'แซน ชยิกา'ยกหลักสิทธิมนุษยชน ป้อง'ปู'ถูกรัฐบาลบีบชดใช้คดีข้าว
วันศุกร์ ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2558, 15.16 น.
Tag :
9 ต.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางชยิกา วงศ์นภาจันทร์ หรือ แซนด์ บุตรสาว นางเยาวเรศ ชินวัตร ในฐานะอดีตคณะทำงานจัดทำนโยบายพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก "Sand Wongnapachant" แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกฟ้องร้องในคดีปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ทั้งทางแพ่งและอาญา โดยได้หยิบประเด็น "หลักสิทธิมนุษยชน" มาท้วงติงเกี่ยวกับแนวคิดของรัฐบาลในการเรียกค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าวจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์
"การที่ผู้ถูกกล่าวหาทางการเมืองหลายรายในปัจจุบัน ถูกตราหน้าว่าเป็นผู้กระทำผิดกฎหมาย ทั้งที่กระบวนการยุติธรรมยังไม่เป็นที่สิ้นสุด แต่กลับมีการชี้นำ "ระบายสี" ให้ใครหลายคนกลายเป็น "แพะรับบาป" ของสังคมอยู่ไม่เว้นแต่ละวัน การกระทำเช่นนี้จะเรียกได้ว่าเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนหรือ เพราะตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล "ผู้ถูกกล่าวหา" คือ "ผู้บริสุทธิ์" จนกว่าจะได้รับการพิพากษาว่าผิด
ประกอบกับฝ่ายกฎหมายของรัฐบาลยังได้ให้สัมภาษณ์วานนี้ (8 ตุลาคม 2558) ว่า "คำสั่งทางปกครองของนายกรัฐมนตรีมีวิธีบังคับได้เทียบเท่ากับคำตัดสินของศาล" ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ารัฐบาลต้องการดำเนินการโดยใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีในทางปกครองผ่านกระทรวงการคลังที่จะดำเนินการให้คณะกรรมการสรุปและเรียกค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าวกับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยไม่ประสงค์ให้ผ่านการชี้ขาดของศาล จึงต้องตั้งคำถามว่าการดำเนินการเช่นนี้ขัดต่อหลักการสิทธิมนุษยชนสากลและพันธกรณีที่ประเทศไทยเป็นภาคีสมาชิกสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติหรือไม่ เนื่องจากกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ข้อ 14 (International Covenant on Civil and Political Rights Article 14) นั้นได้กล่าวไว้ว่าในการฟ้องร้องดำเนินคดีผู้ถูกกล่าวหาทางอาญาพึงได้รับสิทธิในการผ่านกระบวนการยุติธรรมที่เป็นกลาง ซึ่งการดำเนินการในปัจจุบัน การพิจารณาคดีในชั้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยังไม่ได้เริ่มไต่สวนเลยด้วยซ้ำ ประกอบกับสถานะของคดีโครงการรับจำนำข้าวในปัจจุบันยังคงอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบบัญชีพยานเท่านั้น การเร่งรัดดำเนินการเอาผิดในทางแพ่งโดยที่ทางอาญายังไม่ได้ชี้ว่าผิด ทั้งๆ ที่ เป็นประเด็นข้อกล่าวหาเดียวกัน กรณีนี้ก็ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนอยู่ในตัว
เช่นนี้แล้ว ถ้าคนที่ยังไม่ถูก "ตัดสินทางกฎหมาย" ว่าผิด แต่ถูกกระทำ "เสมือนว่า" เป็นผู้มีความผิด ก็ไม่สามารถเรียกได้ว่าการบังคับใช้กฎหมายของไทยเป็นไปตามหลัก "สิทธิมนุษยชน" ตามที่ได้กล่าวเป็นคำมั่นสัญญาไว้กับประชาคมโลก!"