23 พ.ค.61 ในการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย ณ กระทรวงอุตสาหกรรม มีมติให้สาร “พาราควอด” (Paraquat) ซึ่งใช้สำหรับกำจัดวัชพืชยังคงใช้ได้ต่อไปในประเทศไทยภายใต้การควบคุม ด้วยเหตุผลว่ายังไม่มีข้อสรุปที่เพียงพอด้านผลกระทบต่อสุขภาพ แม้สารดังกล่าวจะถูกห้ามใช้ในประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) มาตั้งแต่ปี 2550 เนื่องจากมีรายงานว่าเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคพาร์กินสัน (Parkinson's disease)
นายสมบูรณ์ ยินดียั่งยืน รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า คกก.วัตถุอันตราย มีมติให้สารเคมีเกษตร 3 ชนิด คือพาราควอด คลอร์ไพริฟอส (Chlorpyrifos) และไกลโฟเซต (Glyphosate) ยังใช้ได้ต่อไปโดยหลังจากนี้ กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเร่งจัดทำข้อควบคุมการใช้สารทั้ง 3 ชนิดว่าจะใช้ได้กับพืชใดหรือพื้นที่ใดได้บ้าง ให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า เคยมีผลการศึกษาเชื่อมโยงคลอร์ไพริฟอสกับสติปัญญาที่ด้อยลงของเด็ก และไกลโฟเซตกับการเกิดมะเร็ง ดังนั้นมติของที่ประชุม คกก.วัตถุอันตราย จึงสร้างความผิดหวังให้กับกลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมและนักวิจัยทางการแพทย์ ที่เรียกร้องให้ภาครัฐประกาศห้ามใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิดในประเทศไทยโดยเด็ดขาด โดยอ้างผลการศึกษาที่เชื่อมโยงกับโรคพาร์กินสัน รวมถึงการปนเปื้อนในผลผลิตทางการเกษตรและแหล่งน้ำ
เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (Thai-PAN) ออกแถลงการณ์ว่า รู้สึกเสียใจแทนคนไทย เพราะคณะกรรมการไม่สนใจที่จะปกป้องสุขภาพของประชาชน แต่กลับไปเป็นเครื่องมือของกลุ่มทุนที่ขายผลิตภัณฑ์เหล่านี้ จึงเรียกร้องให้ทบทวนการตัดสินใจอีกครั้ง เนื่องจากกรรมการของภาครัฐมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับพันธมิตรทางอุตสาหกรรม
รายงานของ RTL Today ยังกล่าวถึงประเทศจีน โดยระบุว่า บรรดาผู้ผลิตพาราควอดในจีนกำลังหาทางทำการตลาดในต่างประเทศ เนื่องจากรัฐบาลจีนประกาศจะทยอยลดการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชในประเทศตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป โดย โจฮันเนส เคตลาร์ (Johannes Ketelaar) ผู้เชี่ยวชาญองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) กล่าวว่า อุตสาหกรรมพาราควอดของจีนมีรายได้หลักจากการส่งออก แต่เนื่องจากหลายประเทศเริ่มห้ามใช้สารดังกล่าว ผู้ผลิตพาราควอดในจีนจึงเผชิญกับอนาคตที่ท้าทาย
ขณะที่ประเทศไทย มีรายงานว่าเป็นตลาดมืดของสารเคมีเกษตรที่ผสมอย่างผิดกฎหมาย ด้วยแรงดึงดูดของเกษตรกรที่ต้องการลงทุนน้อยแต่ได้ผลผลิตมาก แต่ก็ส่งผลกระทบด้านสุขภาพกับทั้งผู้บริโภครวมถึงตัวเกษตรกรเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- ‘สารเคมีเกษตร’ รู้มีพิษร้าย..แต่ไม่ง่ายที่จะเลิก
- ‘สารเคมีเพื่อการเกษตร’ อันตรายแน่..หรือแค่ใช้ไม่เป็น?
ขอบคุณข่าวจาก : https://today.rtl.lu/news/science-and-environment/1184076.html
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี