เลือกข้างประเทศไทย บิ๊กตู่วอนสื่อ เพื่อร่วมกันพัฒนาชาติ

เลือกข้างประเทศไทย บิ๊กตู่วอนสื่อ เพื่อร่วมกันพัฒนาชาติ

วันอาทิตย์ ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.
Tag :

เลือกข้างประเทศไทย

บิ๊กตู่วอนสื่อ
 
เพื่อร่วมกันพัฒนาชาติ

แนะก้าวข้ามผลประโยชน์

โพลล์ออกโรงหนุนคสช.

ทำงานต่อหลังมีรบ.ใหม่

ป้องกันเหตุความขัดแย้ง

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ 5 มี.ค. ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฝากถึงสื่อมวลชนทุกแขนงเนื่องในวันสื่อสารมวลชนแห่งชาติ หรือวันนักข่าว 5 มีนาคม นี้ว่าอยากเห็นสื่อมวลชนเลือกข้าง คือ เลือกข้างประเทศไทย อยากให้การทำงานของสื่อเป็นไปเพื่อช่วยส่งเสริมการพัฒนาประเทศ กระตุ้นความพร้อมในการยกระดับคุณภาพพลเมืองและสื่อสารภาพลักษณ์ที่ดีของชาติให้ปรากฏในสายตาชาวโลก

“นายกฯเชื่อว่า สถาบันสื่อมวลชน เป็นสถาบันที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ เพราะเป็นสถาบันที่เข้าถึงประชาชนได้อย่างรวดเร็ว ครอบคลุม และเป็นสถาบันที่เข้าถึงข้อมูลข่าวสารอย่างที่ไม่มีสถาบันใดทำได้ จึงอยากให้สื่อทุกแขนงตระหนักในความสำคัญของตนเอง และร่วมรับผิดชอบต่อสังคมให้มากยิ่งขึ้น และนายกฯได้ฝากขอบคุณที่สถาบันสื่อ มีการตรวจสอบ ควบคุมกันเองอย่างเข้มข้นขึ้น เพื่อสร้างบรรทัดฐานที่ดีให้แก่สังคม” พล.ต.สรรเสริญ ย้ำ


ย้ำสื่อดีดูที่ผลงาน ไม่ใช่เด่นดัง

นอกจากนี้ พล.ต.สรรเสริฐ กล่าวอีกว่า นักข่าว หรือ สื่อมวลชนมีหน้าที่สำคัญที่เปรียบเสมือน สุนัขเฝ้าบ้าน ซึ่งต้องคอยเห่าเตือนเจ้าของบ้าน เมื่อมีภัยมาเยือน สุนัขดี คือ สุนัขที่ทำหน้าที่ไม่บกพร่อง สื่อมวลชนที่ดี คือ สื่อที่ควรถูกจดจำจากผลงานที่ดีมีคุณธรรม จริยธรรม มากกว่าการทำตัวเด่นดัง ที่สำคัญสื่อต้องก้าวข้ามความเกรงอกเกรงใจ เพราะผลประโยชน์ เลิกแบ่งขั้ว แบ่งฝ่าย แบ่งแยกประเทศ แบ่งประชาชน ขอให้คิดว่า ความสงบสุขในประเทศเป็นสิ่งที่เอาอะไรมาแลกก็ไม่ได้ ต้องร่วมมือกันรักษาไว้

ยันรบ.-คสช.ไม่สืบทอดอำนาจ

พล.ต.สรรเสริญ ยังกล่าวถึงกรณีฝ่ายการเมือง กังวลจะมีการสืบทอดอำนาจว่า นายกฯและ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องชี้แจงหลายครั้งแล้วว่า คสช.เข้ามาเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งของบ้านเมืองที่เกิดจาการใช้อำนาจที่ไม่มีธรรมาภิบาล ความขัดแย้งของประชาชนในประเทศ เมื่อแก้ปัญหาจบแล้ว ถือว่าภารกิจเสร็จสิ้น ไม่ต้องการสืบทอดอำนาจแต่อย่างใด

“ก่อนวันที่ 22 พฤษภาคม2557ประเทศไทย เป็นประชาธิปไตยเต็มที่แต่หลักการนี้แก้ปัญหาไม่ได้ ทาง คสช.จึงเข้ามาดูว่าทำอย่างไร ไม่ให้ปัญหากลับมาอีก หากบอกว่าต้องเป็นสากลแบบเดิม อะไรจะยืนยันว่าปัญหาเหล่านั้นจะไม่กลับมาอีก มาตรการต่างๆที่วางไว้จะเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ เพื่อกำหนดให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง มีธรรมาภิบาล เดินตามยุทธศาสตร์ชาติไม่ให้เกิดปัญหาอีกและให้สังคมรู้ว่าแนวทางในการพัฒนาประเทศ จะเป็นอย่างไรอีกทั้งห้วงเวลานั้นคสช.และรัฐบาลก็ไม่อยู่แล้ว ช่วงนี้เป็นช่วงที่ฝ่ายต่างๆเสนอความคิดให้ กรธ.พิจารณาได้จึงต้องให้ความเคารพและวิจารณญาณ” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำ

โพลหนุนร่าง รธน.ใหม่

วันเดียวกัน กรุงเทพโพลล์ ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “มุมมองร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่ในสายตาประชาชน”โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ จำนวน 1,159 คน พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 88.7 ทราบข้อมูลร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ค่อนข้างน้อย มีเพียง ร้อยละ11.3ที่ทราบค่อนข้างมาก

เมื่อถามว่ารัฐบาล คสช.ให้สิทธิเสรีภาพในการวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญมากน้อยเพียงใด ร้อยละ 44.9 เห็นว่าให้สิทธิเสรีภาพค่อนข้างมากถึงมากที่สุด มีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับ ร้อยละ 44.7ที่เห็นว่าให้สิทธิเสรีภาพค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด ที่เหลือร้อยละ10.4 ไม่แน่ใจ เมื่อถามร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เป็นประชาธิปไตยหรือไม่ ร้อยละ45.8 เห็นว่ามีความเป็นประชาธิปไตย ขณะที่ ร้อยละ 36.1เห็นว่าไม่ค่อยมีความเป็นประชาธิปไตย และ ร้อยละ 18.1 ไม่แน่ใจ

เมื่อถามหากวันนี้เป็นวันออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญจะเห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้หรือไม่ ส่วนใหญ่ร้อยละ 45.1 เห็นชอบ ขณะที่ ร้อยละ 16.0 ไม่เห็นชอบและมีถึงร้อยละ 27.9 งดออกเสียง ส่วนที่เหลือ ร้อยละ 11.0 ไม่แน่ใจ

ให้ คสช.ลุยต่อหลังมีรัฐบาลใหม่

เมื่อถามว่าหลังจากได้รัฐบาลชุดใหม่แล้ว ควรมี คสช.ปฏิบัติหน้าที่อยู่ต่อไปหรือไม่ ร้อยละ 48.4 เห็นว่า ควรมี คสช.เพื่อป้องกันความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งมีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับร้อยละ 47.6 ที่เห็นว่า ไม่ควรมี คสช.เพราะควรให้รัฐบาลชุดใหม่ทำงานได้อย่างเต็มที่ ส่วนที่เหลือร้อยละ 4.0 ไม่แน่ใจ

มาร์คแนะสว.เลือกตั้ง/ปชช.มีส่วน

ที่ สถาบันพระปกเกล้า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงข้อเสนอของรัฐบาลที่ให้มี ส.ว.สรรหา ทั้งหมด ช่วงระยะปลี่ยนผ่าน 5ปี ว่าส่วนตัวเห็นว่าการเลือกส.ว.ทั้งสรรหา หรือเลือกอ้อมเลือกไขว้กัน ที่เสนอมานั้น ไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่ในใจอยากให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างกว่างขวางมากกว่า หากกังวลว่า พรรคการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องก็ออกแบบให้เลือกตามสายอาชีพ เพราะอยากเห็นส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่การกำหนดใช้วิธีการเลือกอ้อม หรือสรรหานี้ประชาชนมีส่วนร่วมน้อยมาก

ระวังปมหวังสืบทอดอำนาจ

เมื่อถามว่าที่พล.อ.ประวิตรวงษ์สุวรรณ รองนายกฯระบุเปิดช่องให้คสช.สามารถเข้าไปนั่งเป็นส.ว.สรรหาได้ด้วย ทำให้หลายคนเห็นว่าเป็นการสืบทอดอำนาจหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คนที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทั้งหลายในขณะนี้ ต้องระวังดำเนินการอะไรไปแล้ว เพื่อหวังจะสืบทอดอำนาจ ที่สุดก็จะเป็นปมความขัดแย้ง อยากให้พูดให้ชัดว่าที่พูดถึงระยะเวลา 5ปี มีข้อเสนออะไรบ้าง เพราะเท่าที่เห็นมีแค่เรื่องการปฏิรูปเพียงเรื่องเดียว ที่ระบุว่าเป็นชั่วคราวนี้ ต้องการทำอะไร ก็ต้องเอาให้ชัดว่าขอบเขตคืออะไรและจะสร้างปัญหาให้กับกลไกการเมืองปกติหรือไม่

จี้แบไต๋อย่าหมกเม็ดเลือก ส.ว.

ในประเด็นดังกล่าว นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวว่า ต้องดูการออกแบบที่มา และอำนาจ ส.ว.ของ กรธ.ก่อน แต่ตอนนี้ รัฐบาลต้องการให้ ส.ว.สรรหาทั้งหมด เป็นเรื่องใหญ่ที่ทุกคนจับตามอง กรธ.ยังยืนยันว่าออกแบบมาดีแล้ว หากจะนำประเด็นนี้ไปไว้นาทีสุดท้าย ถ้าถึงนาทีสุดท้าย คงทำอะไรไม่ได้ วิจารณ์ ก็ไม่ได้ อย่าเก็บเอาไว้ ควรเอาออกมาบอกประชาชนก่อน กรธ.คงกลัวว่า ถ้าบอกก่อน จะวุ่นวาย แต่มองสัญญาณแล้วเขาเอาแน่ ถ้าส.ว.มาจากสรรหาทั้งหมด อำนาจคงเพิ่มขึ้นกว่าเดิมแน่ ไม่อย่างนั้น คงไม่แต่งตั้งทั้งหมด เพราะ ส.ว.แต่งตั้งมา ค่อนข้างควบคุมได้ดักทางพ่วงคำถามต่อท่ออำนาจ คสช.

ซัดสว.สรรหาต่อท่อเผด็จการ

ในซีกพรรคเพื่อไทย นายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อดีตรองประธานสภาผู้แทนฯกล่าวถึงข้อเสนอให้สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)มาจากสรรหา เพียงอย่างเดียวและให้เป็นผู้คุมสถานการณ์ในช่วงระยะเปลี่ยนผ่านรัฐบาล 5 ปีว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องโดยหลักแล้ว อำนาจนิติบัญญัติต้องยึดโยงประชาชน ทำหน้าที่ กลั่นกรองกฎหมายและถ่วงดุลการบริหารงานของรัฐบาล โดยเฉพาะส.ว.ที่มีหน้าที่แต่งตั้งบุคคลเข้าไปเป็นองค์กรอิสระที่มีอำนาจมากด้วยแล้ว

“หาก สว.เป็นเช่นนั้น ก็จะเท่ากับเป็นการสืบทอดอำนา จฝ่ายเผด็จการอย่างชัดเจนซึ่งประชาธิปไตย ที่เราเรียกหา ไม่ใช่แบบนี้ และในที่สุดแล้ว ส.ว.สรรหาทั้งหลายจะเป็นอุปสรรค์ต่อการบริหารงานประเทศ ซึ่งช่วง 5 ปีแรกการเมืองจะวุ่นวาย จนรัฐบาลไม่สามารถทำงานได้”

กกต.แก้ร่างประชามติเสร็จแล้ว

นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)กล่าวยอมรับว่าการจัดทำร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ขณะนี้ กกต.ได้ปรับแก้ร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวเสร็จแล้วซึ่งตนได้เตรียมลงนามและส่งไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกครั้ง ส่วนการกำหนดโทษนักการเมือง ที่รณรงค์ ชี้นำการประชามติ จำคุก 10 ปี ปรับ 200,000 บาทนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขัดขวางการเลือกตั้ง เหมือนกับวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 โดยบทลงโทษดังกล่าว ไม่เกี่ยวกับการปิดกั้นการรณรงค์ประชามติเพราะหากไม่กระทำผิดก็ไม่ได้รับบทลงโทษ

ยังไม่ยื่นอสส.เอาผิด รบ.ปู-กกปส.

ส่วนมีกระแสข่าวว่ากกต.มีมติฟ้องเรียกหายเสียหายรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรและกลุ่ม กปปส. ฝ่ายละจำนวน 2,400 ล้านบาทจนส่งผลให้การเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์2557เป็นโมฆะนั้นนายศุภชัย ในฐานะ ประธาน กกต.กล่าวว่า ยังไม่ได้ลงนามในสำนวนนี้ หรือ ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด เพราะสำนวนอยู่ระหว่างการพิจารณาของ คณะกรรมการไต่สวนความผิดทางละเมิดที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในเร็วๆนี้

ส่วนกรณีที่ กปปส.จะร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)นั้น ก็สามารถกระทำได้ และเชื่อว่าบุคคลใดทำอะไรไว้ ย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ ซึ่งในการจัดการเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์2557 ทางกกต.ทำตามขั้นตอน ในประกาศกฤษฎีกาที่กำหนดวันเลือกตั้งไว้จึงไม่กังวลที่ กปปส.จะฟ้องร้องดำเนินคดี

แนะถกผู้ร่างก่อนตั้งคำถามประชามติ

ด้าน นายอมร วาณิชวิวัฒน์ โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)กล่าวถึงกรณี การหารือเพื่อตั้งคำถามควบคู่ไปกับการทำประชามติของ สนช.ว่า ส่วนตนเท่าที่ได้ยินมาตอนนี้ สนช.ยังไม่ชัดเจนว่าจะตั้งคำถามหรือไม่ จึงต้องรอมติ สนช.ก่อน ตนคิดว่า แม้กฎหมายจะไม่ได้บัญญัติไว้ว่าต้องหารือกัน แต่ถ้าจะเสนอคำถามควบคู่ไปกับประชามติต้องหารือระหว่างผู้ร่างกับทุกฝ่าย เพราะบางคำถาม อาจส่งผลกระทบ เกรงว่าในแง่ประชามติผ่าน หรือไม่ผ่าน บางคำถามอาจกระทบทำให้ประชาชนสับสนหรือไม่ อีกอย่าง จะได้ดูความสอดคล้อง เพื่อความชัดเจน ระหว่างผู้ร่าง กับทุกฝ่าย แต่อย่าพึ่งกังวล อาจไม่ตั้งคำถามก็ได้

นัดแก้รธน.ปมประชามติ10มีนา

 

ขณะที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)นัดประชุม สนช.ในวันที่ 10 มีนาคม 2559 เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...)พ.ศ.. ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)เป็นผู้เสนอ โดยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีจำนวน 4 มาตรา มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการลงมติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top