ยกวาทะ'ตู่-เต้น'ขยายผลชุดดำ 'วัชระ'จี้DSIรื้อคดี'แม้ว'ก่อการร้าย
วันจันทร์ ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2557, 13.04 น.
Tag :
15 ก.ย. 57 นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่แกนนำ และมวลชนกลุ่ม นปช. ออกมาปฏิเสธภายหลังจากที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคณะ แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้อาวุธสงครามยิงและขว้างระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ทหาร ขณะปฏิบัติการขอคืนพื้นที่จากกลุ่ม นปช. เมื่อว 10 เม.ย. 2553 ว่า ตนต้องขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.อ.สมยศ ที่ทำหน้าที่สมกับเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ที่ดำเนินการจับกุมชายชุดดำจากเหตุการณ์ความไม่สงบในปี 2553 แต่ในส่วนของแกนนำคนเสื้อแดงที่เป็นบริวารของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี ยังออกมาปฏิเสธเสมือนไส้เดือนถูกขี้เถ้า จึงอยากให้แกนนำเสื้อแดงยอมรับความจริง และกฎแห่งกรรมที่ทำไว้
คนที่ยืนยันได้ดีที่สุดว่ามีชายชุดดำหรือไม่คือ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. เนื่องจากเป็นคนเรียกร้องให้ประชาชนมาชุมนุม และปราศรัยขอบคุณชายชุดดำในวันที่ 10 เมษายน 2553 ที่เวทีผ่านฟ้า หลังมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ทหาร โดยระบุว่า “ต้องขอบคุณชายชุดดำ ถ้าไม่มีพวกเขาพวกเราคงตายมากกว่านี้เยอะ”
นอกจากนี้ นพ.เหวง โตจิราการ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. ยังกล่าวแสดงความชื่นชมชายชุดดำด้วยว่า เข้ามาช่วยชีวิตคนเสื้อแดงเอาไว้ด้วย
“ทั้งนายจตุพร และนพ.เหวง ระบุชัดเจนว่ามีชายชุดดำในคืนวันที่ 10 เมษายน 2553 ขณะที่แกนนำอีกหลายคนเช่น นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ก็เคยปราศรัย "ให้เผาทั่วประเทศ ผมรับผิดชอบเอง คนเสื้อแดงขี้ตกใจวิ่งเข้าห้างหากระเป๋าแบรนด์เนม" ทั้งหมดนี้คือคำยืนยันว่าชายชุดดำมีจริง และมีการก่อให้เกิดความรุนแรงเผาบ้านเผาเมือง เป็นการปลุกระดมให้ประชาชนต่อสู้อ้างว่าทำเพื่อประชาธิปไตย ผมอยากเตือนไปถึงชายชุดดำ ให้ระวังการฆ่าตัดตอน ขอให้รีบมอบตัวก่อนที่จะสายเกินไป และวิงวอนให้มอบตัวกับตำรวจให้ความร่วมมือกับกระบวนการยุติธรรม สารภาพและเปิดโปงผู้ที่อยู่เบื้องหลังชายชุดดำ เพื่อให้ได้รับการบรรเทาโทษในชั้นศาลต่อไป” นายวัชระ กล่าว
นายวัชระ กล่าวด้วยว่า ตนเห็นว่า ควรจะมีการขยายผลสำนวนก่อการร้ายของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ส่งถึงอัยการสูงสุด ที่ระบุชัดเจนว่ามีชายชุดดำเข้าร่วมปฏิบัติการในวันดังกล่าว ซึ่งคนที่ลงนามคือนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีดีเอสไอ แต่มากลับลำในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ว่าไม่มีชายชุดดำ
ดังนั้นจึงขอเรียกร้องไปยัง พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร อธิบดีดีเอสไอ ให้รื้อสำนวนใหม่เพื่อหาตัวผู้บงการอย่างแท้จริง เนื่องจากในสมัยนายธาริต มีการเป่าคดีให้กับผู้ต้องหาบางคน ตนมั่นใจว่าสามารถรื้อคดีที่อัยการสูงสุดไม่สั่งฟ้องคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ในข้อหาก่อการร้ายได้ เนื่องจากมีหลักฐานใหม่เกี่ยวกับเส้นทางการเงิน ที่ระบุว่ามีการโอนเงินจาก น.ส.กริชสุดา คุณะเสน หรือ “เปิ้ล สหายสุดซอย” ไปยังชายชุดดำที่ถูกจับกุม ดังนั้นจึงควรขยายผลเรื่องนี้ เพื่อสาวไปถึงต้นตอของผู้สนับสนุนทางการเงินให้กับชายชุดดำ
“ถ้าตำรวจและดีเอสไอ ดำเนินการตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ผมเชื่อว่าผู้บงการที่อยู่ต่างประเทศ จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายในที่สุด ไม่ว่าจะหนีไปไกลแค่ไหน คสช.ก็ต้องดำเนินการตรงไปตรงมาในทุกเรื่อง เพื่อให้ทุกฝ่ายเห็นว่าไม่มีการเลือกที่รักมักที่ชัง” นายวัชระ กล่าว