รัฐบาลไม่เกี่ยว"บิ๊กป้อม-วิษณุ"โยนกกต.สอบปมคลิปแม้วครอบงำพท.หรือไม่ ด้าน"จรุงวิทย์"คาดใช้เวลา2สัปดาห์ถึงจะได้ข้อสรุป ขณะที่"ชูศักดิ์"ยันอดีตนายกฯมีสิทธิแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ยก2เหตุผลไม่เข้าข่ายผิดกม. โวลั่นฆ่ายังไงก็ไม่ตาย ส่วน"ณัฐวุฒิ"โดดป้องทักษิณ ไล่กกต.ไปสอบพรรคดูดยิ่งกว่าชี้นำสองเด้ง "อภิสิทธิ์"ของขึ้นจวกแม้ว-ปูไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนก่อปัญหา ตอกย้ำไม่มีวันจับมือเพื่อไทย
วันนี้ (25 มิ.ย.61) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีคลิปของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า พรรคเพื่อไทย (พท.) จะชนะการเลือกตั้งในอีสานในการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างแน่นอนนั้น จะเข้าข่ายครอบงำพรรคหรือไม่ว่าให้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำเนินการ
กกต.สอบคลิปแม้วเอง-รบ.ไม่ได้สั่ง
พล.อ.ประวิตร กล่าวอีกว่า ส่วนเข้าข่ายยุบพรรคหรือไม่นั้น ตนดูไม่ได้ ต้องดูตามกฎหมาย ซึ่งตนไม่ได้สั่ง กกต.เป็นการดำเนินการของ กกต.เอง ส่วนที่มองว่าการที่นายทักษิณออกมาเคลื่อนไหวเพราะพรรคเพื่อไทยนั้น ตนไม่ทราบไม่ได้อยู่พรรคเพื่อไทย ตอบไม่ได้ และไม่ได้ประเมินอะไร
"วิษณุ"อ้างไม่กล้าตอบโยนให้กกต.
เช่นเดียวกับ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ว่า ไม่ทราบ ไม่กล้าตอบ ตอบไม่ถูก ซึ่งการชี้ถูก ชี้ผิด ลักษณะแบบนี้ นักกฎหมายในรัฐบาลไม่ควรพูดอะไรทั้งนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า การครอบงำพรรคการเมืองต้องมีพฤติกรรมอย่างไรบ้าง นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนไม่ได้ดู เลยจำไม่ได้ ไม่รู้อะไร ถามจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดีกว่า
เมื่อถามว่า ในกฎหมายพรรคการเมืองใหม่ไม่สามารถทำอะไร ในลักษณะแบบนี้ได้ใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่รู้ จำไม่ได้แล้ว
กกต.ยันสั่งให้สอบข้อเท็จจริงแล้ว
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ทุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า ได้มอบหมายให้สำนักกิจการพรรคการเมืองฯ รวบรวมตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าจะเข้าข่ายที่ทาง กกต.จะตรวจสอบต่อไปหรือไม่ คาดว่าใช้เวลาไม่นาน และจะต้องรายงานให้กับ กกต.ทราบ เพราะกรณีนี้เป็นเรื่องของนายทะเบียนพรรคการเมือง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560
ต้องดูว่าผู้บริหารพรรคทำตามหรือไม่
"สมมติว่า กรณีนี้เป็นการพูดโดยบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกของพรรคการเมือง เข้าไปครอบงำ ชี้นำ ทำให้พรรคการเมืองขาดความเป็นอิสระ และองค์ประกอบอื่นๆ ซึ่งในเบื้องต้นขณะนี้ พรรคการเมืองก็กำลังปรับตัวกันอยู่ เพื่อให้เป็นสถาบันทางการเมืองของประชาชนอย่างแท้จริง ดังนั้น จึงต้องดูกันต่อไปว่า หากมีการประชุมดังกล่าวแล้ว กรรมการบริหารพรรคจะทำตามหรือไม่ พรรคการเมืองจะยินยอมตามนี้หรือไม่ ทั้งนี้ การที่จะดำเนินคดี จะต้องมีการฟังข้อเท็จจริงรอบด้านเสียก่อน" พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าว
พท.ขนหัวลุกขอเวลา2สัปดาห์รู้ผล
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังไม่จำเป็นที่จะต้อง ให้พรรคการเมืองมาชี้แจง เพราะยังอยู่ในขั้นตอนของการเตรวจสอบเบื้องต้น ว่า มีคลิปหรือมีพฤติกรรมอะไรอีกบ้าง ซึ่งอาจจะ ใช้เวลา 1 - 2 สัปดาห์ และจะต้องมาปรับตามข้อกฎหมายว่า ในเบื้องต้นครบองค์ประกอบของกฎหมายหรือไม่ ซึ่งไม่ใช่ว่าจะได้ข้อสรุป ในวันนี้พรุ่งนี้ แล้วถ้าเข้าข่ายครบตามองค์ประกอบของกฎหมายแล้วจะต้องทำอย่างไรต่อ ซึ่งอาจจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสืบสวน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานต่อไป
"ชูศักดิ์"อ้างเป็นสิทธิแสดงความเห็น
ด้าน นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่อดีตนายกฯ จะพูดคุยถึงความเป็นไปของบ้านเมือง ให้ความเห็นต่อการดูด ส.ส.ของฝ่ายผู้มีอำนาจ ใครจะชนะจะแพ้ ใครจะถูกหลอก ควรเป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพทางการเมือง ที่ใครๆ ก็มีสิทธิที่จะแสดงความเห็นได้ ไม่ใช่ผู้มีอำนาจจะทำได้ฝ่ายเดียว
อ้าง2เหตุผลไม่เข้าข่ายครอบงำ
"กรณีนี้ไม่เข้าองค์ประกอบใดๆ เลย เพราะ 1.พรรคการเมืองต้องยินยอมให้ครอบงำ ไม่ปรากฏว่าพรรคเขาไปมีส่วนรู้เห็นอะไรด้วย เลขาฯ พรรคก็ไม่ได้ไป หัวหน้าก็ไม่ได้ไป เป็นเรื่องสมาชิกตีกอล์ฟและร่วมอวยพรวันเกิด 2.ไม่ปรากฏว่าพรรคเขาทำกิจกรรมอะไร จริงๆ ก็ทำไม่ได้ด้วย จึงไม่รู้ว่าไปแทรกแซงครอบงำกิจกรรมเรื่องใด" นายชูศักดิ์ กล่าว
โวลั่นเพื่อไทยฆ่ายังไงก็ไม่ตาย
อย่างไรก็ตาม ถ้า กกต.จะตรวจสอบอะไรก็คงไม่ว่ากัน แต่กรุณาเข้าใจบริบททางการเมืองให้ถ่องแท้ และไม่ควรใช้กฎหมายที่สร้างขึ้นแบบลุแก่อำนาจ เป็นเครื่องมือทำลายล้างพรรคการเมือง ไม่เป็นผลดีอะไรเลย มีแต่จะทำให้ความขัดแย้งแตกแยกขยายใหญ่โตออกไปอีก ในขณะที่ผ่านมาก็พิสูจน์แล้วว่าพรรคการเมืองนี้ฆ่าไม่ตายสักที
ส่วน นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานในรัฐบา ลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Pichai Naripthaphan ว่า "เช็คโพลกี่ครั้งก็ชนะ เลยต้องใช้วิธีนี้หรือ ?????"
"ณัฐวุฒิ"ดักคอกกต.อย่าบ้าจี้สอบ
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า หากคณะกรรมการหารเลือกตั้ง (กกต.) จะแสดงความตื่นตัวในการติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายการเมือง และบังคับใช้กฎหมายถึงขั้นยุบพรรค ก็ไม่ควรมองเฉพาะพรรคเพื่อไทย เพราะตอนนี้ติดล็อคไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เช่นเดียวกับพรรคการเมืองอื่นๆ
ป้องพท.ถึงแม้วไม่พูดคนก็รู้ว่าชนะแน่
"ดังนั้นหากจะอ้างคลิปวีดิโอของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่วนตัวมองว่าเป็นการพูดถึงสถานการณ์อย่างตรงไปตรงมา คนส่วนใหญ่ก็เชื่อเหมือนกันว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะ แล้วหากมีคนออกจากพรรคก็เป็นโอกาสของคนรุ่นใหม่ เรื่องแบบนี้ถึงไม่พูดก็เชื่อว่าทุกคนทราบอยู่แล้ว จะเรียกว่าครอบงำพรรคได้อย่างไร" นายณัฐวุฒิ กล่าว
ไล่กกต.ไปดูพรรคดูดครอบงำ2เด้ง
พร้อมชี้เป้าให้ กกต.ดูพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งคณะผู้ก่อตั้งพรรคไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรเลย ส่วนที่เดินดูดกันอยู่ทั้งกลุ่มสามมิตรและอื่นๆ ถามว่ามีใครเป็นสมาชิกพรรคบ้าง ไม่ยิ่งกว่าครอบงำหรือไม่ ที่สำคัญคือ การเมืองทั่วไปเชื่อด้วยว่า เบื้องหลังกลุ่มสามมิตรน่าจะมีกลุ่มบุคคลที่มีอำนาจคอยสั่งการอยู่อีกที ซึ่งเท่ากับครอบงำชี้นำสองเด้งหรือไม่
"หากเอามาตรา 28 และ 29 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาพิจารณา ถามว่าลักษณะเช่นนี้เข้าข่ายถูกยุบพรรคหรือไม่ ควรสนใจตรวจสอบบ้าง แค่กติกาและกลไกอำนาจทั้งหลายที่เป็นอยู่ การเลือกตั้งก็มีปัญหาเรื่องความชอบธรรมมากอยู่แล้ว ไม่ควรไปสร้างเงื่อนไขเพิ่ม เพราะถึงอย่างไรก็ไม่มีใครบังคับประชาชนได้ ถึงไม่มีพรรคเพื่อไทย ถ้าประชาชนจะเลือก ก็ยังเลือกพรรคที่ยืนยันหลักการประชาธิปไตยอยู่ดี ซึ่งการใช้อำนาจไม่ได้หมายความว่าจะสำเร็จทุกอย่างได้" นายณัฐวุฒิ ระบุ
มาร์คขอให้ฝ่ายกม.วินิจฉัย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ที่มีคลิปของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งในอีสานในการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างแน่นอนนั้น จะเข้าข่ายครอบงำพรรคหรือไม่ ว่า กรณีนี้ต้องให้ผู้รักษากฎหมายไปวินิจฉัยว่าเป็นการเข้ามาแทรกแซงหรือครอบงำหรือไม่
ซัดแม้ว-ปูไม่เคยคิดว่าตัวเองทำผิด
ส่วนที่มองว่าจะบั่นทอนประชาธิปไตยหรือไม่นั้น ตนมองว่าสิ่งที่สะท้อนอย่างหนึ่งคือ บางคนและบางฝ่ายยังไม่ยอมรับ รวมถึงไม่เรียนรู้ว่าการที่ประเทศเข้ามาสู่ปัญหาตรงนี้ มันต้องร่วมกันรับผิดชอบ แต่สิ่งที่สองพี่น้องตระกูลชินวัตรแสดงออก ทำให้เห็นว่า เขาไม่ได้คิดว่าในอดีตมันเป็นปัญหา หรือเขามีส่วนในการก่อปัญหาเลย ซึ่งตรงนี้อันตราย
ประกาศชัดไม่มีวันจับมือเพื่อไทย
ทั้งนี้ ตนไม่นิยมระบบอุปถัมภ์แบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นนายเก่าหรือนายใหม่ ดังนั้นจึงบอกว่าวันนี้ประเทศไทยต้องมีทางเลือกที่ดีกว่านี้ อีกทั้งเราจะต้องติดตามกันต่อว่ามันจะเป็นไปตามที่เขาโฆษณาหรือคุยโม้ไว้หรือจริงหรือไม่
"ผมถูกถามมาตลอดว่า จะจับมือกับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่นั้น ผมก็ย้ำว่าต้องดูว่าพรรคเพื่อไทยได้เรียนรู้หรือยัง หากเขายังอยู่ภายใต้การครอบงำของครอบครัวชินวัตร ยังมีปัญหาเรื่องผลประโยชน์ของครอบครัวชินวัตร อย่างไรก็จับมือกันไม่ได้ ดังนั้นพฤติกรรมเหล่านี้ก็เป็นแต้มสะสมที่ผมใช้พิจารณา นอกจากนี้ สังคมยังจับตาว่าหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ เพราะจะเป็นตัวสะท้อนว่าตกลงได้เปลี่ยนแปลงจากการมีครอบครัวชินวัตรเป็นเจ้าของหรือไม่" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
จี้บิ๊กตู่บอกให้บริวารเลิกดูดได้แล้ว
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ออกมาปฏิเสธว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการดูดอดีต ส.ส.เข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐ ที่มีการคาดหมายว่าเป็นพรรคการเมืองที่สนับสนุนทหารว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดูดอดีต ส.ส.เป็นคนรอบๆ หรืออยู่ในรัฐบาลนี้ หากจะรักษาธรรมาภิบาล หากจะเดินหน้าปฏิรูปการเมืองจริง ก็อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ ใส่ใจดูในเรื่องเหล่านี้ว่ามันมีจริง เกิดขึ้นจริงหรือไม่ หากมีใครในแวดวงของท่าน ท่านก็ต้องบอกให้หยุดหรือบอกให้เลิก หรือต้องปรามว่าอย่าให้เกิดขึ้นอีก
กำนันลั่นไม่เอาระบอบทักษิณ
ขณะที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำกลุ่ม กปปส.กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า เป็นหน้าที่ของฝ่ายอื่นที่จะดำเนินการ ไม่ใช่หน้าที่ของพวกตน เพราะสิ่งที่ กปปส.ชุมนุมเคลื่อนไหวที่ผ่านมา เพราะต้องการต่อต้านระบอบทักษิณ ไม่มีเจตนาไปจองล้างจองผลาญ แต่หากในอนาคตมีผู้กระทำการเช่นเดียวกับนายทักษิณ ตนก็จะออกมาต่อต้านอีก
ชี้ข่าวใช้เงินดูดสส.ส.แค่วาทกรรม
นายสุเทพ ปฏิเสธแสดงความเห็นกระแสข่าวดูด ส.ส.ให้มาร่วมงานกับ คสช.เป็นเพียงการสร้างวาทกรรมทางการเมืองขึ้นมา เพื่อเรียกคะแนนให้กับตัวเองและทำร้ายฝ่ายตรงข้าม ซึ่งส่วนตัวไม่รู้สึกอะไร เพราะนักการเมืองมีสิทธิที่จะเลือกพรรคที่ตัวเองต้องการทำงานร่วม ส่วนการตัดสินใจจะถูกต้องชอบธรรมหรือไม่ ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี