นางซาโตโกะ ยาโนะผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษา ยูเนสโก ประเทศไทย เปิดเผยประสบการณ์จากการศึกษาระบบแนะแนวของประเทศต่างๆ ที่ได้พบมาว่า พบว่า ครูแนะแนวยังถูกแยกการทำงานอย่างโดดเดี่ยว ขาดการประสานงานกับครูวิชาอื่นๆ และไม่สนองตอบกับปริมาณความต้องการเฉพาะของเด็กนักเรียนที่มีความแตกต่างกันมาก เนื่องเพราะครูแนะแนวมีปริมาณไม่เพียงพอ อีกทั้ง ระบบแนะแนวกับระบบการจัดหางานโดยภาครัฐ สถานประกอบการ นายจ้างไม่เชื่อมประสานกัน คุณภาพของครูแนะแนวที่ไม่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ และก้าวไม่ทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและตลาดแรงงาน ทำให้ มาตรการในการแก้ไขการแนะแนวการศึกษาเพื่ออาชีพ ด้อยลงไป จึงต้องใช้ 5 ปัจจัย เข้ามาเป็นตัวแก้ปัญหา คือ 1.การมีกฎระเบียบรองรับ โดยเป็นหน้าที่ของโรงเรียนที่จะเตรียมความพร้อมและจัดการแนะแนวด้านอาชีพ 2.กำหนดนโยบายการจัดการศึกษาเพื่ออาชีพ 3.การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้อย่างเหมาะสม 4.การบริหารและจัดการข้อมูลเป็นระบบ และ 5.การมีหน่วยงานรับผิดชอบ โดยพ่อแม่ ผู้ปกครองต้องเข้ามามีส่วนร่วม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี