นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายให้การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ลดพื้นที่ปลูกยางพารา โดยตั้งเป้าไว้ที่ 700,000 ไร่ และมอบหมายให้ กรมส่งเสริมการเกษตร จัดฝึกอบรมอาชีพที่เหมาะสมให้กับเกษตรกรชาวสวนยางที่สมัครเข้าร่วมโครงการพัฒนาอาชีพชาวสวนยางรายย่อยเพื่อความยั่งยืน ในเบื้องต้นวางแผนการส่งเสริมให้เกษตรกรที่ปลูกยางพาราปรับเปลี่ยนอาชีพจากการทำสวนยางพาราไปประกอบอาชีพอื่น โดยตั้งเป้าหมายในการลดพื้นที่ปลูกยางพารา จำนวน 150,000 ไร่ เพื่อลดปริมาณผลผลิตยางที่จะเข้าสู่ระบบ ลดความเสี่ยงจากราคายางที่ตกต่ำ เป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร และเป็นทางเลือกในการปรับเปลี่ยนมาสู่การทำอาชีพเกษตรกรรมใหม่ๆ
จากยอดผู้สมัคร 9,434 ราย ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ กับการยางแห่งประเทศไทยนั้น กรมส่งเสริมการเกษตรได้ดำเนินการวิเคราะห์และจัดทำแผนพัฒนาอาชีพการเกษตรเป็นรายบุคคล พร้อมทำหลักสูตรรายบุคคลเพื่อฝึกอบรม โดยมีวิทยากรจากกรมส่งเสริมการเกษตร กรมปศุสัตว์ กรมประมง และ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ร่วมให้ความรู้ตามหลักสูตรแผนพัฒนาอาชีพ โดยมอบหมายให้สำนักงานเกษตรจังหวัด และเกษตรอำเภอ เป็นผู้ดำเนินการจัดอบรม ณ ศูนย์การเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร หรือ ศพก. โดยแบ่งการอบรมออกเป็น 2 ครั้ง ครั้งละ 1 วัน ประกอบด้วย ครั้งที่ 1 เรื่องการวางแผนการผลิต โอกาสทางการตลาด และการลงทุน และครั้งที่ 2 จะเน้นด้านเทคโนโลยีการผลิต การดูแลรักษา การเก็บเกี่ยว ตลอดจนมาตรฐานการผลิต การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและผลิตภัณฑ์ ประกอบไปด้วย 8 อาชีพ ได้แก่ อาชีพปลูกผัก พืชไร่ ไม้ดอกไม้ประดับ ไม้ผล ไม้ยืนต้น สมุนไพร ประมง ปศุสัตว์ ทั้งนี้เกษตรกรที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการจะต้องเข้าร่วมการอบรมทั้ง 2 ครั้ง ถึงจะได้รับใบประกาศนียบัตรวิชาชีพ และจะได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี