14 เม.ย.58 เมื่อเวลา 12.30 น. นายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษา รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าคดีเหตุคาร์บอมบ์ที่ห้างเซ็นทรัล จ.สุราษฎร์ธานี ว่า ขณะนี้ยังไม่สรุปชัดเจนว่าเป็นประเด็นไหน เพราะต้องรอหลักฐานหลายๆ อย่างอยู่ แต่น้ำหนักคงเน้นไปที่เรื่องของการเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการดูจากรถที่ขโมยมา ขยายผลจากคนที่เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำเรื่องของระเบิดและเรื่องของการสื่อสาร การเตรียมการโดยกเงินของคนในพื้นที่
"ประเด็นว่า กลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็นจะขยายพื้นที่นั้นค่อนข้างน้อย ไม่เช่นนั้นป่านนี้กลุ่มนี้ก็คงประกาศอ้างผลงานไปแล้ว และหากศึกษาจากประวัติแล้ว กลุ่มบีอาร์เอ็นเขาก็ไม่มีอุดมการณ์ที่จะมาสร้างรัฐอื่นหรือขยายพื้นที่อื่น แต่บางครั้งอาจมีคนบางคนในกลุ่มนั้นถูกดึงมาใช้งาน ซึ่งที่ผ่านมามีหลายครั้ง แต่ป่านนี้คงหนีไปหมดแล้ว"
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นลักษณะของกลุ่มเด็ก ๆ ในขบวนการเหล่านี้มาร่วมมือกับกลุ่มการเมืองในพื้นที่แล้วมาก่อเหตุหรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ตั้งประเด็นไว้อย่างนั้น แต่จะเป็นนักการเมืองหรือเปล่า หรือกลุ่มไหนบ้างนั้น มันค่อนข้างซับซ้อนหน่อยเพราะเขาวางแผนมาดีพอสมควร เขาตั้งใจจะให้เจ้าหน้าที่หลงทิศหลงทาง เพราะฉะนั้นเราต้องตั้งหลักให้ดี เขาพยายามเบี่ยงแบนและตัดตอนหลายครั้ง โดยพยายามให้เห็นว่าเป็นเรื่องของกลุ่มขบวนการก่อความไม่สงบในภาคใต้
ที่ปรึกษารองนายกฯ กล่าวต่อว่า ความจริงเจ้าหน้าที่ตั้งหลักได้ตั้งแต่วันแรกแล้วและได้ตามอยู่ แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกับที่ศาลอาญา เพราะที่สุราษฎร์ธานีเจ้าหน้าที่ก็คงคิดว่ามีเจ้าถิ่นอยู่ ก็นึกว่าจะดูแลได้เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยวด้วย จึงไม่ได้ตามติดถึงขนาดหายใจรดต้นคอ แต่ก็ไม่ถือว่าไกล เพราะพอเกิดเหตุก็ดำเนินการได้ทันที ส่วนที่ก่อนหน้านี้ประเด็นเหมือนจะสับสน เพราะตำรวจมุ่งไปที่ประเด็นผู้ก่อความไม่สงบในภาคใต้ ขณะที่กองทัพมุ่งไปที่ประเด็นการเมืองนั้น ก็ต้องเข้าใจว่าตำรวจเขาก็ดูตามพยานหลักฐาน ซึ่งก็คือรถที่ถูกขโมยมาจากภาคใต้ และส่วนประกอบระเบิดที่เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคใต้ แต่โดยภาพรวมแล้วก็จะค่อย ๆ ประติดประต่อกัน และก่อนหน้านี้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฝ่ายความมั่นคงก็ได้มอบให้ตำรวจเป็นผู้แถลงเป็นหลัก ซึ่งเมื่อตำรวจได้หลักฐานอะไรมาก็แถลงไปเรื่อย ๆ ทำให้น้ำหนักเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตลอด แต่ถ้าไม่แถลงเลย ประชาชนก็จะไม่มั่นใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้สามารถชี้ชัดได้หรือไม่ว่าเป็น 1 ใน 100 จุดที่ผู้ต้องหาระเบิดที่หน้าศาลอาญาเคยระบุไว้ว่าจะทำถึง 100 จุด นายปณิธาน กล่าวว่า หลายฝ่ายกำลังจับตาประเด็นนี้อยู่เพราะเป็นประเด็นที่คนสนใจมากแต่น้ำหนักจะไปถึงหรือไม่ แต่หากดูศักยภาพของกลุ่มนี้แล้วเขาทำเป็นระบบ แต่คงไม่ถึง 100 จุด น่าจะเป็นจิตวิทยาที่ต้องการทำให้คนตกใจมากกว่า เพียงแต่ถ้าเขาจะทำคงไม่ทำจุดเดียว หากมีช่องว่างเมื่อไหร่เขาก็ทำ แต่ในทางราชการคงพูดชัดเจนอย่างนั้นไม่ได้ว่าเป็น 1 ใน 100 จุด เพราะจะกระทบกับรูปคดีได้ แต่มีแนวโน้มไปทางนั้น เพียงแต่จะไปได้ขนาดไหนก็ต้องตามกัน เราคงไม่ได้พาดพิงถึงใคร หรือกลุ่มการเมืองไหน เพราะมันจะไม่ดีกับเขา
เมื่อถามว่าฝ่ายความมั่นคงได้ตามติดกลุ่มการเมืองที่อยู่ในเป้าหมาย ที่คาดว่าอยู่เบื้องหลังการก่อเหตุอย่างไร นายปณิธาน กล่าวว่า รองนายกฝ่ายความมั่นคงได้ให้นโยบายว่าจะต้องดำเนินการให้รอบคอบรัดกุม ไม่ให้เกิดปัญหาหรือเกิดเรื่องขึ้นมา โดยกำชับให้ดูแลกลุ่มบุคคลที่มีแนวโน้มที่จะก่อความวุ่นวายให้ดี ซึ่งเขาก็ตามติดกลุ่มบุคคลต้องอยู่แล้ว แต่จะหลุดมือ คาดสายตาไปบ้างหรือไม่ ก็เป็นเรื่องของฝ่ายปฏิบัติที่เขามีชื่อกลุ่มบุคคลเป้าหมายอยู่แล้ว แต่จะสาวไปถึงหรือไม่ แต่ถ้ามีหลักฐานก็ต้องจับเลย แต่ถ้ายังไม่มีหลักฐานก็ยังไม่อยากให้ไปพูดอะไรเพราะเขาอาจจะเสียหาย และจะทำให้ตื่นตระหนกกันไปก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่าจนถึงขณะนี้ในทางการข่าวมีรายงานเรื่องที่น่าวิตกอีกหรือไม่ ที่ปรึกษารองนายกฯ กล่าวว่า ไม่น่าวิตก แต่ต้องไม่ประมาทและต้องระวังให้ดี รองนายกฯไม่ได้ตำหนิใคร หรือหน่วยงานไหนเลย เพียงแต่บอกว่าต้องทำงานให้หนักขึ้น โดยเฉพาะด้านการข่าว ขอให้เอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่สุราษฎร์ธานีมาเป็นบทเรียน ซึ่งตนคิดว่าเจ้าหน้าที่คงได้เรียนรู้กันเยอะมากจากที่สุราษฎร์ธานี เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยวและเป็นเมืองที่มีเงื่อนไขทางการเมืองอยู่แล้ว และเป็นเมืองที่ไม่ง่ายที่จะวางระบบ มีเงื่อนไขหลายอย่าง ซึ่งเขาก็เรียนรู้แล้วและจะได้ร่วมมือกันมากขึ้น
"ความจริงก่อนสงกรานต์ พล.อ.ประวิตร ได้มีการประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์กับผู้ว่าฯหลายจังหวัด มีการซ้อมแผน 4 แผน ทั้งแผนป้องกันอุบัติเหตุ แผนอำนวยความสะดวก แผนป้องกันโจรกรรมบ้านเรือนประชาชนและแผนวินาศกรรม ซึ่งผู้ว่าฯสุราษฎร์ธานีอาจจะไม่ได้อยู่ในกลุ่มแรก ๆ หรือเขาอาจได้รับทราบนโยบายแล้ว และพยายามปฏิบัติ แต่อาจติดเงื่อนไขอื่นเพราะเมืองท่องเที่ยวบางทีทำอะไรมากก็อาจจะเกิดปัญหา บางจังหวัดเขาขอดูแลกันเอง ไม่ให้เจ้าหน้าที่ไปดูแลเพราะเป็นห่วงจะกระทบกับท่องเที่ยวของเขา" นายปณิธาน กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี