บิ๊กป้อมถกรับมือสงกรานต์
สั่งเช็คข่าวยิบ
ระวังหัวรุนแรง-วินาศกรรม
ตั้งด่านบริการทั่วประเทศ
มุ่งลดอุบัติเหตุบนถนน
บขส.เช็ครถก่อนเดินทาง
“บิ๊กป้อม”ถกรับมือ 7 วันอันตรายช่วงสงกรานต์ กำชับฝ่ายความมั่นคง เน้นข่าวเฝ้าระวัง“กลุ่มหัวรุนแรง-วินาศกรรม”ทำลายภาพลักษณ์ประเทศสั่ง สตช.เพิ่มตรวจเข้มงวดบังคับใช้กม.ป้องกันลดอุบัติเหตุตามคำสั่ง คสช.เคร่งครัด “คมนาคม”สั่งกรมการขนส่งฯ-บขส.เตรียมรถรองรับกลับบ้าน ให้เพียงพอ ย้ำนโยบายเมาไม่ขับ
เมื่อวันที่ 2 เมษายน พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม เป็นประธานประชุม การประชุมศูนย์แก้ไขปัญหาความมั่นคงแบบบูรณการ(ศมบ.)เพื่อเตรียมความพร้อมรักษาความมั่นคงปลอดภัยของสังคม การป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2561 ว่าที่ประชุมหารือภาพรวมถึงมาตรการดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยทางสังคม ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ฝ่ายความมั่นคง ยังคงให้ความสำคัญกับงานด้านการข่าว การบูรณการการทำงานร่วมกันรวมทั้งจัดให้มีแผนเผชิญเหตุหรือมาตรการรองรับเมื่อมีสถานการณ์ฉุกเฉินระดับพื้นที่ เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยว
“โดยในพื้นที่ชั้นใน จะจัดเป็นพื้นที่จัดงานเฉพาะ(Zoning )ขอความร่วมมืองดจำหน่ายแอลกอฮอล์ รณรงค์แต่งกายให้เหมาะสมและร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อม โดยเจ้าหน้าที่จะเข้มงวดบังคับใช้กฎหมาย กับทุกกลุ่มเสี่ยงที่อาจเป็นภัยกับสังคมและสถานประกอบการที่เป็นแหล่งมั่วสุม การเพิ่มแสงสว่าง และกล้องวงจรปิดในพื้นที่เสี่ยงให้มากขึ้นทั้งนี้ในพื้นที่ชั้นนอก ที่ติดประเทศเพื่อนบ้าน ฝ่ายความมั่นคงยังคงเข้มสกัดกั้นอาชญากรรม ยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของประชาชนภาพรวม
สำหรับการดำเนินงานตามแผนบูรณการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 61ช่วงคุมเข้ม 7 วันอันตราย (11-17เม.ย.2561)จะเน้นทำงานร่วมกันระดับพื้นที่มากขึ้น โดยมีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน(ศปถ.) ตั้งแต่ระดับจังหวัดลงถึงระดับท้องถิ่น เพื่อบริหารข้อมูลสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนย้อนหลัง 3 ปีในแต่ละกลุ่มพื้นที่เฝ้าระวัง และปัจจัยเสี่ยง ทั้งด้านคน ด้านยานพาหนะ ด้านถนนและด้านสภาพแวดล้อม
บังคับใช้กม.จริงจัง/ด่านชุมนุม
พล.ท.คงชีพกล่าวอีกว่าโดยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ยังคงเข้มบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและต่อเนื่องกับ ผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ประมาท ขาดวินัยและไม่เคารพกฎจราจรโดยเฉพาะขับรถเร็ว เมาสุรา ไม่มีใบขับขี่ การขับขี่จักรยานยนต์โดยไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย,ยานพาหนะที่ดัดแปลงและไม่ปลอดภัย,การปรับปรุงเสริมความปลอดภัยกับถนนที่เป็นจุดเสี่ยง จุดอันตรายที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยจากการชำรุดของผิวถนนและพื้นที่ก่อสร้าง รวมทั้งเพิ่มแสงสว่างและป้ายสัญญาณ,การจัดตั้ง”ด่านชุมชน”และ “สถาบันครอบครัว” เฝ้าระวังกันเอง , การขอความร่วมมือผู้ประกอบการหยุดหรือหลีกเลี่ยงกิจการรถบรรทุกช่วงเทศกาลสงกรานต์
เฝ้าระวัง’หัวรุนแรง-วินาศกรรม’
“พล.อ.ประวิตรกำชับให้ความสำคัญกับแผนบูรณการฯดังกล่าวพร้อมให้ทุกส่วนราชการ ตื่นตัวและให้ความสำคัญกับมาตรการด้านการข่าว เฝ้าระวังการก่อวินาศกรรมและป้องกันเหตุที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด จากกลุ่มหัวรุนแรงกลุ่มเห็นต่างที่ต้องการทำลายภาพลักษณ์ของประเทศ โดยเฉพาะศูนย์กลางระบบขนส่งทั้งทางบก ทางน้ำและอากาศ รวมทั้งจุดเสี่ยงอื่นๆขณะเดียวกัน ในพื้นที่จัดงานที่มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ต้องจัดตั้งศูนย์อำนวยการร่วมระดับพื้นที่โดยมีแผนเผชิญเหตุและการซักซ้อมร่วมกัน มีการหมุนเวียนเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่” โฆษก กห.กล่าวและว่า
กำชับ ศปถ.- สตช.ตรวจเข้ม
สำหรับการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน พล.อ.ประวิตรได้กำชับให้ ศปถ.ในทุกระดับ ต้องถือเป็นหน้าที่และจริงจังในการนำข้อมูลทางสถิติและปัจจัยเสี่ยงระดับพื้นที่ที่ผ่านมา ไปบริหารงานและปรับแก้ไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำ พร้อมทั้งเตรียมชุดปฏิบัติงานเร่งด่วน ตอบสนองการแจ้งเหตุจากประชาชนพร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้ สตช.เพิ่มความถี่การตรวจ เข้มงวดบังคับใช้กฎหมายจราจรและมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุตามคำสั่งคสช.อย่างเคร่งครัด
บิ๊กป้อมสั่งทุกด่านห้ามรับส่วย
พล.ท.คงชีพ กล่าวว่าโดยตำรวจทางหลวง รับผิดชอบในเส้นทางสายหลัก กระทรวงมหาดไทย รับผิดชอบในเส้นทางสายรอง และให้ความสำคัญกับการทำงานของด่านชุมชนโดยเฉพาะช่วงเย็นถึงกลางคืนซึ่งทุกด่านตรวจต้องใช้คำพูดสุภาพ วาจาเป็นมิตรและต้องไม่มีการเรียกรับส่วยโดยเด็ดขาด พร้อมทั้งกำชับให้กระทรวงสาธารณสุข เตรียมความพร้อมแผนด้านการตอบสนองหลังการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุได้ทันท่วงที ทั้งนี้ขอให้ทุกส่วนราชการการประสานความร่วมมือกับสื่อมวลชนร่วมประชาสัมพันธ์สร้างการตระหนักรู้และรณรงค์การมีส่วนร่วมของประชาชนควบคู่กันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เทศกาลสงกรานต์ปีนี้เป็นเทศกาลแห่งความสุขปลอดภัยและรักษาสิ่งแวดล้อม
หากมีเหตุความไม่มั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแจ้ง1190,พบการชำรุดของเส้นทางที่เป็นเหตุของอุบัติเหตุ แจ้ง1586,พบความเสี่ยงหรืออุบัติเหตุบนทางหลวง แจ้ง1193,พบเหตุด่วน เหตุร้ายแจ้ง.191
สั่ง กรมขนส่งฯ-บขส.ให้เพียงพอ
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวว่าได้มีการหารือกับหน่วยงานที่บริหารการเดินรถในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เช่น กรมการขนส่งทางบก และบริษัทขนส่งจำกัด(บขส.) โดยเน้นย้ำให้จัดรถบริการผู้โดยสารให้เพียงพอต่อความต้องการเดินทางของประชาชนโดยเฉพาะการเสริมรถโดยสารไม่ประจำทาง หมวด 30 เข้ามาให้บริการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยหลังจากนี้ทางขนส่งทางบกแต่ละจังหวัดได้เริ่มทำการตรวจสภาพรถตั้งแต่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา และขณะนี้มีรถหมวด 30 เข้ามาลงทะเบียนแล้ว 311 คัน จากเป้าหมายที่ต้องมีรถเข้ามาเสริมไม่น้อยกว่า 400 คัน โดยเมื่อผ่านการตรวจสภาพแล้วจะต้องมีการติดป้ายแสดงหน้ารถ เพื่อให้สามารถนำรถออกวิ่งได้ หากรถคันใดไม่ผ่านการตรวจสภาพก็จะมีการพ่นสเปรย์ “ห้ามใช้” ทันทีรวมทั้งมาตรการคุมเข้มคนขับ ที่ต้องมีระดับแอลกอฮอล์และสารเสพติดเป็นศูนย์
สั่งตรวจเข้มรถซ้ำก่อนออกวิ่ง
ทั้งนี้ขั้นตอนการลงทะเบียนจะแตกต่างจากครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางกรมการขนส่งทางบกจัดทำแค่เพียงการตรวจเช็ค ซ่อมบำรุงของผู้ประกอบการเท่านั้นเพราะมีเวลาจำกัดส่วนในปีนี้มีเวลาเตรียมตัวมากกว่าทุกปีโดยขนส่งจังหวัดทุกแห่งจะต้องตรวจสอบสภาพรถซ้ำก่อนออกใบอนุญาตเส้นทาง หากพบรถโดยสารที่ไม่ผ่านการตรวจสอบจะสั่งห้ามออกให้บริการรวมถึงด้านมาตรการความปลอดภัยได้เน้นย้ำว่าให้รถโดยสารประจำทางและรถหมวด 30 ทุกคันจะต้องตรวจมาตรฐานซ้ำก่อนนำออกวิ่งบริการ
กำชับคุมเข้มรถบัสเช่า2ชั้น
นอกจากนี้ได้เตรียมประชุมกับคณะกรรมการนโยบายขนส่งทางบก เรื่องการพิจารณาการจดทะเบียน รถเช่าเหมา2ชั้นนั้น ทางกระทรวงคมนาคมมีนโยบายชัดเจนในส่วนของรถโดยสารประจำทางนั้นจะไม่มีการจดทะเบียนเพิ่มส่วนไหนรถหมวด 30จะมีการควบคุมตามประกาศที่ออกไปแล้วทั้งในเรื่องของมาตรความสูง จำนวนที่นั่ง ความแข็งแรงของตัวถังและวัสดุไม่ติดไฟ ในอนาคตก็จะมีมาตรการจำกัดพื้นที่วิ่งออกมารวมถึงอาจนำเรื่องของอายุการใช้งานมาพิจารณาด้วยเพื่อป้องกันการใช้ช่วงล่างของรถ2ชั้นมาประกอบเป็นรถใหม่ และวันที่1มี.ค.2562จะบังคับใช้มาตรการความแข็งแรงของที่นั่ง มาตรการเข็มขัดนิรภัย รวมถึง มาตรการวัสดุทนไฟของตัวรถและวันที่ 1ก.ค.2562 จะบังคับใช้เรื่องมาตรฐานตัวถังรถโดยสาร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี