นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เครือเบทาโก เปิดเผยว่า “โครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ” เป็นโครงการซึ่งเปรียบเสมือนไร่ของพ่อ เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จฯประทับที่พระราชวังไกลกังวล มีชาวบ้านนำมันเทศซึ่งเป็นพืชที่ปลูกอยู่ในท้องถิ่นมาถวาย ทรงมีรับสั่งให้ข้าราชบริพารนำหัวมันเทศไปวางไว้บนตาชั่งโบราณในห้องทรงงาน แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพฯ ครั้งเสด็จกลับมายังวังไกลกังวล ทอดพระเนตรไปที่ตาชั่ง พบว่าหัวมันเทศนั้นสามารถงอกรากแตกใบออกมาได้แม้ไม่มีดินและน้ำ จึงมีพระราชดำรัสว่า “มันอยู่ที่ไหนก็งอกได้” และทรงมีรับสั่งให้นำหัวมันนั้นไปใส่กระถางปลูกไว้ในวังไกลกังวล จากนั้นให้หาพื้นที่เพื่อทดลองปลูกมันเทศโดยได้ทรงใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ซื้อที่ดินจากราษฎร ณ บ้านหนองคอไก่ ตำบลเขากระปุก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี รวมทั้งสิ้น 250 ไร่ เพื่อให้เป็นที่ทดลองปลูกมันเทศและเพาะปลูกพืชต่างๆ โดยเน้นพืชท้องถิ่นของจังหวัดเพชรบุรี และพระราชทานชื่อโครงการนี้ว่า “โครงการชั่งหัวมัน”
โครงการชั่งหัวมันนี้ พระองค์ท่านมีพระราชประสงค์ให้เป็นโครงการต้นแบบที่มุ่งพัฒนาส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมให้ประสบความสำเร็จ และสามารถเลี้ยงดูครอบครัวตัวเองได้อย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เน้นความร่วมมือกันของหน่วยงานต่างๆ และทุกคนในชุมชนแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน
เครือเบทาโกร ผู้ประกอบธุรกิจด้านอุตสาหกรรมการเกษตรและอาหารครบวงจร และมีสำนักงานสาขา ตั้งอยู่ในพื้นใกล้เคียง เป็นอีกหนึ่งองค์กรที่เข้าไปมีส่วนสนับสนุนโครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ ในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะการนำความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านการเกษตรและปศุสัตว์ มาร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับโครงการ รวมทั้งการจัดสร้างคอกโคนมให้ “คุณตุ่ม” โคนมซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงป้อนนมเมื่อครั้งที่ยังเป็นลูกโค การถวายเครื่องสับหญ้า สนับสนุนผลิตภัณฑ์ปุ๋ย สำหรับใช้ในโครงการ รวมทั้งส่งทีมสัตวแพทย์ให้คำปรึกษาและสนับสนุนงานด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เป็นต้น
นายวสิษฐ กล่าวอีกว่า ในวาระสำคัญ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 87 พรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวันที่ 5 ธันวาคม 2557 เครือเบทาโกรได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายอาคารนิทรรศการหลังใหม่ ที่ออกแบบติดตั้งให้สามารถเสนอนิทรรศการพระราชกรณียกิจและกิจกรรมต่างๆ ของโครงการ ในรูปแบบที่ทันสมัย น่าสนใจ เป็นประโยชน์ต่อผู้มาศึกษาเรียนรู้และเพื่ออำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่และผู้มาเยี่ยมชมโครงการ โดยเริ่มก่อสร้างในเดือนกันยายน 2557 แล้วเสร็จและเปิดใช้งานตั้งแต่เดือนมกราคม 2558
หลังจากที่เครือเบทาโกรได้ส่งมอบอาคารนิทรรศการแห่งนี้อย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2558 แล้ว ทั้งผู้บริหารและพนักงานเครือเบทาโกรยังจัดกิจกรรมช่วยกันดูแลรักษาให้อาคารนิทรรศการแห่งนี้คงสภาพความสวยงามและพร้อมรองรับผู้มาเยี่ยมชมโครงการอย่างต่อเนื่อง เพื่อสานต่อการเรียนรู้จากไร่ของพ่อ การเกษตรยั่งยืนตามแนวพระราชดำริ รวมถึงเรื่องราวพระราชปณิธานอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ท่านที่มีต่อชาวไทยทุกคน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี