23 ก.ย.56 ร.ต.ท.เสกสรรค์ รัมอรรถ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ประจำจังหวัดกาญจนบุรี ว่าพบศพหญิงสาวถูกยิงเสียชีวิต เหตุเกิดภายในแปลงทดลองพัฒนาดินและปลูกพืชหมุนเวียน เลขที่ 12/6 หมู่ 7 ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงนำกำลังรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธีระเดช อธิภัคกุล ผกก.สภ.ท่าม่วง พ.ต.ท.อาณุ อิ่มทอง รอง ผกก.สส.สภ.ท่าม่วง พ.ต.ท.มนัส จำเรียง รอง ผกก.ป.สภ.ท่าม่วง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ท่าม่วง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี แพทย์เวร ร.พ.ท่าม่วง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดกาญจนบุรี
ในที่เกิดเหตุพบศพ น.ส.สุรีทิพย์ หรือเต้ว แม้นทิม อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/1 หมู่ 1 ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี นอนเสียชีวิตอยู่ระหว่างโรงอาหารกับที่จอดรถ นุ่งกางเกงขาสั้นสีขาว สวมเสื้อยืดคอกลมทับด้วยเสื้อคลุมแขนยาวสีชมพู สภาศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.เข้าที่บริเวณศรีษะด้านหลัง มันสมองปนเลือดกระจายทั่วบริเวณ ใกล้กันพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. 1 ปลอก หัวกระสุน 1 หัว เจ้าหน้าที่จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน ห่างกันประมาณ 2 เมตร พบรถยนต์เก๋งของผู้ตาย ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว หมายเลขทะเบียน กต.8372 กาญจนบุรี จอดอยู่ที่โรงจอดรถ หลังชันสูตรพลิกศพ เจ้าหน้าที่จึงนำศพไปที่โรงพยาบาลท่าม่วง จากนั้นจึงนำส่งไปยังสถาบันนิติเวช เพื่อผ่าพิสูจน์อีกครั้งหนึ่ง
นางบำรุงค์ คงพุ่ม อายุ 49 ปี แม่ของผู้ตาย ให้การว่า ลูกสาวของตนเคยเป็นนักร้องตามร้านอาหาร แต่ได้เลิกร้องเพลงไปแล้ว ต่อมาได้คบหากันกับ นายวิรัช ยี่โถหุ่น อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/1 หมู่ 3 ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี พักอาศัยอยู่ในกระต๊อบภายในแปลงทดลองพัฒนาดินและปลูกพืชหมุนเวียนในที่เกิดเหตุ แต่ได้เลิกรากันไปนานแล้ว ภายหลังนายวิรัช ได้มาตามง้อเพื่อขอคืนดี แต่ลูกสาวไม่ยอมเนื่องจากลูกสาวไปมีแฟนใหม่เป็นเจ้าของสวนส้มอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช และได้หมั้นกันแล้ว โดยครอบครัวของตนและฝ่ายชายกำหนดวันแต่งงาน ในวันที่ 3 มกราคม ปีหน้า หลังจากนายวิรัช ทราบข่าวก็ได้โทรศัพท์ไปข่มขู่ลูกสาวของตนว่า หากไปแต่งงานกับชายอื่นจะยิงให้ตาย และจะบุกไปยิงภายในงานแต่งด้วย ซึ่งลูกสาวได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ตนฟังมาโดยตลอด ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 18.00 น.ของวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา นายวิรัชได้โทรศัพท์มาหาลูกสาว ขอร้องให้มาหาที่กระต็อบภายในแปลงทดลองพัฒนาดินและปลูกพืชหมุนเวียน ที่เกิดเหตุ ซึ่งตนก็ได้ห้ามปรามและขอร้องไม่ให้ลูกสาวมาพบ แต่ลูกสาวไม่เชื่อตนและขับรถยนต์เก๋งมาหา จากนั้นก็ไม่กลับบ้านอีกเลย จนกระทั่งมาถูกยิงเสียชีวิตในที่สุด
ด้าน พ.ต.อ.ธีระเดช อธิภัคกุล ผกก.สภ.ท่าม่วง เปิดเผยว่า จากการสอบสวนแม่ของผู้ตาย เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุมาจากการหึงหวง เนื่องจากผู้ตายที่เคยคบอยู่กับผู้ต้องสงสัยเคยเป็นแฟนกันมาก่อน ส่วนผู้ตายกำลังจะแต่งงานกับชายคนอื่นในต้นปีหน้า สร้างความไม่พอใจให้กับแฟนเก่าเป็นอย่างมาก จากนั้นแฟนเก่าได้วางแผนโทรศัพท์ให้ผู้ตายมาหาที่กระต็อบ เพื่อพูดคุยตกลงปัญหาชีวิตกัน แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ ทำให้ฝ่ายชายโมโหและคว้าอาวุธปืนยิงเข้าที่ศรีษะด้านหลังจนเสียชีวิต จากนั้นได้หลบหนีไป
จากการสอบสวนทราบว่า ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ในเวลาประมาณ ตี 1 แต่ชาวบ้านไม่ได้เอะใจอะไร เนื่องจากนายวิรัช มีนิสัยชอบยิงปืนขึ้นฟ้าในยามค่ำคืนอยู่เป็นประจำ ชาวบ้านบางรายเข้าใจว่ากำลังถ่ายทำภาพยนตร์ เนื่องจากในพื้นที่มีการถ่ายภาพยนต์อยู่ จนกระทั่งเวลาประมาณ 06.30 น.วันนี้ นายทินกรณ์ จินดาพงศ์ อายุ 51 ปี ชาวบ้านที่มาทำงานในแปลงทดลองพัฒนาดินและปลูกพืชหมุนเวียน ซึ่งเป็นของ นายชูชาติ แม้นทิม กำนันตำบลเขาน้อย และเป็นลุงของผู้ตาย มาทำงานตามปกติ และพบ น.ส.สุรีทิพย์ หรือเต้ว แม้นทิม ถูกยิงเสียชีวิต จึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน สภ.ท่าม่วง นำตัวตัว นางบำรุงค์ คงพุ่ม แม่ของผู้ตาย และญาติของผู้ตายไปสอบปากคำเพื่อหาสาเหตุเพิ่มเติม ส่วนตัวผู้ต้องหาขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ตัวแล้วว่าเป็นใคร ซึ่ง พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนาน ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี เดินทางมาร่วมคลี่คลายคดีแล้ว คาดว่าจะสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้ในเร็วๆ นี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี