ปัจจุบันสาธารณรัฐประชาชนจีนมีการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี นวัตกรรม เจริญก้าวหน้าอย่างมาก ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้ผู้ประกอบการจีนไปลงทุนต่างประเทศ ตามนโยบาย “Go Out Aboard” และ“One Belt, One Road” ได้ จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะนำไปสู่ความร่วมมือทางด้านการเกษตรระหว่างประเทศไทยกับประเทศจีน
ล่าสุด สภาเกษตรกรแห่งชาติ นำโดย นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานฯ ได้เข้าพบคุณจาง เพ้ย ตง ที่ปรึกษาฝ่ายการค้าและเศรษฐกิจ และเข้าพบ ฯพณฯ ลวี่ เจี้ยน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เพื่อหารือความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างสภาเกษตรกรแห่งชาติ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน และมูลนิธิพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรไทย เพื่อนำไปสู่ความร่วมมือด้านการพัฒนาเกษตรกรของทั้ง 2 ประเทศ พร้อมกับได้ศึกษาดูงานด้านไผ่ เห็ด และเครื่องจักรกลเกษตร ใน 3 มณฑลของจีน ได้แก่ มณฑลเจ้อเจียง ซานตงและหูหนาน
นายประพัฒน์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า หากสามารถประสานความร่วมมือระหว่างกันได้อย่างใกล้ชิดจะสนับสนุนให้เกิดการพัฒนายกระดับเกษตรกรไทยไปสู่ความเจริญก้าวหน้าอย่างเข้มแข็ง มั่นคง ยั่งยืน ซึ่งจากการเข้าศึกษาดูงานด้านไผ่ อุตสาหกรรมแปรรูปไผ่ของจีนมีความก้าวหน้ามาก มีสถาบันวิจัยไผ่แห่งชาติเป็นพี่เลี้ยงในอุตสาหกรรมนี้ มีนักวิชาการด้านไผ่อยู่ประมาณ 300 คน คอยให้คำปรึกษาแนะนำเกษตรกรผู้ปลูกไผ่,สายพันธุ์ไผ่ , การแปรรูปกลางน้ำปลายน้ำทุกระดับ เช่น ตัดแต่ง อบ ให้สี ทอเสื่อ ทอเป็นหัตถกรรมไผ่ หมอนไผ่ เฟอร์นิเจอร์จากไผ่ ซึ่งจะมีการแปรรูปต้นน้ำกลางน้ำในหมู่บ้านแล้วส่งไปยังโรงงานใหญ่ สามารถนำไผ่แช่น้ำกาวแล้วอบแห้งจึงอัดฮาร์ดบอร์ดเป็นไม้อัดหนา อัดจนกลายเป็นไม้เนื้อแข็งซึ่งเป็นไม้ที่แข็งที่สุดในโลก ส่งไปขายที่เยอรมนีเป็นหลัก รวมทั้งยุโรป โดยโรงงานมียอดขายปีละ 1 หมื่นล้านหยวนหรือราวห้าหมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ จีนยังใช้ไผ่เป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาความยากจน แก้ปัญหาการชะล้างหน้าดิน ความชื้น การฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ซึ่งประเทศจีนประสบความสำเร็จในการพัฒนาอุตสาหกรรมไผ่ เราสามารถถอดบทเรียนมาใช้กับประเทศไทยได้เพื่อให้ไผ่เป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ของไทย โดย China National Bamboo Research Center เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ยินดีให้ความร่วมมือด้านเทคนิคและวิชาการ ด้วยการจัดส่งผู้เชี่ยวชาญมาช่วยศึกษาวิจัย พัฒนาการปลูกไผ่และยกระดับการแปรรูปเพิ่มมูลค่าเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตลอดจนยินดีให้การสนับสนุนด้านการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มพูนพัฒนาความรู้ ความสามารถ และทักษะในการบริหารจัดการ การปลูก การแปรรูปไผ่ให้แก่เกษตรกรและผู้เกี่ยวข้องของไทย รวมทั้งบริษัทแปรรูปผลิตภัณฑ์จากไผ่ของจีน สนใจจะร่วมมือด้านการค้า การลงทุนในประเทศไทยด้วย
ด้านการเข้าศึกษาดูงานเรื่องเห็ด เห็ดในจีนมีหลากหลายสายพันธุ์ทั้งจากธรรมชาติและจากการวิจัยของสถาบันวิจัยเห็ดของมณฑลซาน ตง มีการนำเห็ดมาอบความร้อนเพื่อฆ่าเชื้อแล้วแช่ในน้ำจืดบริสุทธิ์นำไปบรรจุขวดและกระป๋องขายได้ทั่วประเทศจีน มีโรงงานแปรรูปเห็ดขนาดใหญ่ ทำน้ำเห็ด เห็ดอบแห้ง จำหน่ายปีหนึ่ง 500 ล้านหยวน หรือ ประมาณ 2,500 ล้านบาท โดยโรงงานที่ไปดูงานใช้เครื่องจักร automatic ใช้หุ่นยนต์เป็นหลัก มีแรงงานไม่เกิน 5 คน หากมีความร่วมมือด้านเทคนิคและวิชาการเพื่อการศึกษาวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมเห็ดในประเทศไทยจะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร จะเป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ผลตอบแทนที่ดีให้แก่เกษตรกร
ส่วนการเข้าศึกษาดูงานด้านเครื่องจักรกลเกษตร โรงงานขนาดใหญ่ผลิตเครื่องจักรกลขนาดหนัก รถแทรกเตอร์ขนาดใหญ่ รถเกี่ยวข้าวขนาดใหญ่ทั้งล้อยางและตีนตะขาบเป็นโรงงานของบริษัทมหาชนของจีน อีกโรงงานผลิตเครื่องจักรกลขนาดกลางและขนาดเล็กอยู่ที่มณฑลหูหนาน มีเครื่องเกี่ยวข้าวร้อยกว่าแรงม้าขนาดบรรจุ 1 ตันคล้ายที่เกษตรกรไทยใช้ รถไถขนาดเล็กซึ่งทั้ง 2 รายการราคาต่ำกว่าไทยราว 30% เครื่องสีข้าววันละตันราคาขายหน้าโรงงานประมาณ 4-5,000 บาท มีเครื่องอบธัญพืชซึ่งใช้พลังงานจากชีวมวลต้นทุนต่ำมาก หากจัดให้มีการแลกเปลี่ยนสินค้าเกษตรของไทย เช่น ข้าวหอมมะลิ ยางพารา และผลไม้ กับเครื่องจักรกลเกษตรของจีน รวมถึงการร่วมมือจัดแสดงสินค้า การแลกเปลี่ยนการเยือน การร่วมมือด้านเทคนิคและวิชาการ ตลอดจนถึงการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นฐานการลงทุนเพื่อการขยายการดำเนินธุรกิจสู่ประเทศอาเซียน ตามแนวนโยบาย “One Belt, One Road Initiative” จะเป็นทิศทางที่ดี
นอกเหนือจากนั้น ยังมีการบันทึกความเข้าใจและบันทึกความตั้งใจของสภาเกษตรกรแห่งชาติกับ 3 มณฑลของประเทศจีน เพื่อให้พาณิชย์มณฑลที่เป็นผู้บริหารเรื่องเศรษฐกิจของมณฑลเป็นเจ้าภาพในการทำบันทึกความเข้าใจ ในการส่งเจ้าหน้าที่และตัวแทนบริษัทมาศึกษาดูงานในประเทศไทย แสวงหาความร่วมมือในเชิงรูปธรรมทั้งในระยะสั้น และระยะยาว โดยทั้ง 3 มณฑลพร้อมที่จะนำสินค้าเกษตรของประเทศไทยไปวางจำหน่าย และเปิดช่องทางให้เป็นพิเศษสำหรับสภาเกษตรกรแห่งชาติ เช่น มณฑลซานตง จะเปิดโกดังและเจรจากับพ่อค้าให้มาทำข้อตกลงเรื่องการซื้อข้าวหอมมะลิออแกนิกส์จากประเทศไทย และผลไม้หลากหลายที่ ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดนี้สภาเกษตรกรแห่งชาติได้จัดทำบันทึกนำเรียนนายกรัฐมนตรีเพื่อการสนับสนุนกิจกรรมร่วมกันของทั้งสองประเทศต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี