'อำนวย'เร่งสางคดีมั่งคง-ยิงกปปส. ชี้สลายแดง53ศาลไม่ได้ยกฟ้อง
วันจันทร์ ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2557, 21.16 น.
Tag :
1 ก.ย. 57 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ช่วยราชการ บช.น. เปิดเผยภายหลังเรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องประชุมติดตามคดีความมั่นคงว่า ตนได้เรียกเจ้าหน้าที่ระดับผู้บังคับการ ผู้กำกับการ หัวหน้าชุดสืบสวน รวมถึงเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ บก.น.1, 2, 5 และ 6 ซึ่งรับผิดชอบดูแลคดีความมั่นคงทั้งหมดที่เกิดขึ้นในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะคดียิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่กลุ่มผู้ชุมนุมก่อนหน้านี้เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดีทั้งหมด พร้อมทั้งได้สั่งให้เร่งรัดคดีค้างเก่า เช่น เหตุระเบิดที่ถนนบรรทัดทองและอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทั้งนี้คาดว่าภายในเดือนกันยายนนี้จะสามารถสรุปสำนวนทุกคดีจนแล้วเสร็จ เพื่อขอให้ศาลอนุมัติออกหมายจับต่อไป
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า ส่วนกรณีการเสียชีวิตของนายสุกริช ชัยมงคล ผู้ต้องหาคดียิงนายสุทิน ธราทิน อดีตแกนนำกองทัพประชาชนและเครือข่ายปฏิรูปพลังงานประเทศไทย (กคป.) ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา ระหว่างถูกควบคุมตัวอยู่ภายเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการชันสูตรศพด้วยวิธีพิเศษ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตว่าเกิดจากอาการป่วยหรือเสียชีวิตโดยกรณีพิเศษ รวมถึงตรวจหาว่ามีสารพิษอยู่ภายในร่างกายนายสุกริชหรือไม่ โดยจะแจ้งผลการตรวจพิสูจน์ให้ทราบต่อไป
"กรณีนี้ถือเป็นการเสียชีวิตในระหว่างการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่เรือนจำ จึงต้องมีการตรวจชันสูตรศพด้วยวิธีพิเศษ คือจะมีเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายเข้ามาร่วมตรวจสอบ อาทิ แพทย์นิติเวช อัยการ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และญาติของนายสุกริช เพื่อความโปร่งใสว่าเป็นการเสียชีวิตด้วยอาการป่วยหรือเสียชีวิตกรณีพิเศษ นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้ตำรวจ บก.น.2 และ สน.ประชาชื่น ให้ลงไปติดตามควบคุมเรื่องนี้เป็นพิเศษด้วย" พล.ต.ต.อำนวย ระบุ
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อว่า อีกเรื่องที่อยากชี้แจงสื่อมวชลชน เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด กรณีที่ศาลอาญาตัดสินยกฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ หรือพระสุเทพ อดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในคดีสลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553 โดยศาลระบุว่าไม่มีอำนาจพิจารณาคดีดังกล่าว จนเป็นเหตุให้มีญาติเหยื่อผู้เสียชีวิตออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น ขอชี้แจงว่าคดีดังกล่าวไม่ใช่เป็นการยกฟ้องแต่อย่างใด เพียงแต่ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีต่อไปให้กับ ปปช.ให้ทำการไต่สวนสำนวนคดี เพื่อส่งให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยพิพากษาคดีต่อไป เนื่องจากเป็นความผิดในตำแหน่งหน้าที่ราชการ
"คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จนเกิดความเสียหายขึ้น จึงเป็นอำนาจหน้าที่ของ ปปช. ในการไต่สวนมูลฟ้อง กรณีนี้จึงถือเป็นการฟ้องผิดศาลนั่นเอง อย่างไรก็ตามคดีดังกล่าวเป็นอำนาจของศาลฎีกาฯ นักการเมือง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อจำเลยทั้ง 2 คน เพราะถือเป็นศาลชั้นเดียว ตัดสินแล้วจบเลย ไม่มีใครชอบ" พล.ต.ต.อำนวย กล่าว