ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ค.61 นายเตชะ ทับทอง ตัวแทนเพจบีคอส วีแคร์ ได้ลงพื้นที่ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพื่อหาข้อเท็จจริงกรณีที่แม่เด็กเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ว่าลูกสาวซึ่งเรียนอยู่ชั้น ป.1 ถูก 3 ด.ช. อายุ 6 ขวบ 8 ขวบ และ 11 ขวบ ซึ่งเรียนโรงเรียนเดียวกัน ร่วมกันล่วงละเมิดทางเพศที่บริเวณริมสระน้ำแห่งหนึ่งในหมู่บ้าน
นายเตชะ กล่าวว่า จากลงพื้นที่ข้อมูลที่ได้รับในเบื้องต้น ยังก้ำกึ่งว่าเป็นการเล่นกันด้วยความคึกคะนองของเด็ก หรือเกิดขึ้นจริง ซึ่งต้องรอดูผลตรวจจากแพทย์ และรายละเอียดจากการสอบปากคำของทีมสหวิชาชีพอีกครั้ง ส่วนเรื่องคดีความต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย เพราะไม่ว่าจะเป็นฝั่งเด็กที่ถูกกระทำ หรือเด็กที่ก่อเหตุ ล้วนอยู่ในฐานะผู้เสียหาย ต้องได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก และในวันนี้ได้พาย่า และพ่อของเด็กหญิงผู้เสียหาย มาพูดคุยหารือกับทางยายและแม่เด็ก เพื่อวางแผนว่าจะทำอย่างไรต่อไปในการที่จะเลี้ยงดูเด็กที่ถูกกระทำ เพราะเท่าที่เห็นสภาพครอบครัวก็มีฐานะยากจน และตายายก็เลี้ยงหลานถึง 5 คน
“ขอฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยให้ความสำคัญกับเด็กทั้ง 2 ฝ่าย เพราะถือเป็นผู้เสียหายทั้งคู่ เพราะเด็กอาจจะทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ปัญหาสำคัญคือต้องหาสาเหตุให้ได้ว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร มีการลอกเลียนพฤติกรรมจากไหน และต้องช่วยกันหาแนวทางแก้ไขให้ถูกจุด โดยเฉพาะการดูแลบำบัดฟื้นฟูสภาพจิตใจในระยะยาวอย่างไร เพื่อให้กลับมาใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติ รวมถึงหาวิธีป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะดังกล่าวขึ้นซ้ำอีก” นายเตชะ กล่าว
ด้านย่าของเด็กหญิงผู้เสียหาย กล่าวว่า หลังทราบข่าวจากยายและแม่เด็ก ก็รู้สึกตกใจมาก ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้กับเด็กเพียงแค่ 6 ขวบ อีกทั้งอยากจะมาพูดคุยกับยายและแม่เด็กด้วย ว่าจะขอรับน้องไปดูแลเองเพราะเกรงว่าหากอยู่ที่นี่ต่อ อาจจะส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ จากการถูกล้อเลียน ทั้งยังห่วงเรื่องอนาคตของเด็กด้วย
ขณะที่ทีมสหวิชาชีพ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระสัง ร่วมกับนักจิตวิทยา และนักสังคมสงเคราะห์บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.บุรีรัมย์ ร่วมสอบปากคำ 3 ด.ช. อายุ 6 , 8 และ 11 ขวบ ที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันล่วงละเมิดทางเพศ ด.ญ.ชั้น ป.1 ซึ่งจากการสอบปากคำเด็กทั้ง 3 คน ก็ให้ข้อมูลตรงกันว่ามีการกระทำล่วงละเมิดทางเพศจริง แต่เป็นลักษณะการเล่นกันด้วยความคึกคะนอง และรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ได้มีการจ้างให้มาทำร้ายกัน
ทั้งนี้ หนึ่งใน ด.ช.ได้เสนอจะให้เงิน ด.ญ.ผู้เสียหาย 35 บาท หากทำให้ดู ซึ่งเหยื่อก็ร่วมเล่นด้วย โดยไม่ได้มีการบังคับขืนใจ หรือกระทำรุนแรง ทั้งให้ข้อมูลด้วยว่าได้มี ด.ช.พยายามที่จะสอดใส่อวัยวะเพศของผู้เสียหายด้วย ขณะที่พนักงานสอบสวนก็ได้ทำการสอบปากคำพยานแวดล้อมเพิ่มเติม เพื่อหาข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวเช่นกัน
ด้าน น.ส.กุลจิรา โฉบไสว หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังจากนี้ต้องทำการสืบหาข้อเท็จจริงให้ชัดเจน ว่าใครเป็นคนที่ใช้อวัยวะเพศสอดใส่ ใครมีส่วนร่วมกระทำ หรือสมรู้ร่วมคิด รวมถึงคนที่ว่าจ้างให้กระทำก็ต้องมีความผิดด้วย แต่การกระทำผิดของเด็กก็ต้องได้รับการคุ้มครอง เพราะอายุไม่ถึง 10 ขวบ ก็จะเป็นการกระทำที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ อาจจะมีพฤติกรรมเลียนแบบ หรือมีความคึกคะนองเวลาที่อยู่รวมกันเป็นกลุ่มหลายๆคน และ ด.ญ.ผู้เสียหายก็ไม่ได้ถูกขัดขืนใจหรือบังคับ แต่มีส่วนร่วมเล่นด้วย
สำหรับในคดีอาญาอาจไม่ถึงขั้นต้องจับเด็กที่กระทำไปปรับพฤติกรรม เพราะเด็กอายุไม่ถึง 10 ปีถึงแม้ว่าไม่มีความผิดทางกฎหมาย แต่อาจจะใช้วิธีทางจิตวิทยา ให้คำปรึกษา ซึ่งจะต้องรวมไปถึงตัวผู้ปกครองด้วยถึงการปล่อยปละละเลยให้เด็กเล่นกันตามลำพัง จนทำให้เกิดพฤติกรรมการเล่นที่ไม่เหมาะสม จึงได้ฝากถึงพ่อแม่ผู้ปกครองควรดูแลเอาใจใส่บุตรหลานอย่างใกล้ชิดมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก
ส่วน ด.ญ.ผู้เสียหาย ทางบ้านพักเด็กและครอบครัว ได้รับเข้ามาดูแลเยียวยาเรื่องสภาพจิตใจแล้ว โดยจะมีนักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยาคอยให้คำแนะนำปรึกษาเด็กอย่างใกล้ชิด หากเห็นว่าเด็กมีความทั้งด้านสภาพร่างกาย จิตใจ ก็จะส่งกลับไปอยู่ในพื้นที่ตามปกติ
ขณะที่ผู้ปกครองของ ด.ช.ที่ถูกกล่าวหา ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกชายและครอบครัว โดยระบุว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะเกิดจากความคึกคะนอง หรือเล่นกันตามประสาเด็กเท่านั้น แต่โซเชียลกลับมีการไปโพสต์แชร์จนทำให้เกิดความเสื่อมเสีย ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาว่ามีญาติเป็นผู้มีอิทธิพลไปขอเคลียร์ให้จบเรื่องก็ไม่เป็นความจริง ความจริง คือ ยายของ ด.ญ.มาแจ้งกับผู้นำชุมชน ให้เรียกผู้ปกครองของ ด.ช.ทั้ง 3 คนมาตักเตือนเกี่ยวกับพฤติกรรมของเด็ก และยายแจ้งว่าจะพาหลานไป รพ.แต่ไม่มีเงินค่ารถ ด้วยความเห็นใจจึงได้ออกเงินเป็นค่ารถและค่าใช้จ่ายให้กับให้ยายเด็ก 2,000 บาท ซึ่งยายเองก็ไม่ได้ติดใจอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะเข้าใจว่าเด็กเล่นกัน แต่ไม่คิดว่าเรื่องราวจะบานปลายใหญ่โต จึงอยากวิงวอนขอให้ความเป็นธรรมกับ ด.ช.ที่ถูกกล่าวหาด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี