ไอซีซีลดเกรดสิทธิมนุษยชนไทย หากไม่สรรหากก.ตามหลักปารีส
วันจันทร์ ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2558, 14.34 น.
Tag :
30 มี.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 มีนาคม สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.)ออกเอกสารผลการประชุม Annual Meeting International Coordinating Committee of National Human Rights Institutions (ICC) และ SCA (Sub-Committee on Accreditation) ที่นางอมรา พงศาพิชญ์ ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้เข้าร่วมประชุมระหว่างวันที่ 11 – 13 มี.ค.2558 ณ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีสมาชิกทั่วโลกร้อยกว่าประเทศเข้าร่วมประชุม โดยมีใจความสรุปว่า นอกเหนือจากการประชุมตามวาระปกติแล้ว ได้มีการปรึกษากันในประเด็นเรื่องการจะพิจารณาลดสถานะคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของประเทศไทยจากสถานะ เอ เป็น บี ในเดือนต.ค. 2558 หากประเทศไทยไม่มีการปรับปรุงแก้ไขรัฐธรรมนูญในเรื่องการสรรหาคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่ต้องเป็นไปตามหลักการปารีส (Paris Principle) โดยจะต้องกำหนดให้ภาคประชาสังคมมีส่วนร่วมในการสรรหาด้วย
นอกจากนี้ยังได้แจ้งถึงกรณีร่างรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับ กสม. ที่อาจจะมีการควบรวม กสม. กับผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยจะให้มีการยกร่างพระราชบัญญัติขึ้นใหม่ ถ้าหมายถึงการยกเลิกพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และอาจถือได้ว่าเป็นการยกเลิกองค์กรสิทธิมนุษยชนและตั้งองค์กรใหม่ขึ้น จะส่งผลต่อสถานะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของประเทศไทยที่ได้ดำเนินการร่วมกับสถาบันสิทธิมนุษยชนทั่วโลกเป็นระยะเวลาต่อเนื่องยาวนานมากว่า 10 ปี จะสิ้นสุดลงในทุกกรณีด้วย และหากประเทศไทยต้องการจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกสถาบันสิทธิมนุษยชนของโลกอีกครั้งจะต้องสมัครใหม่ โดยการยื่นใบสมัครใหม่จะสามารถกระทำได้ต่อเมื่อมีการดำเนินงานไปแล้วระยะเวลาหนึ่งและจะต้องมีการจัดทำรายงานประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนประจำปี ฉบับที่ 1 ขององค์กรที่จัดตั้งใหม่แล้วเสร็จก่อน กระบวนการดังกล่าวต้องใช้ระยะเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี ซึ่งหมายความว่าองค์กรที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนของไทยจะไม่มีอยู่ในระบบของ ICC ในช่วงเวลานั้นด้วย ทั้งนี้ การที่ประเทศไทยยกเลิกสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและตั้งองค์กรใหม่ โดยใช้ชื่อองค์กรว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินและพิทักษ์สิทธิมนุษยชนจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ในด้านลบของรัฐบาลไทยในสายตาประชาคมโลก