สมุนเริ่มถอยห่าง‘ทักษิณ’
หารังใหม่
เชื่อนายใหญ่หมดบารมี
‘เสรี’ยุอย่าเอาใจนักการเมือง
เปลี่ยนผ่านให้ดีมีโอกาสแล้ว
สนช.เปิดทางแฉโกงจำนำข้าว
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการหารือร่วมกับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจต่อข้อเสนอข้อที่ 16 ของรัฐบาลที่ต้องการให้ กรธ.หาแนวทางป้องกันวิกฤติในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อโดยอาจต้องมีกลไกพิเศษว่า ไม่มีกลไกอะไรพิเศษ และจะไม่มีองค์กรหรือตั้งกรรมการใดขึ้นมา หากพิจารณาข้อเสนอที่16 มีการระบุถึงคำว่า กระบวนการ แต่ไม่ใช่กลไก
“ในระยะเวลาช่วงแรก หาก กรธ.ไม่สามารถแก้ไขตามที่มีการเรียกร้องได้ เพราะเห็นความจำเป็นหรือความสำคัญแล้วเหตุใดไม่ลองนำสิ่งที่คิดว่าจำเป็นดังกล่าวซึ่งเขียนไว้แล้ว และไม่มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการปฏิรูปและปรองดองหรือ คปป.เอามาใส่ไว้ในช่วงต้น ส่วนบทถาวร เป็นเรื่องที่ให้เขียนไปตามมาตรฐานประชาธิปไตยสากล เพราะจะทิ้งเวลาห่างกันพอสมควร อาจหลายปี แต่ไม่นานนัก ตรงนั้นเชื่อว่า ผ่านช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อไปได้ ส่วนบทเฉพาะกาล เป็นบทบัญญัติที่ใช้ในช่วงเวลาสั้นๆหรือช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เมื่อพ้นช่วงเวลานี้ไป น่าจะเรียบร้อยได้
ทุกฝ่ายรอร่างแรกปรับแล้ว29มี.ค.
“มีคนถามผมว่าคิด หรือว่าจะเรียบร้อย ผมก็บอกว่าถ้ามีช่วงเวลานั้นให้แล้วอยู่ในบรรยากาศของประชาธิปไตยแล้วยังไม่เรียบร้อยอีกหรือ และกระบวนการต่างๆก็เอื้ออำนวยจนสามารถจัดการกับปัญหาต่างๆได้เรียบร้อยภายใต้ระบอบประชาธิปไตยแล้ว ถ้ายังแก้ไม่ได้อีกก็ไม่ต้องมีแล้วประเทศ ทะเลาะกันไปตลอดชาติ อย่างนั้น คงเป็นไปไม่ได้แน่ ความหมายมีอยู่แค่นั้นไม่มีอะไรลึกลับซับซ้อน คุณอดใจ กลั้นใจรอสัก 29 มีนาคมนี้ร่างรัฐธรรมนูญออกมาก็จะเห็นความชัดเจนแล้วช่วยกลับมาพูดกับผมหน่อยว่า เห็นไหม มีหรือเปล่า” นายวิษณุ กล่าว
ซัดคนที่ไม่เห็นด้วยก็ค้านทุกจุด
เมื่อถามว่าเอาเข้าจริงถึงร่างรัฐธรรมนูญจะออกมาดีเพียงใดแต่บางฝ่ายอาจจะไม่ยอมรับเพราะที่มาไม่ถูกต้อง นายวิษณุย้อนถามว่า”แล้วคุณจะให้ทำยังไง ผมไม่มีคำตอบในเรื่องนี้ ต่อให้มีที่มาถูกต้อง เหมือนคราวที่แล้ว แล้วจะมีการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ จะนิรโทษกรรม คนก็ไม่เอาด้วย จนทำให้บ้านเมืองเกิดปัญหา ดังนั้น คนที่ไม่เห็นด้วย เมื่อจะค้านก็ค้านได้หมดทุกจุด เมื่อเราผ่านเหตุการณ์เหล่านั้นมาแล้วมันไม่มีเหตุผลอะไร ที่จะกลับไป บอกว่าที่มาไม่ถูก แล้วยังไง แล้วจะทำให้ถูกยังไงเพราะอย่าลืมว่า เวลานั้นต้องย้อนกลับไปถามก่อน22 พ.ค.2557 ถูกหรือผิดซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ต้องเอามาพูดกันแล้ว จะพูด ก็พูดได้ แต่มันไม่มีประโยชน์แล้ว”
อดีตกมธ.ชี้ปชต.เปลี่ยนผ่านสำคัญ
ด้านพล.อ.นคร สุขประเสริฐ สมาชิก สปท.และอดีตคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงข้อเสนอปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญ ให้มีประชาธิปไตย ระยะเปลี่ยนผ่าน5 ปีของครม.และนายกรัฐมนตรีว่าตามหลักประชาธิปไตยสากล ระยะเปลี่ยนผ่าน เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องมี แต่ทุกภาคส่วนของสังคมทั้งประชาชนและนักการเมืองต้องมีความพร้อมสมบูรณ์ต่อระบบประชาธิปไตย จากข้อเสนอ ต้องกลับมาดูเราพร้อมหรือไม่ ประชาชน มีความเข้มแข็งเป็นพลเมืองของระบอบประชาธิปไตยแล้ว หรือยัง นักการเมือง ทำเพื่อส่วนรวม เลิกทำเพื่อพวกพ้องแล้วหรือไม่ ข้อเสนอดังกล่าว จึงมีความจำเป็นต้องกำหนดไว้ในบทเฉพาะกาล
“ กรธ.สามารถถอดบทเรียนจาก กมธ.ยกร่างฯที่เคยเสนอ คปป.ได้ว่ามีข้อดีเพื่อรองรับหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของการเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตย แต่ข้อเสียคือ มีลักษณะเป็นองค์กร จึงทำให้เกิดความหวาดระแวงจากสังคม หาก กรธ.ไม่ตั้งเป็น องค์กรแต่สร้างเป็นกลไกขึ้นมาแทนและพยายามอธิบายทำความเข้าใจต่อสังคมพร้อมทั้งพูดคุยเจรจากับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้มากก็อาจจะหาทางตอบโจทย์นี้ได้ เพราะการสร้างเป็นกลไก จะมีพลวัตรสามารถเปลี่ยนแปลงยืดหยุ่นได้มากกว่าการตั้งเป็นองค์กร”พล.อ.นครย้ำ
เพิ่มหมวดปฏิรูป/ จี้รื้อส่วนรชก.
พล.อ.นครกล่าวถึงที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ.ระบุว่าการปรับให้ประเด็นปฏิรูปเป็นหมวด1ของร่างรัฐธรรมนูญว่า ไม่ขัดข้องก็รู้สึกเห็นด้วยเพราะการปฏิรูป ไม่สามารถทำได้เพียงเรื่องสองเรื่องตามที่กำหนดไว้ในบทเฉพาะกาลของร่างแรก แต่มันจำเป็นต้องทำให้ครอบคลุมทั้ง11ด้าน ตามที่รัฐธรรมนูญชั่วคราวกำหนดไว้ และต้องลงรายละเอียดเช่นการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมก็ต้องหมายรวมถึงศาล ผู้พิพากษา อัยการด้วย ไม่ใช่มีแค่ตำรวจ อีกทั้งการปฏิรูปต้องครอบคลุมกับส่วนราชการ ไม่เฉพาะแต่ฝ่ายการเมือง เพราะทั้ง2ส่วนนี้ ต่างเกื้อหนุนกันอยู่
‘เสรี’แนะกรธ.เปลี่ยนผ่านให้ดี
ขณะที่ นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สปท.กล่าวถึง ครม.เสนอ กรธ.ให้มีกลไกการเปลี่ยนผ่าน 5 ปี ในรัฐธรรมนูญว่า ตรงตามที่คณะ กมธ.ของตนเสนอไว้ว่า อาทิ การเลือกตั้ง ส.ส.ช่วง 2 ครั้งแรกต่อจากนี้ ให้มีวาระละ 2 ปี มี ส.ส.เขตอย่างเดียว มาทำหน้าที่ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน ออกกฎหมาย โดยนายกรัฐมนตรีจะยุบสภาผู้แทนไม่ได้ และสภาผู้แทนฯ เสนอญัตติไม่ไว้วางใจนายกฯ ไม่ได้ ส่วน ส.ว.ควรเข้ามาโดยใช้การสรรหา มาทำหน้าที่เลือกคนดำรงตำแหน่ง ออกกฎหมาย แต่ไม่มีอำนาจถอดถอนใคร
ยุทำให้สะเด็ดอย่าเอาใจนักการเมือง
“ส่วนงานบริหาร ต้องให้รัฐบาลนี้ รับผิดชอบงานต่อให้สะเด็ดน้ำ หากไม่แก้ช่วงระยะเปลี่ยนผ่านให้ดี ต่อไปไม่มีโอกาสแบบนี้อีกแล้ว อย่าติดหล่มกับคำว่าเลือกตั้ง จนไม่รู้ว่าประเทศ จะแก้ได้หรือไม่ โดยไม่ต้องเอาใจนักการเมืองทุกเรื่อง พอผมไปถามชาวบ้านก็ไม่เห็นพูดแบบนักการเมือง ยอมรับเสียทุกวันนี้ที่บ้านเมืองเสียหาย เพราะนักการเมือง ท่านควรหยุดเสนออะไรที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ” นายเสรี ย้ำ
อมรยัน29มีนา.มีคำตอบให้สังคม
นายอมร วาณิชวิวัฒน์ โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)กล่าวถึงข้อเสนอ ครม.ให้มีกลไกช่วงระยะเปลี่ยนผ่าน 5ปีว่าประเด็นข้อเสนอ ครม.เรื่องกลไกยุทธศาสตร์ช่วงเปลี่ยนผ่าน กรธ.ยังหารือไปไม่ถึง ส่วนเรื่อง ส.ส. ส.ว.ก็ยังแขวนไว้เช่นกัน เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อีกทั้งมีข้อเสนอส่งมาหลากหลายมาก แต่อนาคตอันใกล้ 29 มีนาคมนี้ มีคำตอบให้สังคมแน่นอน แต่ต้องจำแนกความเห็นก่อน เท่าที่ดูบางข้อเสนออาจจะกระทบกรอบ หลักการเหตุผล เจตนารมณ์ ที่วางไว้ของ มาตรา35 ในรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 บางเรื่องเป็นข้อเสนอที่ไม่ใช่ไม่ดี แต่ถ้าแก้ให้ จะขัดกรอบ เท่ากับ กรธ.ทำผิดกฎหมาย ทำให้ เราหนักใจนิดหนึ่ง แต่ไม่เป็นปัญหามาก
เคลียร์แล้วไร่2ขยัก ลดทอนปชต.
นายอมร กล่าวถึงข้อเสนอ 16 ของ ครม.ชัดเจนตามที่คำแถลงร่วมของ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.กับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯว่า ยืนยันไปแล้ว ไม่มีปัญหา อะไรที่เปลี่ยนผ่านก็ไปอยู่ในบทเฉพาะกาล อะไรจะบังคับใช้ถาวร ก็ไปอยู่ในรัฐธรรมนูญ ไม่มีสองขยักไม่มีเรื่องการลดทอนความเป็นประชาธิปไตย แม้ช่วงโค้งสุดท้ายจะเข้มข้น แต่กรธ.ไม่มีใครบ่นว่าเหนื่อยหนัก อันไหนไม่ขัดกรอบหลักการมีเหตุผลก็เพิ่มเติมให้ตามที่เสนอให้ชัด เราเองอาจจะมีเขียนเพิ่มให้ เดิมทีมีอยู่แล้ว ถ้าหากอยากให้เขียนชัด เราก็เพิ่มให้ ข้อเสนอเรื่องภาคประชาสังคม สิทธิมนุษยชน กรธ.ก็เขียนจัดเต็มให้เรียบร้อยแล้ว.
ติงกรธ.เอาตามครม.จะสู่ทางตัน
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงข้อเสนอของครม.ต่อกรธ.ที่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธานว่าคิดว่านายมีชัยจะรับข้อเสนอในประเด็น ระยะเปลี่ยนผ่านในการใช้รัฐธรรมนูญ2ขยักและคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ 20ปีที่นายกฯส่งสัญญาณว่าต้องใช้เป็นเครื่องมือ ที่ผ่านมาเมื่อปี2519 สมัยในรัฐบาลนายธานินทร์ กรัยวิเชียร เคยเสนอใช้รัฐธรรมนูญเป็น 3 ช่วงที่สุดถูกปฏิวัติโดยรัฐบาล พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ครั้งนี้จะมีแรงต่อต้าน หากกรธ.เพิ่มใน2ประเด็นนี้ยังมองในแง่ดีว่านายมีชัยจะแก้ไขผ่อนปรนให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ง่ายขึ้นจากที่เขียนล็อกไว้เพราะถ้าหาก กรธ.ยังคุมเข้มทั้งเรื่องแก้รัฐธรรมนูญให้ยากมากและเพิ่มเครื่องมือตามข้อเสนอครม.แรงต่อต้านจะทวีสูงขึ้นจะเดินหน้าสู่เดดล็อกเข้าทางตันแน่
พท.อัดวิษณุชี้คนไม่รับนอกระบบ
ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย(พท.)กล่าวถึงกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ด้านกฎหมายระบุถึง ครม.ยื่นข้อเสนอ16เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะข้อ16ดูเหมือนมีความต้องการแอบแฝงเพื่อสืบทอดอำนาจของกลุ่มผู้มีอำนาจในปัจจุบันโดยนายวิษณุได้ร่วมหารือกับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประ กรธ.เพื่อให้นำไปพิจารณาปรับแก้ร่างแรกให้เป็นรัฐธรรมนูญสองขยักโดยมีข้ออ้างว่ามีความห่วงใยประเทศจะเกิดการสะดุดและแตกแยก เพราะขัดแย้งเหมือนช่วงก่อนการรัฐประหาร 22 พฤษาคม2557
“เห็นด้วยกับแนวความคิดที่ว่าวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนการรัฐประหาร22 พ.ค. 2557 มิใช่วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่เป็นวิกฤตที่เกิดขึ้นจากความจงใจของกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดีต่อระบอบประชาธิปไตยและต้องการได้มาซึ่งอำนาจในการบริหารประเทศด้วย“วิธีการนอกระบบ”และบีบบังคับให้เจ้าหน้าที่รัฐละเลย และไม่ปฎิบัติหน้าที่ตามกฎหมายรวมถึงการไม่ยอมรับกระบวนการใช้เสียงข้างมากในการตัดสินปัญหาตามกติการะบอบประชาธิปไตย สภาพที่คนส่วนใหญ่ในสังคมไทย รับรู้กันเช่นนี้ นายวิษณุไม่รู้ ไม่เข้าใจ หรือ แกล้งโง่ ทำเป็นไม่รู้ ไม่เข้าใจกันแน่”
เหล่าขี้ข้าเริ่มถอยห่าง”แม้ว”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากประเด็น ที่สำนักข่าวต่างประเทศชื่อดังสำนักหนึ่ง ตีแผ่รายงาน “ทักษิณ” อิทธิพลเหือดหาย เครือข่ายแตกกระเจิง-คนเสื้อแดงเบือนหน้าหนี”เมื่อหลายวันก่อนมีรายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย ได้วิเคราะห์ว่า เป็นเรื่องจริงสอดคล้องกับที่สำนักข่าวดังกล่าววิเคราะห์ไว้โดยเฉพาะ เครือข่ายนักการเมือง ข้าราชการท้องถิ่นและนักธุรกิจ ที่ไม่ได้ลึกซึ้งอะไรมากมายนักกับนายทักษิณ ได้ แตกกระเจิงกันไปคนละทาง ไม่เว้นแม้กระทั่งคนเสื้อแดงที่แสดงท่าทีตีตัวออกห่าง
เชื่อหมดบารมีเล็งหารังใหม่
รายงานข่าวยังระบุว่าไม่เห็นด้วยที่นายทักษิณ หรือ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ออกมาให้สัมภาษณ์วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา และคณะคสช.ในขณะนี้ เพราะจะถูกโต้กลับ โดยที่ไม่สามารถแก้ตัวอะไรได้ทัน การเลือกตั้งอาจจะต้องยืดเวลาออกไปอีกโดยไม่จำเป็น อีกทั้งบรรดาผู้ที่เคยช่วยแก้ต่างให้นายทักษิณอย่างถึงลูกถึงคนตอนนี้ก็ไม่มีใครกล้าแล้ว ประเภทไม่กลัวตายก็ต้องไปอยู่ใสคุกหลายคนขณะนี้ บรรดา อดีตสส.อดีตหัวคะแนนพรรคเพื่อไทยหลายคน ได้เล็งหาพรรคใหม่เข้าสังกัดเพื่อเตรียมตัวเลือกตั้งในอนาคตข้างหน้า เนื่องจากเขาเชื่อว่าแม้นายทักษิณจะยังมีเงิน แต่บารมีได้หมดลงแล้ว
คาดจะมีแก้ไขรธน.57เร็วๆนี้
นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)กล่าวว่า จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 เรื่องการทำประชามติในเร็ว ๆ นี้ โดยเน้นที่หลักเกณฑ์ในการทำประชามติ เพื่อให้มีความรัดกุมในเรื่องการส่งร่างรัฐธรรมนูญให้กับประชาชนที่จะต้องใช้เวลาให้กระชับ เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามโรดแมปที่รัฐบาลกำหนดไว้ โดยจะต้องมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในช่วงกลางปี 2560ซึ่งก่อนจะมีการทำประชามติ แม่น้ำทั้ง 5 สาย จะต้องทำความเข้าใจกับประชาชนก่อน พร้อม เชื่อมั่นว่า กรธ.จะร่างรัฐธรรมนูญเพื่อประชาชนทั้งประเทศ และให้ใช้ในระยะยาว รวมถึงยึดโยงกับประชาชน
เชื่อไม่มีสืบทอดอำนาจ/เมินยูเอ็นบี้
นายพีระศักดิ์กล่าวเห็นด้วยที่จะมีกลไกในช่วงเปลี่ยนผ่านช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่จะไปสู่ประชาธิปไตย ปกติกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ เชื่อว่าจะไม่เป็นการสืบทอดอำนาจ ซึ่งการร่างรัฐธรรมนูญไม่ว่าจะมีบทเฉพาะกาลหรือไม่มีนั้น ไม่ใช่เพื่อบุคคลใด แต่เพื่อให้เหมาะสมกับบริบทสังคมไทยในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลมากกว่า ส่วนกรณีที่สหประชาชาติมองว่าประเทศไทยควรจะมีการเลือกตั้งให้เร็วที่สุดนั้น นายพีระศักดิ์ กล่าวว่าการเลือกตั้ง ต้องเกิดขึ้นหลังร่างรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จ ฝากถามกลับไปว่าประชาธิปไตยที่สมบูรณ์เป็นแบบใดเพราะแต่ละประเทศมีรัฐธรรมนูญ ไม่เหมือนกันและรัฐธรรมนูญจะต้องสอดคล้องกับบริบทในสังคมของคนไทย แต่ละประเทศด้วย
สนช.จ่อถามค่าเสียหายจำนำข้าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้มีคำสั่งนัดประชุมครั้งที่ 15/2559ในวันศุกร์ที่ 4 มีนาคม 2559 เวลา 10.00 นาฬิกา โดยมีวาระสำคัญเป็นการตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีจำนวน 2 เรื่อง โดยมีกระทู้ที่สำคัญคือนโยบายเรียกค่าเสียหายในโครงการจำนำข้าวรัฐบาล สมัยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ตั้งถาม โดยนายสมชาย แสวงการ สมาชิก สนช.โดยได้มีการเตรียมตั้งคำถาม 2 ข้อซึ่งต้องการทราบถึงความคืบหน้าหลังจากที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สรุปว่าต้องฟ้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในโครงการรับจำนำข้าว และต้องฟ้องคดีแพ่ง มีการดำเนินการไปแล้วอย่างไรบ้าง
รวมถึง ต้องการทราบผลการปิดบัญชีขาดทุนในโครงการมีจำนวนเท่าใด และจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เช่นเดียวกับคำถามในส่วนมูลค่าความเสียหายจากกรณีทุจริตการระบายข้าวแบบจีทูจีของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ กับพวก รวม21 คน มีความเสียหายจำนวนเท่าใด และ จะดำเนินการอย่างไรต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี