พระผู้ใหญ่มีเอี่ยว!
พบพัวพัน‘เงินทอนวัด’
ผบก.ป.แย้มสังกัด‘มส.’
โอน5ล้านให้คนในบ้านหรู
บก.ทท.จ่อปลดร.ท.ฉาว
กองปราบฯบุกค้นบ้านหรู ย่านบางกรวย หลังพบเบาะแส เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ โอนเงิน 5 ล้านบาท ที่ได้รับจาก พศ. มาให้คนในบ้าน แย้มเกี่ยวข้องกับพระผู้ใหญ่ใน มส. ขณะที่ บก.ทท. เตรียมปลด “ร.ท.ฐิติทัศน์” นายทหารพัวพันคดีเงินทอนวัด ออกจากราชการ หากไม่รายงานตัวภายใน 15 วัน
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 19 พฤษภาคม พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม(ผบก.ป.) พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองปราบปรามกว่า 20 นาย นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 64/16 ในหมู่บ้านธรินภรณ์ ต.วัดชลอ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านหรู 2 ชั้น เนื้อที่กว่า 100 ตารางวา ภายในมีรถยนต์ยุโรปราคาแพงจอดอยู่ในโรงรถ มีหญิงสาววัยกลางคนไม่ขอเปิดเผยชื่อ เป็นผู้พาเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในบ้าน รวมทั้งรถยนต์บีเอ็มดับเบิ้ลยูอย่างละเอียด โดยใช้กว่า 1 ชั่วโมง
พล.ต.ต.ไมตรี กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นในครั้งนี้สืบเนื่องจากการตรวจสอบบัญชีเป้าหมายที่มีการ ใช้จ่ายที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการทุจริตของวัดใหญ่ๆ หลายวัดในกรุงเทพฯ พบว่า เส้นทางเงินมาจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ได้โอนเงินให้เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในเขตกรุงเทพฯ เพื่อใช้ในกิจกรรมเกี่ยวกับการสอนโรงเรียนปริยัติธรรม แผนกสามัญ จำนวน 5 ล้านบาท แต่เมื่อได้เงินมาเจ้าอาวาสวัดกลับโอนเงินจำนวนนั้นทั้งหมดมาที่บุคคลที่อยู่ในบ้านหลังนี้
ผบก.ป. เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบก็พบหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับทางวัดจำนวนหนึ่ง โดยจะยึดไปตรวจสอบ โดยสิ่งที่พบคือเอกสารในการเช่าที่ดินแปลงหนึ่งจากวัด พบว่าบุคคลในบ้านหลังนี้ได้ตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อเช่าพื้นที่บางส่วนของวัด บริเวณเชิงสะพานสมเด็จประปิ่นเกล้า ในราคาเพียง 3 หมื่นกว่าบาท แต่กลับนำไปปล่อยเช่าให้คนอื่นเปิดร้านอาหาร เพื่อรองรับทัวร์จีนต่อในราคากว่า 3 แสนบาท ซึ่งเป็นราคาที่แพงกว่าหลายเท่าตัว และต้องตรวจสอบต่อไปว่าส่วนต่างเหล่านี้มีการส่งต่อกลับไปที่วัดหรือไม่ โดยจะเก็บหลักฐานที่ได้จากการตรวจค้นและเชิญตัวบุคคลดังกล่าวไปสอบปากคำที่กองปราบปรามต่อไป
“ผู้รับโอนมีความเลื่อมใสศรัทธาพระรูปนี้เป็นอย่างมาก และมีความสนิทสนมคุ้นเคยกันในระดับหนึ่ง โดยพบว่าเงินถูกโอนมายังบัญชีของผู้ที่พักอาศัยในบ้านหลังนี้ จำนวน 3 ครั้ง รวมเป็นเงิน 5 ล้านบาท ยอมรับว่าพระที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้เป็นพระชั้นผู้ใหญ่ในมหาเถรสมาคม(มส.)” ผบก.ป. กล่าว
นอกจากนี้ ชุดสืบสวนกองปราบปราม ยังกระจายกำลังเข้าตรวจค้นร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์ ในละแวกเดียวกัน ซึ่งเป็นธุรกิจของผู้ที่พักอาศัยในบ้านหลังนี้ เพื่อค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมด้วย
ขณะที่ความคืบหน้าการเข้าตรวจค้นบ้านพักย่านรามคำแหงเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พบว่ามีความเกี่ยวข้องกับ เจ้าหน้าที่ทหารยศ ร.ท.ในสังกัดศูนย์รักษาความปลอดภัย(ศรภ.) กองบัญชาการกองทัพไทย โดย ผบก.ป. ระบุว่า เบื้องต้น นายทหารรายดังกล่าวประสานจะเข้าให้ปากคำ เพื่อชี้แจงที่มาที่ไปของอาวุธปืนที่ตรวจยึดได้ ในวันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคมนี้ ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.)
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกองบัญชาการกองทัพไทย(บก.ทท.)ว่า เมื่อ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พล.อ.หัสพงศ์ ยุวนวรรธนะ รอง ผบ.ทสส. ทำการแทน ผบ.ทสส. ได้ลงนามในคำสั่ง กองบัญชาการกองทัพไทย ที่ 208/2561 สำรองราชการ ร.ท.ฐิติทัศน์ นิพนธ์พิทยา สังกัดศูนย์รักษาความปลอดภัย(ศรภ.) กองบัญชาการกองทัพไทย ซึ่งเป็นที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวพันกับคดีเงินทอนวัด ทั้งนี้ หาก ภายใน 15 วัน ร.ท.ฐิติทัศน์ ไม่มารายงานตัวก็จะถูกปลดออกจากราชการทันที
ทั้งนี้ หลังจากที่ พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผบ.ทสส. มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงเป็นการเร่งด่วนและคณะกรรมการได้พยายามติดตามตัว ร.ท.ฐิติทัศน์ แต่ไม่สามารถติดต่อได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบประวัติการเข้ารับราชการของ ร.ท.ฐิติทัศน์ พบว่า ได้ใช้วุฒิปริญญามหาบัณฑิตนิเทศศาสตร์ สื่อสาร การท่องเที่ยวและบันเทิง มหาวิทยาลัยเกริก เข้ามารับราชการทหารประจำ ศรภ. เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2559 ในยุคที่ พล.อ.สมหมาย เกาฏีระ ดำรงตำแหน่ง ผบ.ทสส. หลังจากนั้น ได้ถูกส่งตัวมาช่วยราชการที่สำนักงานของ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี เสนาธิการทหาร ที่ในขณะนั้นเป็น รองเสนาธิการทหาร แต่ปรากฏว่า ร.ท.ฐิติทัศน์ ไม่เคยมาทำงานที่สำนักงาน รองเสธ.ทหาร มีแต่ชื่อขอฝากเอาไว้เท่านั้น เพราะถูกขอตัวไปช่วยราชการที่สำนักตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)เพื่อไปดูแลนายพิศิษฐ์ ลีลาวัชโรภาส ผู้ว่าฯ สตง.ตั้งแต่ปี 2559
ทั้งนี้ตามระเบียบทางราชการผู้ว่าฯ สตง.สามารถร้องขอนายทหาร ไปติดตามดูแลได้ เพราะการทำหน้าที่ของผู้ว่าฯ สตง.ในเรื่องการตรวจสอบต่างๆ อาจมีอันตรายซึ่ง ศรภ.มีหน้าที่รับผิดชอบในการส่งนายทหารไปดูแลรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญตามคำร้องขอ
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตุว่า จากการตรวจสอบของคณะกรรมการสอบสวนฯปรากฎวาไม่พบว่ามีหนังสือขอตัวไปช่วยราชการที่ สตง.ของ ร.ท.ฐิติทัศน์ อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร แต่อย่างใด แต่ทว่าเป็นที่รับรู้กันภายในว่า ร.ท.ฐิติทัศน์ ไปติดตามนายพิศิษฐ์ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ขึ้นหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปค้นบ้านพักและพบอาวุธปืนและทรัพย์สินมีค่าจำนวนมาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี