สปช.ตั้งโจทย์ใหญ่3ข้อ
วัดใจกมธ.
ถ้าตอบไม่ได้-คว่ำรธน.
ไพบูลย์ชี้ขอแก้กว่า150มาตรา
กูรูฝรั่งเศสแนะทำ‘ประชามติ’
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม นายอลงกรณ์ พลบุตร เลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วิป สปช.) กล่าวถึงการที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการสั่งให้ สปช.คว่ำร่างรัฐธรรมนูญว่า ไม่เป็นความจริง ไม่มีใครสั่ง สปช.ได้ สปช.มีภารกิจสำคัญในการร่างรัฐธรรมนูญและจัดทำแผนแม่บทการปฏิรูป การที่มีกระแสข่าวดังกล่าวเป็นเพียงการคาดคะเน ขณะนี้เร็วเกินไปที่จะบอกว่า รัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ผ่านความเห็นชอบ
สปช.ตั้ง3โจทก์ใหญ่ตอบไม่ได้คว่ำ
นายอลงกรณ์ ยังกล่าวถึงการยื่นคำขอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูว่า มีทั้งหมด 8กลุ่มคำขอ เช่นที่มานายกรัฐมนตรี มีหลายเวอร์ชั่น ที่มาสมาชิกวุฒิสภา(สว.) ก็มีคำขอที่แตกต่างกันไม่น้อยกว่า 3-4 คำขอและการจัดทำคำขอเกือบเสร็จสมบูรณ์ เป็นไปตามกรอบเวลา เชื่อว่าสมาชิก สปช.กล้าพอที่จะโหวตคว่ำร่างรัฐธรรมนูญได้ หากไม่ตอบโจทย์ 3ข้อ ได้แก่ 1.ไม่เป็นประชาธิปไตย 2.การสืบทอดอำนาจและ3.ไม่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูปประเทศในอนาคต
กมธ.รับยื่นรื้อร่าง150มาตรา
ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กมธ.ยกร่าง) กล่าวถึงความคืบหน้าในการส่งคำแปรญัตติเพื่อแก้ไขปรับปรุงร่างรัฐธรรมนูญว่า จะครบกำหนดวันที่ 25พฤษภาคม เชื่อว่าคำขอจากทุกภาคส่วนน่าจะส่งมายังเจ้าหน้าที่ในช่วงตอนเย็นของวันดังกล่าว ซึ่งจะทำให้พอเห็นภาพรวมว่า มีการแปรญัตติกี่มาตรา โดยยอมรับว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีคำขอแก้ไขมากกว่า 150 มาตรา ซึ่งไม่ใช่ตัดทิ้งทั้งมาตรา แต่มีเรื่องปรับปรุงถ้อยคำด้วย ส่วนมาตรา181-182 โดยส่วนตัวเห็นด้วยให้ตัดทิ้ง เชื่อว่ากมธ.ยกร่างฯจะรับฟัง เพราะเป็นการทักท้วงจากหลายฝ่าย
หนุนถ้าถูกคว่ำ’สปช.’ยังอยู่
ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่า สปช.เตรียมคว่ำร่างรัฐธรรมนูญนั้น นายไพบูลย์ กล่าวว่า เร็วเกินกว่าจะพูดอย่างนั้น เพราะยังไม่เห็นร่างสุดท้ายที่ กมธ.ยกร่างฯจะปรับปรุง เนื่องจากอาจถูกใจ สปช.ก็ได้ แต่ถ้าไม่ถูกใจ สปช.จะคว่ำก็เป็นสิทธิที่กำหนดตามรัฐธรรมนูญ ส่วนแนวคิดที่เสนอว่า ถ้ารัฐธรรมนูญไม่ผ่านให้ยุบแค่กมธ.ยกร่างฯ แต่ยังคง สปช.เอาไว้ เป็นเรื่องที่มีเหตุผลอธิบายได้ แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับ ครม.จะตัดสินใจ เพราะจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เนื่องจากในปัจจุบันกำหนดว่าหากร่างไม่ผ่านให้ยุบไปพร้อมกัน
‘ประสาร’ค้านสืบทอดอำนาจ
ขณะที่ นายประสาร มฤคพิทักษ์ สมาชิก สปช.กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า ตนไม่เห็นด้วย เพราะการแก้ไขหลักการประเด็นที่สังคมยอมรับแล้ว อาจทำให้เกิดกระแสการไม่ยอมรับขึ้นได้และไม่มีความชอบธรรมได้และตนกังวลว่า อาจถูกนำไปเป็นประเด็นกล่าวว่าสปช.ต้องการสืบทอดอำนาจได้ เพราะมีสปช.จำนวน 20คนเข้าไปทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญด้วย ดังนั้นการพิจารณาแก้ไขในรายละเอียดใดต้องคำนึงถึงความเหมาะสมด้วย
‘อุดม’สาวไส้สปช.เห็นแก่ตัว
ทางด้าน นายอุดม เฟื่องฟุ้ง สปช.อีกคนหนึ่ง กล่าวว่า กรณีจะแก้ไขให้ สปช.อยู่ต่อ กระแสสังคมอาจจะไม่ยอมรับ เพราะไปแก้ไขหลักการที่สังคมให้การยอมรับไปแล้วนั้น ตนมองว่า กระแสสังคมนั้นถูกสร้างได้ด้วยกระบวนการทางการเมือง ซึ่งบุคคลที่ออกมาให้ความเห็นไม่ใช่ตัวแทนของประชาชนส่วนใหญ่ การพิจารณาให้สปช.อยู่ต่อด้วยประเด็นใดๆ เป็นการแก้หลักการเดิมต้องพิจารณาให้ดี เพราะจากที่ตนทำงานในสปช.พบว่า สปช.บางส่วนมีพฤติกรรมและการกระทำที่ไม่ต่างกับนักการเมืองที่มุ่งทำเฉพาะสิ่งที่เป็นประโยชน์กับตนเอง
พท.ย้ำต้องตายตกตามกัน
นายชูศักดิ์ ศิรินิล หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงข้อเสนอที่จะให้คง สปช.ไว้เพื่อคัดเลือก กมธ.ยกร่างฯชุดใหม่ หากทำประชามติไม่ผ่าน ว่า ตามแนวที่กำหนดไว้แต่เดิม หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านความเห็นชอบของสปช.ทั้งสปช.และกมธ.ยกร่างฯ ต้องไปพร้อมกัน ไม่อาจกลับมาเป็น สปช.หรือกมธ.ยกร่างฯได้ใหม่ น่าจะเป็นหลักการที่กำหนดไว้แล้วในรัฐธรรมนูญและประชาชนรับทราบแล้ว ฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่น เช่น ให้ สปช.ยังคงอยู่ พ้นหน้าที่ไปเฉพาะกมธ.ยกร่างฯ ดูจะไม่มีเหตุผลนัก เพราะทั้ง 2องค์กรล้วนแล้วแต่มีที่มาจากต้นทางเดียวกัน ถ้าไปคงต้องไปด้วยกัน เพราะถึงอย่างไรถ้ายกร่างมาก็คงมีกระแสเรียกร้องให้ทำประชามติอีก วิธีที่ดีที่สุดคือ ควรกำหนดในรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่จะแก้ไขเพิ่มเติมว่า ถ้าประชามติไม่ผ่านให้เอารัฐธรรมนูญฉบับใดฉบับหนึ่ง เช่น ปี2540 หรือ2550 มาปรับปรุงและประกาศใช้ จากนั้นกำหนดให้เลือกตั้งครั้งใหม่โดยเร็ว โดยอาจกำหนดว่า รัฐสภาชุดใหม่สามารถปรับปรุงแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ว่านั้นได้ต่อไปในอนาคตเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
ชงแก้สส.500คน-สว.154คน
ที่รัฐสภา มีการประชุมของคณะอนุกรรมาธิการร่วมจัดทำประเด็นแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ของคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมืองและคณะกรรมาธิการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สปช.ที่มี นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธาน กมธ.ปฏิรูปกฎหมาย กับนายดิเรก ถึงฝั่ง รองประธาน กมธ.ปฏิรูปการเมือง ร่วมเป็นประธานการประชุม เพื่อหาข้อสรุปประเด็นการยื่นญัตติขอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญต่อ กมธ.ยกร่างฯ
หลังประชุม นายนิรันดร์ พันทรกิจ กมธ.ปฏิรูปการเมือง เปิดเผยว่า ที่ประชุมสรุปประเด็นยื่นขอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญแล้วได้แก่ 1.ประเด็นที่มา สส.ได้ปรับแก้ให้มี สส.500คน มาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตๆละ 2-3คน จำนวน 400คนและจากบัญชีรายชื่อ 100คน 2.ที่มา สว.แก้ไขให้มีจำนวน 154คน มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน 77จังหวัดๆ ละ 2คน 3.ที่มานายกฯจะกำหนดให้ต้องมาจาก สส.แต่ถ้าเกิดวิกฤติให้คนนอกมาเป็นได้ โดยใช้เสียงสมาชิกรัฐสภา2ใน3ให้การรับรอง หากใช้แนวทางที่2 ยังแก้ปัญหาไม่ได้ ก็ให้ประธานรัฐสภามีอำนาจยุบสภาผู้แทนราษฎรแล้วเลือกตั้งใหม่ ส่วนประเด็นเลือกตั้งแบบโอเพ่นลิสต์ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ให้ตัดทิ้ง
เชิญผู้เชี่ยวชาญช่วยติวปฏิรูป
ที่กระทรวงการต่างประเทศ สถาบันพระปกเกล้าฯจัดบรรยายพิเศษเรื่อง’ถอดบทเรียนการคลี่คลายวิฤตการณ์ทางการเมืองสู่การปฏิรูปในระบอบประชาธิปไตย กรณีศึกษาการร่างรัฐธรรมนูญในต่างประเทศ” ซึ่งได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากฝรั่งเศสและเยอรมัน มาเป็นผู้บรรยาย
โดย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนรับฟังการบรรยายว่า การบรรยายพิเศษครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจในช่วงยกร่างรัฐธรรมนูญ จึงได้เชิญผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศที่ผ่านพ้นวิกฤตจนเข้าสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญ สร้างความปรองดอง นำไปสู่การมีรัฐบาลที่มั่นคงมีเสถียรภาพ มาบรรยายให้ฟัง ซึ่งทุกคนฟังแล้วต้องนำไปสรุปเองว่า จะนำไปใช้ประโยชน์อย่างไร
ชาติเดินหน้าได้ต้องพึ่งรธน.
จากนั้นศาสตราจารย์โดมินิค รุสโซ จากมหาวิทยาลัยปารีส กล่าวบรรยายโดยสรุปว่า
รัฐธรรมนูญมีบทบาทสำคัญยิ่งเมื่อสังคมพบกับวิกฤต เพราะเป็นการวางหลักกฎเกณฑ์ของแต่ละประเทศ หากเปรียบเหมือนการสร้างรถยนต์ที่ต้องมีพวงมาลัย เบรกและคันเร่ง ซึ่งก็คือรัฐบาล แต่ต้องมีเบรกไม่ให้คันเร่งเร็วเกินไป ทุกประเทศต้องหาความสมดุลระหว่างการเดินไปข้างหน้ากับการหยุดพัก ต้องหาองค์กรที่ทำให้ประเทศเดินหน้าไปอย่างสมดุล แม้สังคมอาจแตกแยกได้บางเวลา แต่สามารถประนีประนอมโดยใช้รัฐธรรมนูญเป็นเครื่องมือทำให้สังคมสงบสุขและสมดุล
หนุนทำประชามติอยู่ได้ยาว
“อย่าคิดว่ารัฐธรรมนูญจะแก้ทุกปัญหา แต่เป็นหลักการที่จะเอื้อให้เราอยู่ร่วมกันได้ รัฐธรรมนูญขึ้นอยู่กับการใช้ข้อความนั้น ส่วนประชาชนต้องมีอิสรภาพในทางการเมือง การทำประชามติให้ความเห็นชอบรัฐธรรมนูญจะเป็นต้นทุนที่ดีที่ทำให้รัฐธรรมนูญได้รับการยอมรับมากขึ้น ดีกว่าที่จะให้รัฐธรรมนูญผ่านโดยความเห็นชอบจากผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น” นายรุสโซ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี