“ทันโลกทันวิทย์ จุดประกายความคิดสู่อาเซียน” คือสโลแกนของงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2556 มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและในประเทศอาเซียน จัดโดยองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ(อพวช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ปีนี้ เนรมิตพื้นที่ 42,000 ตารางเมตรในไบเทค บางนา จัดกิจกรรมผ่านระบบ 3 มิติและ 4 มิติ เพื่อให้เสมือนจริงมากที่สุดผ่านกิจกรรมหลากหลาย ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่วันที่ 6-21 สิงหาคม 2556
ถือเป็น 16 วันแห่งสาระความรู้ที่ประชาชนและเยาวชน จะต้องไปซึมซับกับความสนุกตื่นเต้นรวมทั้งความก้าวหน้าของ
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ที่สำคัญ ปีนี้ มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ จะจัดใหญ่กว่าทุกปี เนื่องจากเป็นการร่วมฉลองปีสากลแห่งความร่วมมือเรื่องน้ำ ตามมติขององค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ทั้งยังเป็นปีแห่งดาวหางที่จะมาเยือนโลกอีกด้วย
นายพีรพันธุ์ พาลุสุข รมว.วิทยาศาสตร์ฯ ให้ข้อมูลว่างานมหกรรมวิทยาศาสตร์ ปีนี้ ทั้งนิทรรศการ และเครื่องเล่น จะเน้นระบบ 3 มิติและ 4 มิติ เพื่อให้กิจกรรมน่าสนใจและมีความเหมือนจริงมากที่สุด โดยจะเป็นครั้งแรกที่มีการนำเสนอหุ่นยนต์เสมือนจริงที่สุดจากประเทศญี่ปุ่น คือ หุ่นยนต์ชิมาร่าซึ่งเป็นสัตว์ในจินตนาการ มี 3 หัวคือ เสือ แพะ และงู เคลื่อนไหวด้วยไฮโดรลิกเหมือนจริงขนาดสูง 1.5 เมตร นอกจากนี้ ยังมีหุ่นยนต์มังกร ขนาดเท่าตัวจริง ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศไทยกับญี่ปุ่นเพื่อแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์ต่างๆ ซึ่งเหมือนกับม้านิลมังกรของไทย
ไฮไลท์สำคัญที่ไม่ควรพลาดคือ เรื่องน้ำ ซึ่งปีนี้เป็นปีสากล จะมีเครื่องซิมูเลเตอร์ หรือบัสซิมมูเลเตอร์ 4 มิติ พาผู้คนไปผจญภัยกับการเดินทางของน้ำ ตั้งแต่ต้นกำเนิดของสายน้ำไปจนถึงมหาสมุทรเรียกว่าแค่ขึ้นไปนั่ง จอภาพรอบทิศทาง รวมถึงแสง สี เสียง ละอองน้ำ และสิ่งของรอบตัว ก็จะทำให้เรารู้สึกเหมือนกับกำลังผจญภัยอยู่ในน้ำจริงๆ
ส่วนของดาราศาสตร์ จะมีท้องฟ้าจำลองเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 10 เมตร มาให้ชม รวมถึงมีห้องคอนโทรลกล้องดูดาวที่เชื่อมโยงไปยังเครือข่ายต่างประเทศ สามารถสั่งการจากประเทศไทยให้กล้องดูดาวที่ประเทศอาร์เจนตินาหมุนไปทางทิศใดก็ได้ตามต้องการ รวมทั้งการนำเสนออุกกาบาต ภัยพิบัติจากนอกโลก และร่วมทดลองทำดาวหางด้วยตัวเองต้อนรับการมาเยือนดาวหางไอซอน ซึ่งถือเป็นดาวหางแห่งศตวรรษที่จะมาเยือนโลกในเดือน พ.ย.นี้ ซึ่งเป็นการต้อนรับปีแห่งดาวหางสากล
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกและสิ่งแวดล้อม ที่ไฮไลท์อยู่ที่การทำแม็พปิงลูกโลกที่แสดงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเรื่องของวิกฤติอาหารที่จะมีการจำลองเทคโนโลยีฟาร์มหมู ฟาร์มไก่ระบบปิด โซนเทคโนโลยีทางการแพทย์และยารวมถึงการนำเสนอเครื่อง Kinectic X-ray เป็นเครื่องมือที่ใช้ Kinectic เซ็นเซอร์ จับการเคลื่อนไหวของผู้เล่น แล้วแสดงผลเป็นโครงร่างกระดูกของแต่ละคนบนหน้าจอ และที่สำคัญ คือในส่วนของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ จะนำเทคโนโลยีการทำหมันแมลงวันทองมาสาธิตให้ชม
ไม่เพียงนิทรรศการจากในประเทศเท่านั้น แต่ยังมีอีก 7 ประเทศมาร่วมด้วย โดยสหรัฐอเมริกา นำเสนอนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคต สาธารณรัฐประชาชนจีน นำเสนอโซลาร์เซลล์ อังกฤษ นำเสนอความก้าวหน้าทางการแพทย์ ญี่ปุ่นเสนอความก้าวหน้าของอวกาศและดาวเทียม รวมทั้งเทคโนโลยีใหม่ๆ จากประเทศฝรั่งเศส รัสเซีย ออสเตรเลีย เป็นต้น
“ที่สำคัญปีนี้เป็นปีแรกที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ จะจัดประกวดคำขวัญของกระทรวง เพื่อให้รู้ว่ากระทรวงวิทย์ในสายตาประชาชนเป็นอย่างไร และประชาชนอยากให้วิทยาศาสตร์ของประเทศไทยเป็นไปในรูปแบบใด โดยแบ่งการประกวดเป็น 2 ระดับ
คือ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ชิงโล่และเงินรางวัล” นายพีรพันธุ์ กล่าวและว่า งานมหกรรมวิทย์ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ ว่าเป็นนิทรรศการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชีย โดยแต่ละปีมีผู้เข้าชมไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน และปีนี้คาดว่าจะมีถึง 1.3 ล้านคน
สำหรับงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติประจำปี 2556 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-21 ส.ค.นี้ ที่ไบเทค บางนา นอกจากนี้ระหว่างวันที่ 14-18 ส.ค.นี้ ยังมีการจัดงานเทคโนมาร์ท ที่ลานหน้าเซ็นทรัล เวิลด์ ราชประสงค์อีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี