วันเสาร์ ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2568
นับว่าออกตัวได้แรงพอสมควร สำหรับปฏิบัติการทวงคืนที่ดินของ “สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม” (ส.ป.ก.) ซึ่งนำโดย “สรรเสริญ อัจจุตมานัส” ภายหลังจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) งัดมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ ยื่นดาบอาญาสิทธิให้อำนาจ ส.ป.ก. แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในการจัดการปัญหาการบุกรุกถือครองที่ดินเขตปฏิรูปโดยมิชอบด้วยกฎหมายของกลุ่มนายทุน นักการเมือง
โดยเฉพาะพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ที่มี“วัชรินทร์ วากะมะนนท์” ปฏิรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี เป็นหัวหอกนำร่องปักป้ายยึดคืนที่ดินที่ถูกบุกรุกทั่วจังหวัดหลายพันไร่ กระทั่งประเดิมได้คืนมาแล้ว 1,263 ไร่ จาก “น.ส.เพียงใจ หาญพาณิชย์” นักธุรกิจเศรษฐีมารดาผู้บริหารบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ “แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์” ซึ่งทำหนังสือแสดงความจำนงขอคืนที่ดิน ส.ป.ก. จำนวนดังกล่าวซึ่งอยู่ในครอบครองของตัวเอง เพื่อให้นำไปจัดสรรแก่เกษตรกร
นอกจากนี้ยังขึ้นบัญชีดำปักป้ายยึดคืนที่ดินที่อยู่ในความครอบครองของ “วัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน” หรือ “วัดเสือ” จ.กาญจนบุรี ซึ่งตกเป็นข่าวฉาวโฉ่และกำลังถูกตรวจสอบเชื่อมโยงกับ “ขบวนการค้าเสือ” ข้ามชาติในขณะนี้อีกร่วมพันไร่
ที่น่าจับตาอีกแห่ง คงหนีไม่พ้น จ.นครราชสีมา ที่มี “ชำนาญ กลิ่นจันทร์” ปฏิรูปที่ดินจังหวัด เป็นผู้นำทัพการตรวจสอบ โดยมีที่ดินเขตปฏิรูปที่มีเนื้อที่เกิน 500 ไร่ เป้าหมาย 134 แปลง ในพื้นที่ 18 อำเภอ รวมแล้วมากถึง 113,964 ไร่
ความน่าสนใจของการตรวจสอบการครอบครองที่ดินเขตปฏิรูปใน จ.นครราชสีมา ไม่ได้มีแค่เพียงจำนวนเนื้อที่ที่มีมากถึง 113,964 ไร่ ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 4 ของพื้นที่เป้าหมายการทวงคืนทั่วประเทศจำนวน 422 แปลง ใน 25 จังหวัด รวมกว่า 430,000 ไร่ เท่านั้น
แต่ประเด็นยังอยู่ที่การบุกรุกหรือครอบครองพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมายในโคราช เป็นถือครองโดยบุคคลระดับ “ขาใหญ่” และเปี่ยมไปด้วยบารมีแทบทั้งสิ้น
ตัวอย่างที่เห็นๆ กันอยู่ ก็เช่น กรณีที่ดินของศูนย์ปฏิบัติธรรม “เวิลด์พีซ วัลเล่ย์” ซึ่งว่ากันว่าเป็นเครือข่ายของ “วัดพระธรรมกาย” อันยิ่งใหญ่ที่กำลังถูกตรวจสอบอยู่ในขณะนี้
นี่ยังไม่นับรวมถึงรีสอร์ท สนามแข่งรถบ้านตากอากาศ เรือกสวน ไร่ นา ที่ต่างมีนักการเมืองระดับท้องถิ่น ระดับชาติ รวมถึงนายทุนผู้มีอิทธิพลรายเล็กรายใหญ่อยู่เบื้องหลังอยู่อีกหลายแปลง หลายพันไร่ โดยเฉพาะแถบเขาใหญ่ วังน้ำเขียว ซึ่งส.ป.ก.เองก็ทราบปัญหามาตลอด แต่ก็ไม่เคยประสบความสำเร็จในการจัดการหรือเรียกคืนที่ดินกลับมาได้อย่างเป็นรูปธรรมมาก่อน
ที่สำคัญปัญหานี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นที่แค่“โคราช” แห่งเดียว แต่ยังหมายรวมถึงปัญหาในพื้นที่อื่นๆ เกือบทุกแห่งทั่วประเทศ ซึ่งเลขาธิการ ส.ป.ก. “สรรเสริญ อัจจุตมานัส” เป็นผู้ให้ข้อมูลเองว่า ที่ดินเขตปฏิรูปที่ถูกครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมายในปัจจุบัน จะถูกครอบครองโดยกลุ่มใหญ่ 5 กลุ่ม คือ นักการเมืองระดับชาติ นักการเมืองระดับท้องถิ่น ผู้มีอิทธิพล นายทุนเศรษฐี และกลุ่มที่เคยทำสัมปทานป่าไม้มาก่อน
โดยที่ดินตกไปอยู่ในมือของกลุ่มนักการเมืองมากที่สุดมากกว่า 50%
นั่นจึงทำให้การแก้ปัญหาในช่วงที่ผ่านมาไม่เคยประสบความสำเร็จ เพราะพอพื้นที่รายงานเข้ามาที่ส่วนกลาง แทนที่จะได้ดำเนินการต่อ ก็ถูกพวกนักการเมืองเหล่านี้เข้ามาแทรกแซงจนข้าราชการได้แต่มองตาปริบๆ ไม่สามารถทำอะไรได้
ใครที่กล้าหือ ก็โดนเด้งโดนย้ายออกไปจนหมด
ดังนั้นเมื่อเวลานี้ ส.ป.ก. ได้ดาบอาญาสิทธิ์ มาแล้ว ก็ต้องแสดงฝีมือกันให้เต็มที่
อย่าทำให้เสียของเป็นอันขาด
มะลิลา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี