18 ม.ค.61 นายพะโยม ชิณวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ตามที่ สช.ได้ร่วมโครงการ เด็กไทยดูดี มีพลานามัย กับ กระทรวงสาธารณสุข , สำนักงานกองทุนสนับสนุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยมี พญ.ชุติมา ศิริกุลชยานนท์ เป็นหัวหน้าโครงการฯ และปีการศึกษา 2560 โครงการฯ ได้นำร่องนี้ในโรงเรียนรัฐ และเอกชน จำนวน 7 แห่ง แต่จากผลสำรวจโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ ในเขตกรุงเทพฯ ที่เข้าร่วมโครงการฯ ปรากฏว่า พบเด็กมีโภชนาการเกิน และโรคอ้วน ในนักเรียนระดับประถมศึกษา ร้อยละ 19.6 และระดับมัธยมศึกษา ร้อยละ 36.0 ซึ่งสูงมากเมื่อเทียบกับรายงานระดับประเทศ และยังพบว่านักเรียนกลุ่มนี้เกินร้อยละ 60 มีภาวะไขมันในเลือดสูง มีความดันโลหิตสูง และมีความเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานด้วย
"ทางโครงการฯ คาดว่าโรงเรียนเอกชนอื่นๆ น่าจะมีปัญหานี้เช่นเดียวกัน เพราะขนาดสำรวจเพียงโรงเรียนเดียวผลยังขนาดนี้ หากทั่วประเทศผลจะเป็นอย่างไร ซึ่งตนมองว่าโรงเรียนในเมืองเด็กมีพฤติกรรมการบริโภคเปลี่ยนไปเยอะมาก ซึ่งเรื่องพลศึกษามีความสำคัญมาก เพราะฉะนั้นเด็กจะต้องเรียนรู้ มีคุณธรรม จริยธรรม และมีพลานามัยที่สมบูรณ์ เด็กกลุ่มนี้คือผู้ใหญ่ในอนาคตของประเทศ หากเราไม่เริ่มแก้ไขก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากในการรักษาโรคที่ไม่มีเชื้อ และจะเป็นปัญหาในอนาคต ดังนั้น จะต้องอาศัยโรงเรียนและผู้ปกครองในการร่วมมือเรื่องการออกกำลังกาย และเรื่องเกี่ยวกับอาหาร ซึ่งเด็กเดี๋ยวนี้กินอาหารฟาสต์ฟู้ดมาก และต้องดูแลอาหารในโรงเรียนให้ถูกหลักโภชนาการ การจำหน่ายสินค้าในโรงเรียน เช่น สินค้าที่เป็นน้ำตาล ไขมัน แป้ง ที่จะทำให้เด็กมีโภชนาการเกิน" โฆษก ศธ.กล่าว
ทั้งนี้ โครงการ เด็กไทยดูดี มีพลานามัย มีวัตถุประสงฆ์เพื่อส่งเสริมสุขภาพและแก้ไขปัญหาโภชนาการ ให้ทุกคนดูดี มีพลานามัย ควบคุมปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคอ้วนและป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดในอนาคต ตลอดจนมีสุขภาพดี ซึ่งการเข้าร่วมโครงการ จะมีผลดีกับทางดีกับทางโรงเรียนคือ สามารถได้รับการพิจารณาผ่านเกณฑ์ สมศ.เป็นโรงเรียนที่มีคุณภาพในระดับดีมากที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพชีวิต มีความสามารถในการบริหารจัดการ การร่วมกิจกรรมกับสถาบันอื่นๆ ในระดับประเทศ แก้ไขปัญหาสุขภาพนักเรียนและบุคลากร มีผลดีกับครูที่ร่วมกิจกรรมแสดงศักยภาพในการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตนักเรียน ตนเอง และครอบครัว ส่วนผลดีกับนักเรียนคือเกิดความตระหนักรู้ด้านอาหารและการออกกำลังกายสร้างเสริมสุขภาพและสติปัญญาแล้ว ยังขยายความรู้สู่ครอบครัวทำให้ทุกคนมีสุขภาพดี
นายพะโยม กล่าวต่อว่า ในวันนี้ตนจะประชุมร่วมกับผู้บริหารสถานศึกษาเอกชนในเขตกรุงเทพมหานครทั้งหมด ก็จะหารือถึงเรื่องนี้ด้วย เพื่อให้ตระหนักในการดูแลสุขภาพของเด็กนักเรียน และจะขับเคลื่อนโครงการ "เด็กไทยดูดี มีพลานามัย" เพื่อลดภาวะโภชนาการเกิน อย่างไรก็ตาม การขยายผลให้มากขึ้นโดยความสมัครใจของโรงเรียน และจะต้องศึกษากันอย่างจริงจัง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี