6 ก.ย.59 นายสุวรรณ บูราพรนุสรณ์ รองเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เปิดเผยว่า จากปัญหาการขาดแรงงานในภาคการเกษตร ส.ป.ก. โดยกลุ่มวิจัยและพัฒนาเครื่องจักรกลการเกษตร สำนักพัฒนาพื้นที่ปฏิรูปที่ดินได้พัฒนาเครื่องหยอดข้าวในนาน้ำตมเพื่อให้เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินได้นำไปใช้เพื่อลดต้นทุนในการผลิต หลังจากที่ได้มีการนำไปทดสอบจริงในพื้นที่ แม้เกษตรกรจะมีความพึงพอใจในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีกลไกบางอย่างที่ยังต้องปรับปรุงอยู่บ้าง ส.ป.ก.จึงได้ขอทุนวิจัยจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)หรือ สวก. เพื่อนำมาพัฒนาเครื่องหยอดข้าวในนาน้ำตมของส.ป.ก. ให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น ซึ่งขณะนี้ สวก. ได้อนุมัติทุนวิจัยจำนวนเงิน 1,200,000 บาทให้แล้ว
ในเบื้องต้นกำหนดเงื่อนไขในการวิจัยว่า จะต้องเป็นเครื่องมือขนาดเล็ก กลไกการขับเคลื่อนไม่ซับซ้อน ราคาไม่แพง เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินสามารถเข้าถึงหรือนำไปสร้างเองได้ หรือชุมชนใดมีเกษตรกรที่มีทักษะทางช่าง ส.ป.ก.ก็สามารถจัดส่งเจ้าหน้าที่นำความรู้ไปถ่ายทอดในเรื่องการผลิตเครื่องหยอดข้าว เพื่อให้เกษตรกรสามารถดำเนินการผลิตกันเองในชุมชน เพราะเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินไม่ได้เป็นเกษตรกรที่มีฐานะดี ดังนั้น การที่เกษตรกรสามารถผลิตเครื่องจักรกลใช้เอง นอกจากจะช่วยในการลดต้นทุนการผลิตแล้ว ยังช่วยสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรในการเข้าถึงเครื่องจักรกลการเกษตรอีกด้วย
สำหรับเครื่องหยอดข้าวต้นแบบ ส.ป.ก. มีต้นทุนการผลิตประมาณ 20,000 บาทมีประสิทธิภาพช่วยลดการใช้เมล็ดพันธุ์ได้ จากเดิมหากเกษตรกรใช้วิธีการหว่านต้องใช้เมล็ดพันธุ์ 25-30 กิโลกรัมต่อไร่ แต่หากใช้เครื่องหยอดข้าวจะใช้เมล็ดพันธุ์เพียง 8-10 กิโลกรัมต่อไร่ เพราะฉะนั้นจะลดต้นทุนการใช้เมล็ดพันธุ์ไปได้ประมาณร้อยละ 60 คิดเป็นต้นทุนประมาณ 300-400 บาท/ไร่ นอกจากเครื่องหยอดข้าวในนาน้ำตมแล้ว ส.ป.ก. ยังได้พัฒนาเครื่องหยอดข้าวในนาแห้ง และเครื่องย่อยกิ่งไม้เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่เกษตรกรด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี