เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ 24 ต.ค.56 ที่ชมรมนักข่าว ถ.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราชนางดวงจันทร์ นาคประเสริฐ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85/1 หมู่ 4 ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร ได้เดินทางเข้าพบกับผู้สื่อข่าว เพื่อร้องขอความเป็นธรรม กรณีน้องสาวของตน น.ส.จินดามาศ นาคประเสริฐ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85/5 หมู่ 4 ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร ถูกนายฉัตรชัย หรือชัย ช่างสุวรรณ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 ถนนสวนมังคุด ต.นาสาร อ.นาสาร จ.สุราษฏร์ธานี อดีตสามี ใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด.38 บุกเข้าไปจ่อยิง จำนวน 3 นัดจนถึงแก่ความตาย ภายในบ้านต่อหน้าผู้เป็นพ่อแม่และพี่ๆน้องๆ ขณะที่ น.ส.จินดามาศกำลังป้อนข้าวให้กับ ด.ญ.ณัฐฐานันท์ วัยเพียง 4 เดือน อยู่บนตักซึ่งเป็นบุตรสาวที่เกิดกับนายฉัตรชัย และหลังก่อเหตุนายฉัตรชัยได้ชิงเอารถเก๋งโตโยต้าคัมรี่สีเทา ทะเบียน กค 5322 สุราษฏร์ธานี ของ น.ส.จินดามาศขับหลบหนีไปอย่างลอยนวล ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.56 ที่ผ่านมาช่วงเวลาประมาณ 12.00 น.ซึ่งขณะนั้นตนอยู่ที่ประเทศเยอรมันนี จนมาถึงปัจจุบันคดียังไม่มีความคืบหน้าใดๆ
นางดวงจันทร์ เปิดเผยทั้งน้ำตา ตนเองในฐานะเป็นตัวแทนของครอบครัว “ นาคประเสริฐ “ ทำธุรกิจเปิดร้านนวดแผนไทยและสปา อยู่ที่ประเทศเยอรมนี ถึงกับเป็นทุกข์ใจไม่เป็นอันได้ทำงาน จึงตัดสินใจบินกลับเมืองไทยเพื่อติดตามคดีของน้องสาว
นางดวงจันทร์ เล่าว่า เมื่อต้นปี 2555 ที่ผ่านมา นายฉัตรชัย ได้มารู้จักและตีสนิทกับ น้องสาวของตนซึ่งเป็นช่างเสริมสวยเปิดร้านอยู่ที่บ้านที่เกิดเหตุ โดยนายฉัตรชัย มาพูดจาหว่านล้อมว่า เป็นถึงเจ้าของกิจการขนส่งมีรถบรรทุกและสวนผลไม้จำนวนมากอยู่ที่ อ.นาสาร ไปมาที่บ้านอยู่หลายครั้ง จนน้องสาวของตนเชื่อสนิทใจ และให้ความสนิทสนมจนกระทั่งถึงขั้นลงเอยอยู่กินด้วยกันจนมีลูกน้อยเป็นหญิง 1 คน ต่อมาภายหลังน้องสาวมาจับได้ว่าถูก นายฉัตรชัย หลอกลวง เพราะไปจับได้ว่านายฉัตรชัย มีเมียถึง 4 คน มีลูกกับเมียแต่ละคนรวม 3 คน และเป็นแค่เพียงคนขับรถบรรทุกสิบล้อรับจ้างทั่วไป ไม่ใช่เจ้าของกิจการแต่ประการใด ไม่มีแม้แต่สวนผลไม้ ขณะที่อยู่กินด้วยกันเพียงแค่ปีกว่าๆ นายฉัตรชัยยังได้หลอกลวงเอาเงินทองทรัพย์สิน ของน้องสาวที่ตนส่งมาให้จากประเทศเยอรมนี เดือนละหลายหมื่นบาท เพื่อเลี้ยงดูพ่อกับแม่ที่แก่เฒ่า ไปใช้อย่างฟุ่มเฟือย ถ้าน้องสาวไม่ให้เงินนายฉัตรชัย ก็จะลงไม้ลงมือทุบตีทำอย่างนี้เป็นประจำ สร้างความเกลียดชังให้กับครอบครัวของตนเป็นอย่างมาก หลังจากนั้น น้องสาวของตนก็ได้บอกเลิกกับนายฉัตรชัย และสั่งห้ามไม่ให้มาที่บ้านอีกต่อไป นายฉัตรชัย ไม่ละความพยายามยังคงตามตื้อง้อขอคืนดี แต่น้องสาวของตนไม่ขอพบเจออีกต่อไป เพราะเจ็บช้ำที่ถูกนายฉัตรชัยหลอกลวงมาโดยตลอด สร้างความไม่พอใจให้กับนายฉัตรชัยเป็นอย่างมาก ถึงขั้นขู่อาฆาตเอาชีวิตน้องสาวและครอบครัวของตนมาโดยตลอด จนกระทั่งในวันเกิดเหตุ นายฉัตรชัย ได้นั่งรถรับจ้างประจำทางจากบ้านที่ อ.นาสาร มาลงที่หน้าบ้านของ น.ส.จินดามาศ จากนั้น ได้บุกเข้าไปใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด.38 ที่พกติดตัวมาจ่อยิง น.ส.จินดามาศ ถึง 3 นัดซ้อน ขณะป้อนข้าวบุตรสาว จนถึงแก่ความตายและต่อหน้าผู้เป็นพ่อแม่ และชิงเอารถขับหลบหนีไปอย่างลอยนวล
หลังเกิดเหตุได้เพียง 2 วันเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาสัก ได้ไปขออำนาจศาลจังหวัดหลังสวน เพื่อออกหมายจับนายฉัตรชัย หรือชัย ช่างสุวรรณ คนร้าย ลงเลขที่ 52/2556 ลงวันที่ 10 มิ.ย. 2556 ในข้อหากระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยขณะนี้เวลาผ่านไปร่วม 5 เดือนแล้ว เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถตามจับตัว นายฉัตรชัย มาลงโทษตามกฏหมายได้ ตนจึงตัดสินใจบินกลับประเทศไทยเพื่อมาติดตามคดีร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน เพื่อให้ช่วยลงข่าว พร้อมกับนำภาพถ่ายหน้าตรงของคนร้ายออกมาแฉ เพื่อให้สังคมได้รับรู้และเป็นการช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งตามจับคนร้ายให้ได้โดยเร็วอีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้ นางดวงจันทร์ยังได้ตั้งเงินรางวัลนำจับให้จำนวนหนึ่งหากผู้ใดพบเห็น นายฉัตรชัย จนนำไปสู่การจับกุมตัวมารับโทษตามกฎหมาย โดยสามารถโทรศัพท์มาแจ้งเบาะแสได้ที่เบอร์ของ สภ.นาสัก เบอร์ 077–620–000 ,077–620–002 ,และ 077–620 –146 หรือติดต่อโดยตรงที่เบอร์โทรศัพท์ของนางดวงจันทร์ นาคประเสริฐ มือถือรหัสของประเทศเยอรมนี 4916090739 หรือที่เบอร์บ้านรหัสประเทศเยอรมนี 4984412799704 เพื่อขอรับเงินรางวัล หลังที่จับคนร้ายได้ ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี