สมช.รับการข่าวพบกลุ่มป่วนเคลื่อนไหวหนักข้อไม่หยุด เป้าสร้างวุ่นวายระลอกใหม่ ขณะที่กลุ่ม “สกายวอล์ค” ดิ้นปลุกระดมชุมนุมใหญ่ไล่คสช. ลั่น10ก.พ.เปิดสมรภูมิยกระดับเผชิญหน้าทหาร-ล้มอำนาจเผด็จการ “เสื้อแดง”โผล่ให้ท้าย ประกาศอยู่ในที่ตั้งติดตามสถานการณ์ “เต้น” อ้าง “หน้าช้ำ” กลัวถูกแอบอ้างบิดเบือน ให้เด็กลงมือไปก่อน
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้ออกมายอมรับกรณีมีการสั่งการให้หน่วยงานความมั่นคงจับตาและดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด กับกลุ่มที่เคลื่อนไหวจ้องล้มรัฐบาลว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พูดว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่รัฐบาลทำงานมานานพอสมควร พอถึงจุดหนึ่งจึงมีความพยายามทำให้รัฐบาลอ่อนแอเพื่อให้รัฐบาลออกไป พยายามลดเครดิตความน่าเชื่อถือของรัฐบาล และเชื่อว่ากลุ่มคนเหล่านี้มีความพยายามเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ช่วงนี้จะเห็นว่าเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน หลายฝ่ายๆ หลายกลุ่มๆ เข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง กลุ่มการเมืองต่างๆ ก็ออกมาเพื่อประโยชน์ของกลุ่มตัวเอง เพื่อบั่นทอนรัฐบาลเพื่อก่อกระแสความวุ่นวายขึ้นมา
สมช.ชี้มีความพยายามขยายวงป่วน
เมื่อถามว่า งานด้านการข่าวพบมีการเตรียมก่อเหตุสร้างความวุ่นวายมากกว่านี้หรือไม่ พล.อ.วัลลภ กล่าวว่า ช่วงนี้พบว่ามีการเคลื่อนไหวมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของทางการเมือง ส่วนจะขยายสถานการณ์หรือไม่ ตนมองว่าเป็นความตั้งใจ แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของแต่ละกลุ่ม อาจจะหวังผลการเมือง
เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ย้ำให้มีการติดตามงานด้านการข่าวมากขึ้นหรือไม่ พล.อ.วัลลภ ตอบว่า ไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ เจ้าหน้าที่ติดตามอยู่แล้วในเรื่องที่จะมีผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็นการเดินขบวน การแสดงความคิดเห็นต่างๆ เจ้าหน้าที่ติดตามไปตามหน้าที่
“จ่านิว”รับช็อก!คสช.เล่นแรงจับดะ
ขณะที่ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว แกนนำกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณี คสช. แจ้งความเอาผิดการชุมนุมเรียกร้องการเลือกตั้งบน สกายวอล์ค สยามสแควร์ เมื่อวันที่ 27 มกราคม โดยไม่ยอมเอาผิดแค่แกนนำ แต่กลับเหมารวมแจ้งข้อหากับผู้ชุมนุม 39 คน และยังมีอีก 66 คนที่อาจจะถูกดำเนินคดีเพิ่มขึ้นว่า รู้สึกช็อก เพราะไม่คิดว่ารอบนี้จะเล่นกันรุนแรง โดยดำเนินคดีกับผู้มาร่วมชุมนุมด้วย ซึ่งถือเป็นจำนวนมากที่สุด
ปลุกระดม10กพ.ชุมนุมต้านคสช.
นายสิรวิชญ์ กล่าวต่อว่า การกระทำของ คสช. ครั้งนี้ ถือเป็นความพยายามในการสร้างความหวาดกลัวในหมู่ประชาชน จึงอยากฝากให้ผู้ที่ถูกแจ้งข้อหาทั้งหมดมีกำลังใจในการต่อสู้ไปด้วยกัน และยังไม่รู้แน่ชัดว่าจะมีอีก 66 คนถูกดำเนินคดีตามที่ ผบ.ตร. ระบุไว้หรือไม่ พร้อมกับย้ำว่า การชุมนุมต่อต้านรัฐบาล คสช. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ จะเกิดขึ้นตามที่นัดหมายประชาชนไว้อย่างแน่นอน
ซัดคสช.จงใจสร้างภาพกลุ่มต้านไม่จงรักภักดี
นายรังสิมัน โรม แกนนำกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย กล่าวว่า การที่ คสช. ใช้ข้ออ้างว่าชุมนุมใกล้พื้นที่เขตพระราชฐาน เป็นความพยายามจงใจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดคิดว่า เป็นกลุ่มคนที่ไม่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งที่การจัดกิจกรรมบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ไม่มีเจตนารบกวนพระองค์ท่าน หากเพียงต้องการสื่อสารต่อประชาชนเท่านั้น ซึ่งประเด็นนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทราบดี เพราะอยู่ห่างจากเขตพระราชฐานมากกว่ารัศมี 150 เมตรแน่นอน
ลั่น10ก.พ.ยกระดับชุมนุมเผชิญหน้าทหาร
อย่างไรก็ตาม แม้รัฐบาลจะดำเนินคดีกับนักกิจกรรมทั้ง 39 คน แต่ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่จะมีการยกระดับการชุมนุมขึ้น จะคงยังจัดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะตอนนี้ตัวละครมีเพียง 2 ฝ่ายคือประชาชนกับทหารเท่านั้น โดยเชื่อว่าจำนวนประชาชนที่เดินทางมาร่วมชุมนุมกันในวันดังกล่าว จะเป็นตัวแปรในการตัดสินใจของรัฐบาลว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่ไม่ได้หมายความว่าหากประชาชนมาร่วมกิจกรรมในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ประชาชนจะเป็นชนะ หากแต่เป็นอีกก้าวสำคัญที่จะขยับไปสู่การสร้างประชาธิปไตย
โวจะเป็นสมรภูมิล้มอำนาจเผด็จการ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายรังสิมัน ยังได้โพสต์เฟซบุ๊ก “Rangsiman Rome” กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่สกายวอล์คถือเป็นการ “เชือดไก่ให้ลิงดู” เพื่อให้ผู้ที่ต้องการร่วมชุมนุมวันที่ 10 ก.พ. หวาดกลัวต่อการถูกดำเนินคดีและต้องโทษจำคุก จนถอดใจและยอมถอยกลับไปอีกครั้ง
ดังนั้น ในแง่นี้จึงแสดงให้เห็นว่าวันที่ 10 กุมภาฯ จึงเป็นสมรภูมิสำคัญของภาคประชาชน ว่าจะสามารถปักธงเพื่อเริ่มต้นศักราชใหม่ของประเทศ ศักราชใหม่ที่ปราศจากการครองอำนาจโดยเผด็จการทหารที่ดูดกินความมั่งคั่งของประเทศได้หรือไม่ หากในวันนั้นผลปรากฎว่าภาคประชาชนล้มเหลว ส่วนตัวผมเชื่ออย่างยิ่งว่าการเลือกตั้งในปีนี้และปีหน้าคงจะไม่เกิดขึ้น รวมถึงแรงกดดันต่อ พล.อ.ประวิตรก็คงจะหมดไปด้วย
ประชาชนจึงจำเป็นต้องออกมาสู้ ออกมาร่วมแสดงพลัง ยิ่งเราออกมามากเท่าไหร่ โอกาสชนะก็จะยิ่งมากตามไปด้วย และจะเป็นแรงผลักดันให้ประชาชนคนอื่นๆ กล้าออกมาต่อสู้มากขึ้นในครั้งต่อๆ ไป
เสื้อแดงลั่นอยู่ในที่ตั้ง-ให้เด็กออกหน้าลงมือ
วันเดียวกัน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดง กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลปล่อยให้มีการเลือกตั้งตามโรดแมปเดิมก็เชื่อว่า คงไม่มีใครออกมาเคลื่อนไหว ดังนั้นจึงอยากให้สังคมพิจารณาว่า ระหว่างคนอยากเลือกตั้งกับคนอยากอยู่ยาว อะไรกันแน่ที่เป็นปัญหา
“นปช.เราอยากเลือกตั้งมาตั้งแต่ต้นปี 2557 เพื่อรักษาประชาธิปไตย แล้วแก้ไขปัญหา โดยกลไกที่ประชาชนมีส่วนร่วม จึงขอเป็นกำลังใจให้ผู้ถูกกล่าวหา เชื่อมั่นว่า ทุกคนเข้มแข็งที่จะต่อสู้ตามหลักการต่อไป พวกผมยังคงติดตามสถานการณ์ในที่ตั้ง เพราะสู้มากว่า10 ปี เป็นคนหน้าช้ำ ต้องระมัดระวังไม่ให้ถูกบิดเบือน เพื่อทำลายคนหน้าใหม่” นายณัฐวุฒิ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี