24 ส.ค.59 นายธนู มีแสงเงิน รองเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าทวงคืนพื้นที่ ส.ป.ก.ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 36/2559 ว่า สิ้นสุดปิดประกาศเรียกพื้นที่ครอบครองผิดกฎหมายแปลงใหญ่เกินกว่า 500 ไร่ โดยให้ผู้ครอบครองมาแสดงตนยื่นเอกสาร และช่วงนี้เข้าสู่ขั้นตอนตรวจสอบเอกสารเหล่านี้ออกโดยชอบหรือไม่ จากผลการติดประกาศพื้นที่เป้าหมาย 4.41 แสนไร่ ใน 27 จังหวัด โดยมีผู้คัดค้าน 15,022 ราย เนื้อที่ 3 แสนกว่าไร่ สรุปเบื้องต้นสามารถเอาคืนได้แล้ว 1 แสนกว่าไร่ กำลังอยู่กระบวนการปักป้ายยึดพื้นที่ให้ผู้ถือครองออกจากที่ดิน ถ้ามีสิ่งก่อสร้างรื้อถอนออกภายใน 30 วัน

รองเลขาฯ ส.ป.ก.กล่าวต่อว่า ตอนนี้ปักป้ายยึดคืนหมดแล้วพื้นที่ 1 แสนกว่าไร่ ส่วนพื้นที่ที่มีผู้คัดค้านเริ่มตรวจสอบเอกสารได้ 2 จังหวัด คือ ราชบุรี และกระบี่ ส่วนที่เหลืออีก 25 จังหวัด ยังไม่รายงานมีความคืบหน้าในการตรวจสอบเอกสารสิทธิที่มีผู้ยื่นคัดค้าน แต่คาดว่าทุกอย่างจะจบเสร็จกระบวนการภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มีการยื่นคัดค้านตามคำสั่ง คสช.

"ยืนยันทุกพื้นที่ตรวจสอบเอกสารแล้วเสร็จรายสุดท้ายประมาณกลางเดือน ก.ย.ตอนนี้ ส.ป.ก.ส่วนกลางส่งหน่วยเฉพาะกิจไปช่วยจังหวัดใหญ่ๆ ที่มีพื้นที่เรียกคืนจำนวนมาก เช่น นครราชสีมา สระแก้ว กำแพงเพชร และกาญจนบุรี" รองเลขาฯ ส.ป.ก.กล่าว

สำหรับพื้นที่เป็นเอกสารภาษีบำรุงท้องที่ หรือ ภบท.5 ต้องตรวจสอบ 2.2 แสนไร่ จะเป็นพื้นที่ได้ยึดคืนได้อีก โดยก่อนหน้านี้ผู้ถือครองไม่เข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดิน ต้องตรวจสอบถ้ามีคุณสมบัติเกษตรกรผู้ยากไร้ได้สิทธิทำกิน ถ้าไม่มีต้องสิ้นสิทธิ ซึ่งพื้นที่ ส.ป.ก.ทั่วประเทศ 40 ล้านไร่ ได้กันออก 14 ล้านไร่ เป็นที่ภูเขา ที่สาธารณะ จัดปฏิรูปที่ดินแจกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 ไป 33 ล้านไร่ ยังเหลือพื้นที่ไม่ยอมเข้ากระบวนการ 3 ล้านไร่ จึงใช้มาตรา 44 ยึดคืนแปลงใหญ่เกิน 500 ไร่ ก่อนจากผู้มีอิทธิพล อดีตนักการเมือง นายทุน ซึ่งต่อไปจะขอออกมาตรา44 เฟสสอง จัดการยึดคืนพื้นที่ต่ำกว่า 500 ไร่ ที่เปลี่ยนมือซื้อขายทำผิดวัตถุประสงค์ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม