ศ.คลินิกนพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงข่าว “สำเร็จเป็นแห่งแรกในเอเชีย ศิริราชผ่าตัดส่องกล้องทารกในครรภ์ รักษาภาวะกระเพาะปัสสาวะอุดกั้น” ว่า โรงพยาบาลศิริราชประสบความสำเร็จในการผ่าตัดทารกในครรภ์ด้วยการส่องกล้อง โดยทำการผ่าตัดแยกทารกแฝดที่มีการถ่ายเลือดระหว่างกันได้เป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งแต่ปี 2552 จึงพัฒนาการผ่าตัดทารกในครรภ์ ซึ่งป่วยด้วยโรคที่ซับซ้อนขึ้น เช่น การทำหัตถการระบายน้ำท่วมช่องเยื่อหุ้มหัวใจของทารกในครรภ์ ฯลฯ รวมแล้วประมาณ 300 ราย จนมาถึงผู้ป่วยรายนี้ที่มีปัญหาภาวะอุดกั้นในกระเพาะปัสสาวะ แต่ปัญหาคือ ยังอยู่ในครรภ์มารดา ทำให้การผ่าตัดลำบากมาก แต่หากไม่รักษาโอกาสเสียชีวิตสูง จึงมีการพัฒนาเทคนิคการส่องกล้องผ่าตัดทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ด้วยกล้องและเครื่องมือขนาดเล็กที่เรียกว่า ฟีโตสโคป (Fetoscope) เพื่อช่วยชีวิตของทารกขึ้น จนสามารถผ่าตัดรักษาทารกในครรภ์ที่ป่วยภาวะกระเพาะปัสสาวะอุดกั้นได้สำเร็จเป็นแห่งแรกในเอเชีย
รศ.นพ.วิทยา ถิฐาพันธ์ หัวหน้าเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา กล่าวว่า ภาวะกระเพาะปัสสาวะอุดกั้น (Posterior Urethral Valve) เป็นความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด ทารกบางคนมีความผิดปกติในพัฒนาการ ภาวะกระเพาะปัสสาวะอุดกั้นเกิดจากการมีเนื้อเยื่อที่ผิดปกติอุดกั้นทางออกของกระเพาะปัสสาวะที่ต่อไปยังท่อปัสสาวะทำให้น้ำปัสสาวะที่สร้างจากไตไม่สามารถผ่านออกมาได้ลักษณะคล้ายลิ้นหัวใจที่กั้นห้องหัวใจ ทำให้ปัสสาวะไม่สามารถขับออกได้ กระเพาะปัสสาวะบวมตึง อาจทำให้แรงดันย้อนกลับขึ้นไปตามท่อไต ทำให้ท่อไตขยาย ไตบวม และไตวายในที่สุด ซึ่งสาเหตุของการอุดกั้นนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด อย่างไรก็ตาม ภาวะนี้พบได้เพียงประมาณ 1 ใน 50,000 ของทารกในครรภ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี