'บวรศักดิ์'ชวนออกความคิดเห็น ยันอ่านของคนรุ่นใหม่ลำดับแรก
วันเสาร์ ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2557, 13.37 น.
Tag :
20 ธ.ค. 57 ที่ห้องประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ บรรยายเรื่อง “การยกร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย” โดยนายบวรศักดิ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ในการร่างรัฐธรรมนูญขณะนี้เรากำลังร่างเป็นฉบับที่ 20 แล้ว ซึ่งถามว่าเยอะหรือไม่นั้น จาก 82 ปี หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ก็ต้องถือว่ายังไม่เยอะที่สุดในโลก เรายังไม่ได้ทำสถิติโลก รัฐธรรมนูญมีความสำคัญคือ 1.เป็นสิ่งที่แทนระบบการตัดสินใจการบริหารบ้านเมือง 2.เป็นเครื่องกำหนดสิทธิเสรีภาพของประชาชนของคนทั้งประเทศ เพราะฉะนั้นระบบการเมืองจึงสำคัญที่สุด รัฐธรรมนูญก็เหมือนกับหัวรถจักรถ้าหัวรถจักรดีก็จะพาเรื่องอื่นๆ ไปได้ดีและรวดเร็วทุกขบวน หากหัวรถจักรไม่ก็จะพาไปแบบถึงก็ชั่งไม่ถึงก็ชั่งก็ไม่ส่งผลดีกับทุกๆ ด้าน
นายบวรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ความขัดแย้งที่ร้าวลึก หลากสี อดีตนายกกับคนต่อต้านอดีตนายก จนมีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้น จนตกลงกันไม่ได้จนทำให้ พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้ามายึดอำนาจ แต่การยึดอำนาจเมื่อถามว่าปัญหาต่างๆ สงบลงหรือไม่ ตอบว่าสงบ แต่พอเปิดให้มีสิทธิเสรีภาพมากขึ้น แล้วปัญหาความขัดแย้งก็จะกลับเข้ามาอีก ซึ่งจริงๆ แล้วความขัดแย้งเกิดจากคนรุ่นตนที่เปรียบเสมือนพระอาทิตย์อัสดง จึงถามว่าคนหนุ่มสาวที่เปรียบเสมือนอาทิตย์อุทัยจะไม่เข้ามาใช้สิทธิในการกำหนดอนาคตของบ้านเมืองหรืออย่างไร
“ในช่วงที่มีการยึดอำนาจครั้งล่าสุด ผมทำหน้าที่เป็นอาจารย์อยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในตอนเช้าไปที่อาคารเรียน ผมเห็นนักศึกษาบางกลุ่มกำลังจับกลุ่มกันเล่นกีตาร์ ร้องเพลง บางคนก็นั่งเล่นอินตาแกรมในเช้าหลังจากวันที่ยึดอำนาจ จึงเป็นคำถามในใจว่าคนหนุ่มสาวที่ควรออกมาต่อสู้เพื่อความถูกต้องมันหายไปไหนหมดในวันนี้” นายบวรศักดิ์ กล่าว
นายบวรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ถ้าเราอยากเห็นบ้านเมืองสงบสันติมีความยุติธรรม นักศึกษาที่เข้าร่วมในวันนี้จะอยู่นิ่งเฉยไม่ได้ต้องเอาความคิดที่มีอยู่อย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช่ออกมาประท้วงเดินกัน เพียงแต่แสดงความคิดเห็นมาเท่านั้น ตนการันตีเลยว่าเราจะอ่านความเห็นของคนรุ่นใหม่เป็นลำดับแรกอย่างแน่นอน ทั้งนี้ อยากให้นักศึกษาที่มาวันนี้ช่วยกลับไปประชุมประธานนิสิตนักศึกษาแล้วมาเสนอความเห็นต่อเรา ว่า อยากได้รัฐธรรมนูญแบบไหน โดยสามารถเสนอมาได้ในช่วง 17 เมษายน หรืออย่างช้าก่อน 23 กรกฎาคม เพื่อทำเป็นคำขอแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งตนเห็นว่าเป็นกำลังสำคัญของคนรุ่นใหม่ และอย่าให้คนอายุรุ่นตนต้องแบกรับภาระเหล่านี้เพียงลำพัง อยากให้คนวัยหนุ่มสาวเข้ามามีส่วนร่วมด้วย