21 มิ.ย.61 จากกรณีนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทพมงคลรังษี คู่กรณีของร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ อดีตข้าราชการเกษียณตำรวจ ถูกสั่งให้ไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 8 (จังหวัดราชบุรี-กาญจนบุรี) ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดกาญจนบุรี นายปรีชา ใคร่ครวญ ได้เดินทางเข้าพบ นายอนันต์ กัลปะ ศึกษาธิการจังหวัดกาญจนบุรี (ศธจ.กาญจนบุรี) ที่ห้องทำงานฯ เพื่อร้องขอความเป็นธรรมในกรณีที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง โดยมี นายโชคชัย ฟักโต ผอ.โรงเรียนวัดพระแท่นดงรัง ในฐานะคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัด ฝ่ายกฎหมาย เข้าร่วมรับฟังด้วย ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงแล้วเสร็จ จากนั้นนายปรีชา จึงเดินทางกลับ โดยไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใด
แต่อย่างไรก็ตามนายปรีชา ก็ได้กล่าวเพียงสั้นๆว่า ขอให้นายอนันต์ กัลปะ เป็นผู้ให้ข่าว และขณะนี้ตนมาปฏิบัติหน้าที่ราชการในโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 8 ที่ศูนย์ประสานงาน ซึ่งตั้งอยู่โรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ จังหวัดกาญจนบุรี และไม่ขอพูดอะไรเกี่ยวกับคดีความ เพราะเรื่องอยู่ในกระบวนการศาลแล้ว ส่วนเรื่องการจัดทริปล่องแพกับแฟนคลับที่เคยเป็นข่าว นายปรีชาก็ไม่ขอเอ่ยถึง
จากนั้น ครูปรีชา ได้เดินทางไปที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อรับฟังคดีหมายเลขดำที่ ลบ.1/61 ที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้นัดพร้อมสอบข้อเท็จจริง ว่านายอัจฉะริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ เนื่องจากนายปรีชา ได้ยื่นฟ้องกรณีนายอัจฉะริยะนำคลิปเสียงเกี่ยวกับคดีหวย 30 ล้านบาทไปเผยแพร่
ด้านนายอนันต์ กัลปะ เปิดเผยว่า ครูปรีชา ได้ร้องเพื่อขอความเป็นธรรม ใน 2 ประเด็นหลักๆ คือ 1.ขั้นตอนอันเป็นสาระสำคัญในกระบวนการดำเนินการทางวินัย ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 8 (สพม..8) ซึ่งเป็นต้นสังกัดนั้น ไม่สมบูรณ์ครบถ้วนตามขั้นตอนของกฎหมายที่จะเสนอให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 ดำเนินการพิจารณาในการออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงได้
2.ในทางคดีของ ครูปรีชา ซึ่งขณะนี้ข้อมูลได้มีการเปลี่ยนแปลง และมีความเคลื่อนไหวของคดีตลอดเวลา โดยครูปรีชา อ้างว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ถูกดำเนินคดีทางอาญา จึงมาร้องทุกข์ ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดกาญจนบุรี (กศจ.กาญจนบุรี) และ ตน ในฐานะเลขา กศจ.กาญจนบุรี เพื่อขอความเป็นธรรมในเรื่องของการถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง
ในระหว่างนี้ทาง ศธจ.กาญจนบุรี จะรวบรวมข้อมูลให้ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งข้อมูลจาก สพม.8 และ จาก ครูปรีชา เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุม กศจ.กาญจนบุรี ในวันที่ 4 ก.ค.ที่จะถึงนี้ เพื่อให้ที่ประชุมร่วมกันพิจารณาว่าจะดำเนินการทางวินัยหรือไม่ อย่างไร รวมทั้งมาตรการทางการบริหารด้วย ส่วนคณะกรรมการสอบสวนซึ่งตนได้เตรียมการไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยมี นายโชคชัย ฟักโต ผอ.โรงเรียนวัดพระแท่นดงรัง ในฐานะคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัด ฝ่ายกฎหมาย เป็นประธานในการสอบสวนฯ นั้น ขณะนี้ได้ชะลอการปฏิบัติหน้าที่ของครูปรีชา ออกไปก่อน เพื่อรอผลการพิจารณาของที่ประชุมในวันที่ 4 ก.ค.2561
ทั้งนี้ในกรณีที่ข้าราชการถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง ผู้มีอำนาจ ตามมาตรา 53 คือ ศธจ. มีอำนาจในการพักราชการ หรือ ให้ออกจากราชการไว้ก่อนได้ จนกว่าคดีจะเป็นที่สิ้นสุด หากมีความผิดจริงก็ต้องออกจากราชการ แต่หากพิสูจน์ได้ว่าไม่มีความผิด ก็ให้กลับเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ทางราชการตามเดิม แต่อย่างไรก็ตามจะต้องพิจารณาด้วยความละเอียดรอบคอบ และต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี