29 ม.ค.61 นายชาลี ลอยสูง รองประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) เข้าพบ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อหารือถึงค่าจ้างขั้นต่ำ และการจัดทำโครงสร้างค่าจ้าง
โดย นายชาลี กล่าวว่า เห็นด้วยกับการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ แต่ยังยืนยันจุดยืนเดิมคือต้องเท่ากันทั้งประเทศ เพื่อลดความเลื่อมล้ำและปัญหาการอพยพย้ายถิ่นฐาน ไปทำงานยังพื้นที่ที่มีค่าแรงสูงกว่า และทำให้เงินสภาพเศรษฐกิจในพื้นดีขึ้น
นอกจากนี้ ยังเสนอให้รัฐมนตรีทบทวนนโยบายการจัดทำโครงสร้างค่าจ้างประจำปีที่ต้องจัดทำทุกสถานประกอบการ ไม่จำกัดเฉพาะในสถานประกอบการที่มีแรงงาน 50 คนขึ้นไป เพื่อให้แรงงานเห็นอนาคตค่าจ้างของตนเอง และลดปัญหาการร้องเรียนขอปรับค่าจ้างขั้นต่ำประจำปี เนื่องจากเมื่อมีโครงสร้างค่าจ้าง ที่มีค่าจ้างขั้นต่ำเป็นค่าจ้างแรกเข้าทุกๆ ปี แรงงานจะได้ขึ้นค่าจ้างตามผลประเมินการทำงาน ทำให้ค่าจ้างถูกปรับขึ้นทุกปี ค่าจ้างขั้นต่ำจึงไม่จำเป็นอีกต่อไป อีกทั้ง ยังลดปัญหาราคาสิ้นค่าที่ปรับขึ้นทุกปีตามกระแสค่าจ้างขั้นต่ำด้วย
ด้าน พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำยืนยันทำตามขั้นตอน เป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง แม้การปรับขึ้นค่าจ้างจะกระทบเอสเอ็มอีขนาดเล็ก แต่รัฐมีมาตรการรองรับ ซึ่งจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.) ส่วนประเด็นเรื่องโครงสร้าง และการปรับขึ้นเท่ากันทั้งประเทศ ตามที่ฝ่ายลูกจ้างเสนอมานั้น จะนำมาพิจารณาเพื่อดูความเหมาะสม ก่อนดำเนินการปรับแก้ ส่วนเงินประกันสังคมนั้นขณะนี้ยังไม่มีมติใดๆ ยังอยู่ระหว่างการหารือเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายละเอียดการปรับขึ้นค่าแรงตามมติบอร์ดค่าจ้าง ดังนี้
1. อัตราค่าจ้าง หรือ ค่าแรง ใหม่จะให้มีผลบังคับใช้วันที่ 1 เม.ย. 2561
2. มีการเสนอมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการให้สามารถใช้ค่าจ้างแรงงานลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่า
3. สถานประกอบการที่มีลูกจ้างมากกว่า 50 คนขึ้นไป ให้มีการจัดทำโครงสร้างค่าจ้างให้ชัดเจนว่าแต่ละปีจะมีการปรับค่าจ้างค่าแรงขึ้นเท่าไร ซึ่งเป็นการรับประกันว่า จะมีการปรับขึ้นค่าจ้างทุกปี
4. จะมีการนำร่องผู้ประกอบการในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC คือ ประกอบด้วยชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา เป็นจังหวัดนำร่องค่าจ้างลอยตัว
5. จะมีการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศตั้งแต่ 5-22 บาท แบ่งเป็น 7 อัตรา
6. อัตราค่าจ้างวันละ 308 บาท มี 3 จังหวัด คือ นราธิวาส ปัตตานี และยะลา
7. อัตราค่าจ้างวันละ 310 บาท มี 22 จังหวัด คือ สิงห์บุรี ตรัง ลำปาง ลำพูน ตาก ราชบุรี ระนอง ชุมพร สตูล หนองบัวลำภู พิจิตร กำแพงเพชร สุโขทัย เชียงราย อุทัยธานี ศรีสะเกษ ชัยภูมิ อำนาจเจริญ แพร่ แม่ฮ่องสอน นครศรีธรรมราช มหาสารคาม
8. อัตราค่าจ้างวันละ 315 บาท มี 21 จังหวัด คือ ร้อยเอ็ด ประจวบคีรีขันธ์ นครสวรรค์ สระแก้ว พัทลุง อุตรดิตถ์ อุดรธานี นครพนม บุรีรัมย์ สุรินทร์ เพชรบุรี พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ชัยนาท เลย ยโสธร พะเยา บึงกาฬ น่าน กาญจนบุรี อ่างทอง
9. อัตราค่าจ้างวันละ 318 บาท มี 7 จังหวัด คือ จันทบุรี สมุทรสงคราม สกลนคร มุกดาหาร นครนายก กาฬสินธุ์ ปราจีนบุรี
10. อัตราค่าจ้างวันละ 320 บาท มี 14 จังหวัด คือ อุบลราชธานี สุพรรณบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา หนองคาย ลพบุรี ตราด ขอนแก่น สงขลา สุราษฎร์ธานี กระบี่ เชียงใหม่ นครราชสีมา พังงา
11. อัตราค่าจ้างวันละ 325 บาท มี 7 จังหวัด คือ กทม. นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา
12. อัตราค่าจ้างวันละ 330 บาท มี 3 จังหวัด คือ ภูเก็ต ชลบุรี และระยอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี