22 มี.ค.61 ที่หน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงความคืบหน้า อุบัติเหตุรถทัวร์ท่องเที่ยวพลิกคว่ำที่อำเภอวังน้ำเขียว เมื่อคืนที่ผ่านมา ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 1 ราย ที่โรงพยาบาลเซนต์เมรี่นครราชสีมา ทำให้ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิตแล้วรวม 18 ราย แยกเป็นหญิง 12 ราย และชาย 6 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 32 ราย โดยทั้งหมดเป็นชาวบ้านจากพื้นที่ 2 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลหลุบ และตำบลห้วยโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งชาวบ้านได้เหมารถทัวร์ท่องเที่ยวไปเที่ยวทะเลที่จังหวัดจันทบุรี และขณะเกิดเหตุกำลังเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดกาฬสินธุ์
ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่า เกิดจากระบบเบรกมีปัญหาและเบรกแตก เพราะช่วงระยะทางก่อนเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร ผู้ได้รับบาดเจ็บและรอดชีวิต บอกว่า ได้กินเหม็นไหม้ ก่อนที่จะได้ยินเสียงคนในรถตะโกนบอกว่า 'รถเบรกไม่อยู่ เบรกแตก' จากนั้นรถทัวร์ก็วิ่งลงเนินเขาอย่างเร็ว และปีนข้ามแท่งปูนกั้นเกาะกลางถนน พุ่งข้ามไปยังฝั่งถนนอีกเลน ชนเข้ากับต้นไม้ขนาดใหญ่ และร้านค้าที่ตั้งอยู่ริมทางทั้งหมดรวม 5 ร้านจนพังยับเยิน
นางสมจิตร จำปาศรี ผู้โดยสารที่รอดชีวิตจากอุบัติเหตุสยองขวัญในครั้งนี้ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุรถทัวร์วิ่งส่ายไปมาเป็นระยะทางยาว และก็ได้ยินเสียงคนในรถตะโกนบอกว่า 'รถเบรกไม่อยู่ เบรกแตก' ผู้โดยสารที่อยู่หลายคนที่อยู่ในรถหลายคนได้ก้มตัวหมอบลงในรถ จากนั้นรถก็เสียหลักพุ่งข้ามแท่งปูนกั้นเกาะกลางถนนชนกับต้นไม้ และร้านค้าที่อยู่ริมทางยังถนนอีกฝั่ง ซึ่งหลังเกิดเหตุ ตนเห็นผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดจำนวนมาก
ทั้งนี้จากการตรวจสอบระบบสัญญาณจีพีเอสของรถทัวร์คันดังกล่าว พบว่าในช่วงก่อนเกิดเหตุรถทัวร์วิ่งด้วยความเร็วประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น ทำให้คาดว่าสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ น่าจะเกิดจากระบบเบรกของรถทัวร์ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังตรวจสอบไม่พบตัวผู้ขับขี่รถทัวร์ และยังไม่ทราบว่าเสียชีวิตในเหตุการณ์อุบัติเหตุครั้งนี้หรือไม่
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้สั่งการให้ตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา โดยได้ประสานไปยังหน่วยกู้ภัยฮุก 31 นครราชสีมา ให้ดำเนินการเคลื่อนย้ายศพผู้เสียชีวิตกลับไปยังจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด พร้อมกันนี้ยังได้ประสานไปยังบริษัทประกันภัย ให้เร่งดำเนินการเยียวยาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตอย่างเร่งด่วนแล้ว
ขณะเดียวกันบรรยากาศที่โรงพยาบาลวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา มีญาติและครอบครัวผู้เสียชีวิตหลายราย เริ่มทยอยเดินทางไปติดต่อเพื่อขอรับศพผู้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งญาติบางรายถึงกับร้องไห้ปานขาดใจ เป็นไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ บางครอบครัวถึงกับเป็นลมต้องประคองกันไป ซึ่งทางญาติๆก็คอยปลอบใจอยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งพิสูจน์ศพแต่ละรายให้ชัดเจนว่าเป็นใคร เพื่อมอบให้ญาติๆนำศพผู้เสียชีวิตกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
ในส่วนของทางจังหวัดนครราชสีมา ได้มีการประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ในการดำเนินการเคลื่อนย้ายศพและอำนวยความสะดวกในการเดินทาง โดยทางจังหวัดกาฬสินธุ์ได้ส่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ มาประสานในพื้นที่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเดินทางมายังพื้นที่เกิดเหตุ โดยยอดผู้เสียชีวิตขณะนี้เพิ่มเป็น 18 ราย เป็นชาย 6 ราย (ผู้ใหญ่ 5 ราย เด็กชาย 1 ราย) หญิง 12 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 28 ราย หญิง 15 ราย ชาย 13 ราย นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลจำนวน 18 ราย แยกเป็น รพ.มหาราช นครราชสีมา 9 ราย , รพ.วังน้ำเขียว 3 ราย , รพ.กรุงเทพมหานครราชสีมา 3 ราย ,รพ.ปักธงชัย 1 ราย , รพ.เทพรัตน์ 1 ราย , รพ.ค่ายสุรนารี 1 ราย และสามารถกลับบ้านได้ 10 ราย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กำลังทำการพิสูจน์อัตลักษณ์และตรวจสอบรายชื่อผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บให้ชัดเจน เนื่องจากบางศพไม่สามารถระบุตัวตนได้ ซึ่งศพผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่ รพ.วังน้ำเขียวจำนวน 17 ศพ และรพ.เซนแมรี่ อ.เมือง อีก 1 ศพ ซึ่งเสียชีวิตเพิ่มเมื่อเช้านี้ โดยทราบว่ารถทัวร์คันดังกล่าวมีประกันชั้น 1 กับบริษัทอาคเนย์ประกันภัย จะได้ช่วยเหลือต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้องคลิก : ญาติร่ำไห้ขาดใจ! เผยลางสังหรณ์เหยื่อทัวร์มรณะ ล่าตัวคนขับหลบหนี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี