21 มี.ค.58 นายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช.กล่าวถึงกรณีที่ป.ป.ช.จะดำเนินการประกาศเพิ่มเติมห้ามเจ้าหน้าที่รัฐในตำแหน่งต่างๆ กระทำการอันเป็นการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ว่า เรามีคณะทำงานเรื่องนี้โดยนายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการป.ป.ช.เป็นผู้พิจารณาเบื้องต้น และยังมีคณะเจ้าหน้าที่ทำงานที่คอยให้ข้อมูลและเหตุผลว่าผู้ดำรงตำแหน่งใดบ้างที่สมควรจะอยู่ในข่าย ทั้งนี้ ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจก็อยู่ในข่ายดังกล่าวรวมถึงผู้ดำรงตำแหน่งอื่นอีกราว 50 ตำแหน่ง ซึ่งเพิ่มเติมจากตำแหน่งเดิมใน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 100 ที่กำหนดห้ามเจ้าหน้าที่รัฐกระทำการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ เพียง 4 ตำแหน่ง ได้แก่ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ผู้บริหารท้องถิ่น และรองผู้บริหารท้องถิ่น ทั้งนี้ จะมีการทยอยประกาศออกมา เพราะถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และบางเรื่องยังไม่มีความชัดเจน เช่น กรณีการเป็นกรรมการบริษัทที่อยู่ภายใต้การดูแลของหน่วยงานที่ตัวเองควบคุมอยู่ ว่าควรจะมีขอบเขตแค่ไหนเพียงไร ซึ่งการประกาศในลักษณะนี้ของป.ป.ช.จะคล้ายกับการประกาศให้ผู้ดำรงตำแหน่งใดบ้างต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน

 

นายวิชา กล่าวอีกว่า ตนคิดว่าอาจจะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขกฏหมายในเรื่องนี้ให้ชัดเจนยิ่งขึ้นกว่าที่ผ่านมาซึ่งเขียนไว้กว้างๆ ขณะเดียวกัน ทางสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) ก็อยู่ระหว่างการพิจารณากฏหมายว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์สาธารณะ โดยคาดว่าหากกฏหมายดังกล่าวผ่านความเห็นชอบ จะได้นำมาบรรจุเพิ่มเติมในมาตรา 100 หมวด9 ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ซึ่งเราก็ต้องให้ความเห็นประกอบในส่วนนี้ ขณะเดียวกัน นักวิชาการหลายคนก็มีความเห็นสอดคล้องกันว่าว่าควรจะมีกฏหมายดังกล่าวออกมาบังคับใช้

++++++++++++++++++