ลุยยึดบ้านพักส่อรุกอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีฯ อายัด‘ไก่ฟ้าหลังเทา’ตรวจสอบ
21 ก.ย.61 ที่ห้องประชุมอุทยานแห่งชาติเอราวัณ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี นายธรรมรัฐ วงศ์โสภา ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3(บ้านโป่ง) มอบหมายให้นายศิวะวงศ์ เมืองพระ หัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์ทรัพยากร สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3(บ้านโป่ง) ร่วมกับนายปรยุษณ์ ไวว่อง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ , นายกฤติน หลิมตระกูล นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ ส่วนอุทยานแห่งชาติ สบอ.3 (บ้านโป่ง) , นายสิขกพงษ์ กระแจะจันทร์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอุทยานสมเด็จพระศรีนครินทร์ , นายชาติชาย ศรีแผ้ว หน.สปป.1(ภาคกลาง) , นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจพญาเสือ เจ้าหน้าที่ ตร.ปทส.ภ.จว.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) รวมทั้งนายสุทิน ชูชาติ วิทยากรระดับ 9 ทำหน้าที่หัวหน้าแผนกบำรุงรักษาเขื่อนศรีนครินทร์และอาคารโรงไฟฟ้า เจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย มณฑลทหารบกที่ 17 (มทบ.17) เจ้าหน้าที่ ตำรวจภูธร สภ.ศรีสวัสดิ์ ร่วมประชุมเพื่อตรวจสอบความแน่ชัดว่าพื้นที่ที่มีการบุกรุกครอบครองทำประโยชน์ โดยดำเนินการเปิดธุรกิจประเภทที่พัก(รีสอร์ท) จำนวน 1 แปลง บริเวณป่าบ้านปลายดินสอ หมู่ 5 ต.แม่กระบุง อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ว่าอยู่ในเขตรับผิดชอบของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)เขื่อนศรีนครินทร์ หรืออยู่ในเขตความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติเอราวัณ กันแน่
ทั้งนี้ เนื่องจากเมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา คณะเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ปรากฏว่านายประวิทย์ (ไม่ทราบนามสกุล) เจ้าของเป็นผู้ครอบครองพื้นที่ ซึ่งขณะตรวจสอบนายประวิทย์ ไม่อยู่ พบเพียงคนงานเฝ้า แต่นายประวิทย์ ได้ชี้แจงทางโทรศัพท์เบื้องต้น ว่า ที่ดินบริเวณก่อสร้างบ้าน ปัจจุบันมีน้ำท่วมบางส่วนนั้น อยู่ในบริเวณพื้นที่เขื่อนศรีนครินทร์(กฟผ.) และมีหลักเขตที่ระดับ 180 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง และในวันนี้คณะเจ้าหน้าที่ได้นัดหมายนายประวิทย์ ให้มาชี้แจง พร้อมกับให้นำพาชี้เขตด้วย แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ รอจนกระทั่งเวลาประมาณ 14.00 น.นายประวิทย์ ก็ไม่ได้เดินทางมาตามนัด
คณะเจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจหารือร่วมกัน โดยนายสุทิน ชูชาติ ตัวแทน กฟผ. กล่าวในที่ประชุมว่า ในส่วนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ไม่มีข้อกฎหมายในพื้นที่ เพียงมีข้อตกลงว่า กฟผ.ขอใช้พื้นที่จากเจ้าของที่เดิม ไม่ว่าจะเป็น กรมอุทยานฯ กรมธนารักษ์ ที่ในระดับ 180 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลางลงมา มีไว้เพื่อใช้ในการกักเก็บน้ำ เพื่อการคมนาคม เพื่อการเกษตร และการท่องเที่ยว และใช้ในการผลิตไฟฟ้าเป็นหลัก ในส่วนพื้นที่ที่ต่ำกว่า 180 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ลงมา กฟผ.เป็นผู้ขอใช้พื้นที่ ส่วนพื้นที่ที่อยู่ใต้น้ำนั้น เจ้าของพื้นที่เดิมก็จะเป็นผู้ที่มีอำนาจโดยตรง ส่วน กฟผ.จะไม่มีอำนาจในการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อผู้บุกรุก
อย่างไรก็ตาม ได้ตรวจสอบพื้นที่ในทุกๆ 3 เดือน หากพบใครบุกรุกพื้นที่ในระดับต่ำกว่า 180 ม.รทก. การไฟฟ้าก็ได้แค่เตือนว่าห้ามสร้างสิ่งปลูกสร้าง หรือปลูกพืชการเกษตรเท่านั้น เพราะถ้าหากพื้นที่มีปริมาณน้ำสูงขึ้นและเข้าท่วม กฟผ.ก็จะไม่รับผิดชอบความเสียหาย ดังนั้นพื้นที่ที่บุกรุกในครั้งนี้นั้นจึงอยู่ในความรับผิดชอบของกรมอุทยานฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ประชุมได้ข้อสรุปว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตความรับผิดชอบของหน่วยงานใด จึงร่วมกันนำกำลังเดินทางไปตรวจยึดพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งมีบ้านพักเป็นบ้านเดี่ยวแบบยกสูง จำนวน 4 หลัง โดยถูกน้ำท่วม จำนวน 2 หลัง และอีก 2 หลังอยู่บนตลิ่ง นอกจากนี้ยังมีโรงจอดรถอีก 2 หลัง แต่การตรวจสอบค่อนข้างลำบาก เจ้าหน้าที่ต้องนำเรือเข้าไปตรวจสอบ
ส่วนพื้นที่ที่ถูกบุกรุกมีจำนวน 4-1-35 ไร่ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้อายัดไก่ฟ้าหลังเทา เพศผู้ 1 ตัว และเพศเมีย 1 ตัว ที่ขังรวมกันอยู่ในกรง เอาไว้ตรวจสอบเนื่องจากไก่ฟ้าหลังเทาเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 หากผู้ครอบครองมีเอกสารการได้มาอย่างถูกต้องมาแสดงเจ้าหน้าที่ก็จะคืนให้ทันที
นายปรยุษณ์ ไวว่อง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ เปิดเผยภายหลังว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 กันยายนต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้ามาตรวจสอบบริเวณดังกล่าว ปรากฏว่าพบสิ่งปลูกสร้างหลายรายการที่ปลูกรุกล้ำแปลงพื้นที่พิสูจน์สิทธิ์ที่ทางการอนุญาตให้ใช้พื้นที่
เบื้องต้น จากการตรวจสอบพบว่ารุกล้ำเข้าไปในเขตอุทยานฯ ดังนั้นเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจยึดสิ่งปลูกสร้างเป็นอาคารทั้งหมด จำนวน 4 หลัง พื้นที่ที่ถูกบุกรุกประมาณ 4 ไร่เศษ ส่วนนายทุนที่เข้ามาบุกรุกเบื้องต้นทราบว่าชื่อประวิทย์ ยังไม่ทราบนามสกุล เจ้าหน้าที่จะทำบันทึกส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีสวัสดิ์เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำหรับมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นเราจะทำการตรวจวัดพื้นที่ก่อน โดยจะมีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณเข้ามาสำรวจ ซึ่งเราเรียกว่าสำรวจความเสียหายทางสิ่งแวดล้อมบางประการหลังการทำลายพื้นที่ป่าไม้ เช่นการเก็บตัวอย่างดิน การวัดความโตของต้นไม้ และมาคำนวณดูว่าคุณภาพของดิน ของน้ำของอากาศ และของไม้ เสียหายอย่างไร รวมทั้งค่าแร่ธาตุ หรือ NPK เสียหายอย่างไร จากนั้นก็จะคำนวณเป็นตัวเลขออกมาโดยใช้ โปรแกรมสำเร็จรูปในการคำนวณ ซึ่งจะต้องรอหลังการตรวจยึดเสียก่อนจึงจะสามารถคำนวณค่าเสียหายออกมาได้ แต่เบื้องต้นคาดว่ามูลค่าการก่อสร้างอาคารทั้ง 4 หลังอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านบาทเศษ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี