วันเสาร์ ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2568
7 ต.ค.59 นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี ว่า เนื่องจากบริเวณเหนือเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ยังคงมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างมาก เฉพาะในช่วงวันที่ 27 ก.ย. - 4 ต.ค.59 มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนรวมแล้วประมาณ 386 ล้าน ลบ.ม.ปัจจุบัน (6 ต.ค.59) มีปริมาณน้ำในเขื่อนทั้งหมด 867 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 90 ของความจุอ่าง สามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีกเพียง 93 ล้าน ลบ.ม.เท่านั้น หากไม่มีการปรับเพิ่มการระบายน้ำให้สมดุลกับปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อน คาดว่าจะมีปริมาณน้ำเต็มเขื่อน ในวันที่ 11 ต.ค.59 รวมทั้งขณะนี้มีปริมาณฝนตกที่ จ.เพชรบูรณ์ น้ำไหลลงแม่น้ำป่าสัก มาลงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มากขึ้น
นอกจากนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 5 - 11 ต.ค.59 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้น โดยจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำมีประสิทธิภาพสูงสุด กรมชลประทานจึงต้องปรับการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค.59 จากอัตราวันละ 40 - 50 ล้าน ลบ.ม.เป็นอัตราวันละ 50 - 60 ล้าน ลบ.ม.ลงคลองชัยนาท - ป่าสัก จะควบคุมปริมาณน้ำที่เขื่อนพระรามหก เนื่องจากวันนี้มีน้ำไหลเข้า 62 ล้าน ลบ.ม.เพื่อให้มีพื้นที่ว่างที่จะสามารถรองรับปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนได้อีก
ทั้งนี้ เขื่อนพระรามหก ยังคงควบคุมปริมาณน้ำให้ไหลผ่านไม่เกิน 600 ลบ.ม.ต่อวินาที ตามเดิม ระดับน้ำไหลเข้าแม่น้ำเจ้าพระยา วัดระดับที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นจุดเฝ้าระวังน้ำเหนือหลากเข้า กทม.และปริมณฑล ในระดับ1,800 ลบ.ม.ต่อวินาที ซี่งน้อยกว่าค่าวิกฤตที่ 3,800 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งยังไม่กระทบ กทม.เพราะระดับน้ำต่ำกว่าคันกั้นน้ำ กทม.กว่า 1.80 เมตร จากคันกั้นน้ำระดับ 2.50 เมตร
อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำที่ระบายเพิ่มจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ โดยจะใช้พื้นที่ว่างบริเวณเหนือเขื่อนพระรามหก ชะลอน้ำส่วนหนึ่งไว้ เพื่อไม่ให้ระดับน้ำล้นตลิ่ง และน้ำอีกส่วนหนึ่งที่เหลือจะใช้ระบบชลประทานฝั่งตะวันออกตอนล่าง รับน้ำผ่านคลองระพีพัฒน์ จากนั้นจะเร่งระบายน้ำส่วนนี้ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำนครนายก แม่น้ำบางปะกง และคลองชายทะเลลงสู่อ่าวไทย จ.สมุทรปราการ
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำ กรมชลประทานได้ทำหนังสือแจ้งไปยัง จ.ลพบุรี จ.สระบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เพื่อประกาศแจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ห้างร้าน ที่ประกอบกิจการในแม่น้ำป่าสัก อาทิเช่น งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร กระชังปลา รวมไปถึงประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำป่าสัก ให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ หากมีฝนตกหนักลงมาเพิ่มเติม จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนพระรามหกมากกว่าเกณฑ์ดังกล่าว กรมชลประทานจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะๆ ต่อไป
สำหรับปริมาณน้ำเหนือไหลสู่แม่น้ำเจ้าพระยา จ.นครสวรรค์ วัดระดับที่ค่ายจิรประวัติ 1,984 ลบ.ม.ต่อวินาที โดยระบายผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 1,998 ลบ.ม.ต่อวินาที ทำให้มีระดับน้ำที่บางพุทรา จ.สิงห์บุรี 2,053 ลบ.ม.ต่อวินาที และ ต.บ้านบางหลวงโดด น้ำล้นตลิ่ง 1.38 ม.รวมถึง ต.บ้านบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ยังมีน้ำล้นตลิ่ง 0.47 เมตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี