินการในพื้นที่เกษตรกรผู้ผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้เพื่อการส่งออก จำนวน 6 แปลง เกษตรกรผู้ปลูกน้อยหน่าเพชรปากช่องเพื่อการส่งออก 6 แปลง และเกษตรกรผู้ปลูกพุทรานมสด 21 แปลง
สำหรับเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เป็นเทคโนโลยีการป้องกันกำจัดแมลงวันผลไม้แบบผสมผสาน ที่สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืชกรมวิชาการเกษตร ได้ศึกษาจนพบเทคโนโลยีที่สามารถป้องกันกำจัดแมลงวันผลไม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทางศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครราชสีมา ได้นำมาขยายผลสู่เกษตรกรในพื้นที่ที่ประสบปัญหาแมลงวันผลไม้ เพื่อให้เกษตรกรได้ผลผลิตที่ปลอดการเข้าทำลายของแมลงวันผลไม้ ลดผลกระทบในการส่งออก สร้างมูลค่าเพิ่มและรายได้ที่มั่นคงให้เกษตรกร
โดยเทคโนโลยีการป้องกันกำจัดแมลงวันผลไม้แบบผสมผสานมีขั้นตอนปฏิบัติดังนี้ 1.รักษาความสะอาดของแปลงปลูก ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดและง่ายที่สุด คือ การเก็บผลที่เน่าร่วงหล่นหรือเน่าคาต้นแล้วไปฝังกลบ เป็นการตัดวงจรชีวิตแมลงวันผลไม้รุ่นถัดไปได้ 30-40% 2.ตัดแต่งกิ่งให้โปร่ง เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งที่พักอาศัยของแมลงวันผลไม้ 3.ห่อผลด้วยถุงพลาสติกหรือกระดาษคาร์บอนตามความเหมาะสมแต่ละชนิดพืช เพื่อป้องกันไม่ให้แมลงวันเพศเมียเข้ามาวางไข่ 4.ติดกับดักสารล่อแมลงเมธิลยูจินอลในอัตรา 1 กับดักต่อไร่ เพื่อกำจัดตัวเต็มวัยเพศผู้ ลดโอกาสการผสมพันธุ์ และเป็นการสำรวจประชากรแมลงวันผลไม้ในแปลงปลูกเพื่อหาแนวทางป้องกันได้อย่างทันท่วงที 5.พ่นเหยื่อพิษที่ประกอบด้วยยีสต์โปรตีนในอัตรา 200 มิลลิลิตร + สารฆ่าแมลงมาลาไทออน 57% อัตรา 50 มิลลิลิตรในน้ำ 5 ลิตร ทุก 7 วัน โดยพ่นแบบเป็นจุด ต้นละ 2–4 จุด ในเวลาเช้าตรู่ เริ่มพ่นเหยื่อพิษก่อนแมลงระบาด 1 เดือนซึ่งเหยื่อโปรตีนจะเป็นอาหารสำหรับล่อแมลงวันผลไม้ตัวเต็มวัยให้มากินอาหารและตายในที่สุด6.ติดกับดักแผ่นโดยใช้ไม้อัดชานอ้อยตัดเป็นแผ่นเล็กๆ แช่ในสารละลายแขวนรอบแปลงทุกระยะ 50 เมตร และเปลี่ยนกับดักทุก 1 เดือน เพื่อกำจัดแมลงวันเพศผู้ 7.การคัดแยกผลผลิตในระบบปิด หากเกษตรกรไม่มีโรงเรือนระบบปิดสามารถใช้มุ้งตาข่ายแทนได้ เพื่อป้องกันการเข้าทำลายของแมลงวันผลไม้ในช่วงหลังการเก็บเกี่ยว
นางสายชล กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลจากการศึกษาพบว่าเกษตรกรให้การยอมรับในเทคโนโลยีการป้องกันแมลงวันผลไม้ของกรมวิชาการเกษตร เนื่องจากถ้าปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างต่อเนื่อง สามารถลดจำนวนประชากรแมลงวันผลไม้และลดการเข้าทำลายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงกว่า 90% ซึ่งเกษตรกรที่สนใจสามารถเข้ามาศึกษาดูงานได้จากแปลงทดลอง เพื่อนำไปปรับใช้ให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ของตนเองได้ โดยสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครราชสีมา หรือหน่วยงานในสังกัดกรมวิชาการเกษตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี