6 ก.พ. 61 เวลา 15.00 น. นายสุนทรา พลไตร ผู้อำนวยการส่วนข้อมูลคดีและมาตรการพิเศษ ทางกฎหมาย สำนักงาน ป.ป.ง. พร้อมเจ้าหน้าที่ได้เข้าพบ พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส ผกก.สภ.เมืองหนองคาย เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินการกับ นายสุบัน เตียสิริ และนายคำบอน เตียสิริ สองพี่น้องชาวลาว ที่ซุกซ่อนเงินสด 98 ล้านบาท ไว้ในรถยนต์ และพยายามจะนำออกนอกประเทศ ทางด่านพรมแดนสะพาน มิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย แล้วถูกเจ้าหน้าที่ศุลกากรจับกุมได้ เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.60 ที่ผ่านมา
คดีนี้หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ศุลกากรได้อายัดเงินทั้งหมดไว้ แล้วดำเนินการตาม พ.ร.บ.ศุลกากร กับชาวลาวทั้งสองคน โดยทั้งสองคนยอมรับว่าเป็นเงินของครอบครัวที่ทำธุรกิจรับแลกเปลี่ยนเงินตรา ต่างประเทศที่นครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งนำเงินดอลลาร์สหรัฐมาแลกเป็นเงินบาทที่ธนาคารแห่งหนึ่ง ในจังหวัดหนองคาย และระหว่างการดำเนินการเจ้าหน้าที่ ป.ป.ง.ได้ร่วมสอบสวนด้วย
นายสุนทรา พลไตร ผู้อำนวยการส่วนข้อมูลคดีและมาตรการพิเศษทางกฎหมาย สำนักงาน ป.ป.ง. กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า ได้รับมอบหมายจากเลขาธิการ ป.ป.ง. ให้มาร้องทุกข์กล่าวโทษกับสองพี่น้องชาวลาว เนื่องจากได้สอบสวนข้อเท็จจริงเชื่อได้ว่าทั้งสองคนมีมูลในการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (7) ความผิดเกี่ยวกับการลักลอบหนีศุลกากรตามกฎหมาย ว่าด้วยศุลกากร และ มาตรา 5 เกี่ยวกับการโอน รับโอน หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด เพื่อซุกซ่อน หรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้น หรือกระทำด้วยประการใด ๆ เพื่อปกปิดหรืออำพราง ลักษณะที่แท้จริงการได้มา แหล่งที่ตั้ง การจำหน่าย การโอน การได้สิทธิใด ๆ ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการ กระทำความผิด โดยมีอัตราโทษในฐานฟอกเงิน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่ สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ง.มีข้อมูลว่าทั้งสองคนมีพฤติการณ์เข้าข่ายการฟอกเงิน แต่ไม่สามารถเปิดเผย ข้อมูลได้ ซึ่งคดีนี้มีมูลฐานของการพิจารณาความผิดอาญาฐานฟอกเงิน ในการนำเงินซึ่งเป็นของต้องกำกัดเข้า-ออกนอกราชอาณาจักร โดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร เป็นความผิดฐานลักลอบหนีศุลกากรตาม มาตรา 3 (7) โดยทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด เป็นทรัพย์สินที่ได้ใช้ในการกระทำความผิดมูลฐาน ลักลอบหนีศุลกากร จึงเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับกระทำความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน และนายสุบัน กับ นายคำบอน สองพี่น้องชาวลาว ได้สมคบและร่วมกันเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด เพื่อซุกซ่อน ปกปิดหรืออำพรางลักษณะที่แท้จริง การได้มาซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดหรือได้มา ครอบครอง โดยรู้ในขณะได้มาครอบครองว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จึงผิดฐานสมคบ และร่วมกันฟอกเงิน ซึ่งเป็นอาญาแผ่นดินไม่สามารถยอมความได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี