ชาวอีสาน มีขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมอันดีงาม ที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ทำให้ผู้ไปเยือนชื่นชอบติดใจ ในการมีน้ำใจไมตรีที่ดีกับแขกผู้มาเยือน จนเป็นที่กล่าวขวัญและยกย่องชมเชยมาโดยตลอด
โดยเฉพาะการจัดงานบุญประเพณี จะมีการจัดงานทุกเดือน เรียกว่าฮีตสิบสอง คือ มีงานบุญทั้ง 12 เดือน ซึ่งชาวอีสาน ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดมาช้านาน
การจัดงานบุญทั้ง 12 เดือนนี้มีสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ ข้าวตอกแตก ซึ่งเป็นขนมโบราณ ที่ชาวอีสานจะต้องทำขึ้นมาร่วมงานบุญทุกครั้ง เพราะถือว่าเป็นขนมแห่งโชคลาภ ขนมที่เป็นสิริมงคลของชาวอีสาน
ดังนั้นจึงมีแม่บ้านกลุ่มหนึ่ง ตระหนักถึงความสำคัญ ของขนมไทย โบราณ จึงได้มีการจัดตั้งกลุ่มอาชีพทำขนมไทย ขึ้นเป็นเวลา 15 ปี ปัจจุบันมีสมาชิกอยู่ 17 คน ด้วยการผลิตข้าวตอกแตกขาย เพื่อเป็นการอนุรักษ์ขนมโบราณให้เป็นที่รู้จักของเยาวชนรุ่นหลัง และให้คงอยู่คู่ชาวอีสานตลอดไป
นางพวงเพชร กัลยา อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่ที่ 2 บ้านดอนขวัญ ต.พนา อ.พนา จ.อำนาจเจริญ ประธานกลุ่มอาชีพทำขนมไทย เล่าว่า ขนมข้าวตอกแตก เป็นขนมโบราณ ที่ชาวอีสานนิยมทำขึ้นมาร่วมงานบุญประเพณีทั้ง 12 เดือน ซึ่งในแต่ละเดือนจะใช้ขนมตอกแตกไม่เหมือนกัน ก็ขึ้นอยู่กับเทศกาลหรืองานบุญนั้นๆ ทั้งนี้ชาวนาอีสาน ซึ่งเป็นหญิง จะมีความรู้เรื่องการทำขนมข้าวตอกแตกเป็นอย่างดีเนื่องจากได้รับการบอกสอนมาจากบรรพบุรุษ ซึ่งถ่ายทอดวิชาความรู้สืบต่อกันมา ตามปกติก็จะทำกินเฉพาะในครอบครัว หรือไม่ก็ทำไปร่วมในงานบุญประเพณีเท่านั้น นอกจากนี้ ยังทำเป็นของฝากของที่ระลึกมอบให้ญาติมิตรในโอกาสที่เดินทางไปเยี่ยมเยือนอีกด้วย
นางพวงเพชรบอกว่า ส่วนใหญ่พวกตนจะมีอาชีพทำนาปลูกข้าว พอหมดฤดูทำนา ก็จะมารวมกลุ่มกันทำขนมข้าวตอกแตกขาย เพราะเกรงว่าลูกหลานคนรุ่นใหม่จะไม่รู้จักข้าวตอกแตก ประกอบกับข้าวตอกแตกเป็นขนมโบราณ ที่ชาวอีสานทำมาใช้ในงานบุญช้านาน และมีรสชาติอร่อย หอม กรอบ ซึ่งเด็กสมัยใหม่อาจไม่เคยได้ลิ้มลองรสชาติของข้าวตอกแตกแน่นอน นอกจากนี้ยังได้ฝึกหัดบุตรหลานทำข้าวตอกแตกจนเป็นแล้วหลายรุ่น และที่ผ่านมา ทางโรงเรียนพนาศึกษา ได้เชิญไปเป็นวิทยากรบรรยายและสาธิตการทำข้าวตอกแตกให้เด็กนักเรียนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการอนุรักษ์ขนมไทยโบราณ และนักเรียนจะได้มีอาชีพติดตัว หาเลี้ยงตัวเองได้ด้วย
นางพวงเพชรบอกถึงการทำขนมข้าวตอกแตกว่า เริ่มแรกนำส่วนประกอบ เช่น ข้าวเหนียว ถั่วลิสงงา และน้ำตาล โดยนำข้าวเหนียว(ข้าวเปลือก)ที่ผ่านการตากแดด แห้งดีแล้ว จากนั้นเอาไปคั่ว ระหว่างคั่วข้าวก็จะแตกขยายตัว จนพอดี ต่อมา นำไปร่อน เก็บกากออก เสร็จแล้ว คัดเอาข้าวที่เหลือจากการร่อนออก แล้วนำมาทรงเครื่อง จากนั้นทำการอัดเป็นก้อน เป็นการเสร็จสิ้นขบวนการทำขนมข้าวตอกแตก สามารถวางจำหน่ายได้ ในราคาอันละ 5 บาท บรรจุถุง ถุงละ 20 บาท ซึ่งจะได้รสชาติที่หอม หวาน กรอบ อร่อย ถูกปาก ถูกใจผู้ลิ้มลองยิ่งนัก ที่ผ่านมามีพ่อค้าจาก จ.อุบลราชธานี ยโสธร มุกดหาร ร้อยเอ็ด และประเทศลาว สั่งไปขายเดือนละ 300- 500 ถุง สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ
นางพวงเพชรกล่าวทิ้งท้ายว่า ตั้งกลุ่มมาเป็นเวลา 15 ปี ไม่เคยรบกวนเงินงบประมาณจากหน่วยงานราชการแม้แต่บาทเดียว แถมที่ทำการกลุ่มยังต้องเช่าเขา ก็มองหาที่ดินว่างเปล่าแห่งใหม่อยู่ ซึ่งจะต้องเป็นที่ดินทำเลย่านการค้าในตัว อ.พนา ก็คิดว่าจะต้องขยับขยายในเร็วๆ นี้เนื่องจากที่อยู่ปัจจุบันนี้มันคับแคบมาก ประกอบกับมีพ่อค้าสั่งซื้อเข้ามามากขึ้น ขนมผลิตไม่ทันบางครั้งก็ต้องระดมครอบครัวสมาชิกให้มาช่วยทำจนหามรุ่งหามค่ำ โดยเฉพาะช่วงนี้ประเทศลาวสั่งซื้อเข้ามาจำนวนมาก
หากใครต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม หรือ ต้องการลิ้มลองขนมข้าวตอกแตกของ กลุ่มอาชีพขนมไทยแล้วละก็ ให้ติดต่อไปที่ โทร.08-3729-4133 ได้ทุกวัน...
สนธยา ทิพย์อุตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี