รับมือร่างรธน.ถกคว่ำ
มีเซอร์ไพรส์
‘วิษณุ’แย้มก่อนลงมติ
อ้างไม่พูดก่อนกลัวขัดแย้ง
ใช้ฉบับมีชัยแค่ยกตัวอย่าง
สนช.ชงรื้อใหม่20ประเด็น
บิ๊กตู่โชว์ผัง5สายเหน็บสื่อ
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) หลังได้ข้อสรุปจากการหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี’57 ว่า ยังไม่ได้นำเรียน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
‘วิษณุ’โยนบิ๊กตู่สั่งแก้รธน.ปี57
ผู้สื่อข่าวถามว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 นอกจากประเด็นเกณฑ์การออกเสียงประชามติยังมีประเด็นอื่นที่จะแก้พ่วงไปด้วยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า อาจจะมีเช่นประเด็นกำหนดให้พิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญแจกจ่ายผู้มีสิทธิออกเสียงให้ได้อย่างน้อย 80เปอร์เซ็นต์ ส่วนเรื่องอื่นยังไม่มีและไม่อยู่ในความคิดด้วย ยกเว้นมีประเด็นว่าไหน ๆ จะแก้แล้วก็ให้แก้ไปเลยว่าถ้าร่างฯ ไม่ผ่านประชามติจะทำอย่างไร ถ้าจะให้ทำแบบนั้นก็ได้ แต่ต้องให้คนที่มีอำนาจตัดสินใจ
“มันเป็นอำนาจของนายกฯและหัวหน้าคสช. เราพูดถึงสององค์กรนี้มากกว่า ส่วนการปฏิบัติท่านจะไปปรึกษาใครนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง จึงต้องอาศัยมติครม.และคสช.เพราะเป็นเรื่องที่ต้องแก้รัฐธรรมนูญ”นายวิษณุ กล่าวและว่า ส่วนบัตรลงคะแนนขณะนี้ ยังไม่ได้ข้อยุติ ที่หารือกันเบื้องต้นอาจมีแค่ 2ช่อง คือ เห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย เมื่อถามว่า เป็นห่วงหรือไม่ หากประชามติไม่ผ่าน เสียงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์ นายวิษณุ ย้อนถามว่า “คุณเสียดายไหมละ แต่เมื่อจะเป็นประชาธิปไตยก็ต้องยอมเสียเงิน”
ปัดใช้ฉบับเก่า-ทำสังคมขัดแย้ง
‘ถ้าไม่ผ่านจะหยิบฉบับไหนมาใช้ ถ้าบอกไปเอาฉบับนั้นฉบับนี้ ขณะที่เวลานี้ก็มีการมาพูดกันแล้วว่า ฉบับของ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ ดีกว่าฉบับกรธ.แล้ว หรือหยิบฉบับ กรธ.มาปรับแก้ไข ก็เกิดคำถามว่า หยิบมาทำไม เมื่อไม่ผ่านแล้ว ดังนั้น ช่วงเดินหน้าประชามติ ไม่ควรเพิ่มประเด็นขัดแย้งในสังคม ลำพังว่าจะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ก็ขัดแย้งกันแย่อยู่แล้ว แต่ก็ต้องทน ความจริงไม่จำเป็นต้องเอาฉบับไหนมา เพราะจริงๆแล้วฉบับของนายมีชัยครึ่งหนึ่งเอามาจากรัฐธรรมนูญปี40และ50 ไม่มีใครคิดประดิษฐกรรมขึ้นใหม่100เปอร์เซ็นต์ “ นายวิษณุ กล่าวและว่า
ผลลงประชามติตัวชี้วัดทางออก
นอกจากนี้ คะแนนเสียงประชามติ ก็เป็นตัวแปรตัวหนึ่งให้คิดว่า ถ้าไม่ผ่านแล้วทำอย่างไร เพราะถ้าคะแนนเสียงผ่านมันมากเกินครึ่งก็จบ แต่ถ้าไม่ผ่านโดยคะแนนไม่มาก ก็ต้องแปลผลว่า คนเห็นด้วยกับร่างนั้นอยู่ไม่ใช่น้อยและกำลังคิดว่า ที่เขาไม่เห็นด้วยเป็นส่วนน้อย แล้วเรารับฟังความเห็นคนก็ได้ อ่านจากหนังสือพิมพ์ก็รู้ที่ไม่ผ่านติดใจประเด็นใด ก็แก้ประเด็นนั้นเสีย จะแก้ให้กลับไปเหมือนปี 40 หรือ 50 ก็แล้วแต่ คะแนนประชามติจะเป็นตัววัด ซึ่งไม่ใช่ถึงขนาดที่ว่า จะนำร่างปี59 ขึ้นมาใช้แน่ๆ
อ้างใช้ฉบับมีชัยแค่ยกตัวอย่าง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความเป็นไปได้มากที่สุดขณะนี้หากร่างฯไม่ผ่านประชามติคือนำร่างฯฉบับนายมีชัยมาปรับแก้ก่อนบังคับใช้หรือไม่ นายวิษณุ ตอบว่า “ไม่จริง ไม่ใช่ ขอปฏิเสธ เดี๋ยวคุณไปลงพรุ่งนี้ก็ไปต่อกันอีก ผมแค่ยกตัวอย่างไปก่อนหน้านี้ เพราะคุณถามว่า เหตุใดไม่แก้รัฐธรรมนูญชั่วคราวในเรื่องนี้ไปเลย ผมเลยบอกมันจะแก้ได้อย่างไรเพราะมันมีอยู่ 2-3ประเด็น 1.ยังไม่รู้ว่าเราจะเอาฉบับไหนขึ้นมาแทน 2.จะทำให้เกิดอคติขึ้นในการลงประชามติ เหมือนมีสินค้า 2ชิ้นมาเทียบกัน ซึ่งมันไม่ดีไม่ควรจะมาล่อใจแบบนั้น 3.ถ้าสรุปว่าสินค้าตัวนี้ไม่ผ่านแล้วจะเอาสินค้าตัวไหนมาวางประกบก็เป็นปัญหาทะเลาะกันจนทำให้เกิดอคติ ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทำอย่างไรหรือถ้าตัดสินใจได้แล้วเปิดมาตอนนี้ก็จะกลายเป็นความขัดแย้งใหม่ในสังคม แม้ผลประชามติมันเป็นตัวแปรหนึ่งที่จะนำมาประกอบ แต่อาจไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ จะ5-10%เท่านั้นว่า สุดท้ายจะเป็นอย่างไร สมมติเกิดความแตกต่างนิดเดียวระหว่างรับหรือไม่รับร่าง คำว่านิดเดียวหรือมากผมไม่รู้จะวัดอย่างไร อย่างน้อยแต่มีคนจำนวนมากเห็นข้อดี แต่ก็มีคนเห็นข้อเสีย ตอนนั้นไม่ยากที่เราจะรู้ว่าข้อเสียคืออะไรก็แก้ตรงนั้นให้กลายเป็นข้อดีก็หมดเรื่อง แต่ไม่ได้แปลว่าต้องแบบนั้น”
แง้มอีกมี”เซอร์ไพรซ์”ก่อนลงมติ
นายวิษณุ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ถ้าฟันธงใช้แนวทางไหนตอนนี้เลยหากประชามติไม่ผ่าน เกิดความขัดแย้งซ้อนความขัดแย้งในสังคมแน่ จึงเป็นตัวแปรหนึ่งที่เขายังไม่คิดตอนนี้ หรือคิดแล้วแต่ยังไม่บอก จะไม่พูดจนกว่าผลประชามติจะออกมา หรืออาจจะเซอร์ไพรส์แก้ก่อนลงประชามติ1-2 วันก็ได้โดยหัวหน้าคสช.จะตัดสินใจ ซึ่งต้องส่งข้อดีข้อเสียทั้งหมดให้ พล.อ.ประยุทธ์ พิจารณา ส่วนข้อเสนอแนะร่างรัฐธรรมนูญเมื่อได้ครบ ตนจะเรียบเรียงใหม่ให้เข้ารูปแบบของกฎหมาย พร้อมบอกเหตุผลว่า ทำไมไม่เห็นด้วยนำรายงานนายกฯ ก่อนไปประชุมสุดยอดผู้นำสหรัฐฯ-อาเซียน ที่สหรัฐอเมริกา ในวันที่ 14 -18กุมภาพัน์ แล้วจะส่งให้กรธ.วันที่ 15กุมภาพันธ์และจะรายงานครม.วันที่ 16กุมภาพันธ์ด้วย
‘มีชัย’โยนรบ.ตัดสินใจใช้ร่างไหน
ด้านนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ.ให้สัมภาษณ์ถึงผลหารือประชามติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ระบุวันทำประชามติเป็นวันที่ 31กรกฎาคม ว่า อยู่ในช่วงนั้น แต่อาจช้าหรือเร็วกว่า 1อาทิตย์ ซึ่งเรื่องเวลาไม่มีปัญหา แต่ตอนนี้ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก่อน เมื่อถามว่า หากไม่ผ่านทำประชามติจะหยิบรัฐธรรมนูญบางฉบับมาใช้หรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้เพราะเป็นเรื่องอนาคตและเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องคิด ไม่ใช่หน้าที่ของ กรธ.เราเพียงแต่ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ผลประชามติออกมาอย่างไรค่อยว่ากัน อย่ากังวล
‘บิ๊กป้อม’ย้ำไม่เกินธค.60เลือกตั้ง
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยืนยันว่าเราจะเลือกตั้งในปี2560แน่นอน เริ่มที่เดือนกรกฎาคม ถ้าออกกฎหมายลูกต่างๆเสร็จก็เลือกตั้ง แต่ถ้าไม่เสร็จก็จะไม่เกินธันวาคม2560 บางทีมันอาจจะเร็วกว่านั้นก็ได้
สนช.ยื่นแก้ไขร่าง20ประเด็น
นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) กล่าวถึงการส่งความเห็นและข้อเสนอแนะของ สนช.ต่อร่างรัฐธรรมนูญให้ กรธ.พิจารณาทบทวนว่า ข้อเสนอที่จะส่งให้ กรธ.มีอยู่ประมาณ 20 ประเด็น อาทิ เสนอให้ปรับปรุงเนื้อหาเกี่ยวกับโครงสร้างทางการเมือง การปรับปรุงเรื่องสิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และสิทธิมนุษยชนที่ยังขาดหายไปในร่างรัฐธรรมนูญ เชื่อว่า กรธ.จะทบทวนในสิ่งที่ สนช.เสนอไป เพื่อปรับปรุงร่างให้ออกมาดีที่สุด
‘บิ๊กตู่’พูดเป็นนัยเวลาเหลือน้อย
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติ (คทป.) ครั้งที่ 1/2559 โดยก่อนการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้จำเป็นต้องเข้มงวดการทำงานในทุกเรื่องมากยิ่งขึ้น เพราะเวลาทำงานเหลือน้อยลง เพราะวันข้างจะเกิดอะไรขึ้นบ้างก็ไม่อาจทราบได้ รวมถึงการเลือกตั้งด้วย จึงต้องทำงานอย่างเต็มที่ ตามกรอบที่วางไว้
โชว์ผังงานแม่น้ำ5สายเหน็บสื่อ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกำหนดวันออกเสียงทำประชามติในร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเบื้องต้น นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะมีขึ้นวันที่ 31กรกฎาคม2559 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพียงสั้นๆว่า ยังไม่ได้รับรายงาน แต่ทราบวันจากข่าว เพราะเห็นข่าวตามหน้าสื่อ เมื่อวถามว่า จะประชุมแม่น้ำ 5สายเพื่อหารือความเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดแล้วหันไปสั่งคณะทำงานให้หยิบกราฟแผนผังการทำงานแม่น้ำ 5สาย แล้วกางให้สื่อมวลชนดู พร้อมอธิบายว่า “นี่เขาทำงานกันแบบนี้ ไม่ใช่มาถามคำตอบคำ”
เมื่อถามว่า สามารถมอบกราฟแผนผังการทำงานของแม่น้ำ 5 สาย ให้สื่อมวลชนได้ศึกษาและเผยแพร่ได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ส่ายหัว พร้อมกล่าวระหว่างเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าว่า “สื่อไม่สนใจหรอก เพราะสนใจแต่เรื่องจะเลือกตั้งไม่ไหร่ จะมีประชามติเมื่อไหร่”
คสช.จวก’จตุพร’บิดเบือน
ทางด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ยังให้ข้อมูลในลักษณะบิดเบือนต่อร่างรัฐธรรมนูญว่า เป็นการให้ข้อมูลที่ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง และไม่มีเหตุผลหรือข้อพิสูจน์รองรับที่ชัดเจน โดยเฉพาะการใช้วาทกรรมคำว่า ไม่เป็นประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญขี้โกงและปล้นอำนาจประชาชน หรือรัฐธรรมนูญเผด็จการ ซึ่งมีข้อสังเกตว่า สำนวนเหล่านี้ถูกนำมาอ้างใช้จากคนเพียงบางกลุ่มเดิมที่ยังไม่สามารถหาข้อพิสูจน์ หรือให้รายละเอียดและคำอธิบายเหมาะสมได้เพียงพอ โดยต้องการโฆษณาชวนเชื่อปลุกเร้าอารมณ์ความรู้สึกคน เหมือนอดีตที่พูดบนเวทีชุมนุมทางการเมือง จึงอยากขอความร่วมมือในการเสนอความเห็นใดๆ ควรระมัดระวัง เรื่องการใช้คำพูด
ขอหมายจับ’จ่านิว’เบี้ยวนัดตร.
ที่ศาลทหารกรุงเทพ พนักงานสอบสวน สน.สถานีรถไฟธนบุรี ได้นำสำนวนในคดีมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5คนขึ้นไป อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช.มาส่งต่ออัยการศาลทหาร โดยในวันนี้มีเพียง น.ส.กรกนก คำตา นายกิตติธัช สุมาลย์ นายวิจิตร หันหาบุญ นายวิศรุต อนุกุลการย์ และนายอานนท์ นำภา มารายงานตัว ซึ่งขาด นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ น.ส.ชนกนันท์ รวมทรัพย์ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว นายกรกช แสงเย็นพันธ์และนายอภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธุ์ ที่ไม่มารายงานตัว ส่วน นายธเนตร อนันตวงษ์ ได้หลบหนีคดี พนักงานสอบสวนจึงขออนุมัติหมายจับบุคคลที่ยังไม่มารายงานตัวเพื่อประกอบสำนวนคดีส่งให้อัยการดำเนินการต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี