จ้องกาหัวผูแทนซื้อเสียง
กกต.ใหม่ฟิต
ย้ำชัดไม่ปล่อยให้เข้าสภา
จัดเลือกตั้งให้ทั่วโลกยอมรับ
‘ประยุทธ์’รุกหนักอันดามัน
ลุยครม.สัญจรชุมพร-ระนอง
หนุนด้านท่องเที่ยว-คมนาคม
“ประยุทธ์” ลุยครม.สัญจร “ระนอง-ชุมพร” ทุ่มงบ เน้นท่องเที่ยว-คมนาคมทุกระบบ ขณะที่ ประธาน กกต.ปลุกองค์กรทำงาน สุจริต เที่ยงธรรม กำชับทำงานเข้มแข็งยึด4 ข้อ หวังเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศประกาศกร้าวไม่ปล่อยคนโกงเข้าสภา ขณะ“ปชป.-ชพน.”พร้อมใจ ให้กำลังใจ กกต.ใหม่
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกำหนดการเดินทางของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะรัฐมนตรี เพื่อไปตรวจราชการจังหวัดระนองกับจังหวัดชุมพรและประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 6/2561ที่ จ.ชุมพรระหว่าง วันที่ 20–21สิงหาคม 2561
สำหรับการตรวจราชการในครั้งนี้นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการส่งเสริมการท่องเที่ยว จังหวัดระนอง ให้เป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ พร้อมทั้งการส่งเสริมแพทย์ทางเลือกโดยการบำบัดและฟื้นฟูสุขภาพแบบดุลยภาพบำบัดด้วยน้ำพุร้อนตามธรรมชาติและจะมีการพิจารณาผลักดันท่าเรือระนองให้เป็นศูนย์กลางการค้าและโลจิสติกส์ชายแดนฝั่งอันดามันเพื่อรองรับ IMT-GT และกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอ่าวเบงกอล เนื่องจากที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่เป็นจุดศูนย์กลางเชื่อมโยง เส้นทางคมนาคมทั้งทางบก ทางรถไฟ ทางอากาศ และท่าเรือ นอกจากนี้ จะดูในเรื่องของการรักษาฟื้นฟูทรัพยากร ธรรมชาติทางทะเลโดยการใช้ปะการังเทียม เพื่อเป็นแหล่งพักอาศัย แหล่งอาหารและแหล่งสืบพันธุ์ของสัตว์น้ำ อันจะเป็นการฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น้ำตามธรรมชาติ
ในส่วนของ จ.ชุมพร นายกฯจะดูเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ ตามโครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริที่เป็นการพัฒนาแก้มลิงธรรมชาติให้สามารถใช้ในการบรรเทาอุทกภัยของชุมพรและสามารถเก็บกักน้ำไว้ใช้ในการเกษตรและอุปโภคบริโภค และส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนและสนับสนุนแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรในท้องถิ่นโดยการนำองค์ความรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่นนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร บนแนวความคิดอย่างสร้างสรรค์ และสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของการรวมกลุ่มเชื่อมโยงเครือข่ายแลกเปลี่ยน เรียนรู้ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
เปิดโปรแกรม นายกฯ20-21ส.ค.
โดยวันจันทร์ที่ 20 ส.ค. เวลา 08.45 น. นายกรัฐมนตรีจะพบประชาชนที่หอประชุมพระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี ศูนย์ราชการจังหวัดระนอง ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง โดยนายกรัฐมนตรี จะเป็นสักขีพยานพิธีมอบสมุดประจำตัวผู้ที่ได้รับการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ตามนโยบายรัฐบาลในลักษณะแปลงรวม ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ“ป่าคลองลำเลียง-ละอุ่น” เนื้อที่ 511–3–33ไร่จำนวน 84 ราย 98แปลง จากนั้น นายกฯ จะเดินทางไปต่อยังโรงพยาบาลระนอง ต.เขานิเวศน์ อ.เมือง เพื่อเยี่ยมชมบ่อน้ำพุร้อนรักษะวาริน รวมทั้งเยี่ยมชมการดำเนินงานของศูนย์ฟื้นฟูสภาพด้วยการแพทย์ทางเลือกพร้อมรับฟังบรรยายสรุปการดำเนินงานของศูนย์ฯ เยี่ยมชมศูนย์ธาราบำบัด คลินิกแพทย์แผนไทยและฝังเข็ม เสร็จแล้วนายกฯจะเดินทางต่อไปยังท่าเรือระนอง บ้านเขานางหงส์ ต.ปากน้ำ อ.เมืองไปเยี่ยมชมการบริหารจัดการท่าเรือระนองพร้อมรับฟังบรรยายสรุปทิศทางการพัฒนาท่าเรือระนอง และมอบปะการังเทียมให้แก่ผู้แทนประชาชน
ช่วงบ่าย เวลาประมาณ15.30น.นายกฯจะเดินทางไป จ.ชุมพรพบปะประชาชนเยี่ยมชมการบริหารจัดการน้ำพร้อมทั้งเยี่ยมชมโครงการแก้มลิงหนองใหญ่และสะพานไม้เคี่ยม ณ โครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริ ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร จากนั้น นายกรัฐมนตรีสักการะอนุสรณ์สถานพลเรือพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และเยี่ยมชมทิวทัศน์หาดทรายรี ณ ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ต.หาดทรายรี อ.เมือง จ.ชุมพร
ส่วนในวันอังคารที่ 21 ส.ค.เวลา 08.30น.ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ นายกฯจะเป็นประธานประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย (ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และพัทลุง) และกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (ระนอง พังงา กระบี่ ภูเก็ต ตรัง และสตูล) จากนั้นนายกฯจะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 6/2561 ณ ห้องประชุมชั้น 4 อาคารคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง วิทยาเขตชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ตำบลชุมโค อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร
และในช่วงบ่าย นายกฯจะร่วมกิจกรรมปล่อยลูกปูม้าจำนวน 10 ล้านตัว คืนสู่ทะเล เพื่อประกาศความอุดมสมบูรณ์ของทะเลและชายฝั่งภาคใต้ ตอนบนร่วมกับ ชาวประมง กลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล กลุ่มท่องเที่ยวทางทะเล และชุมชน ณ บริเวณชายหาดพระจอมเกล้าฯจากนั้นจะเดินทางต่อไปเพื่อเยี่ยมชมการดำเนินงานของวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ตำบลทะเลทรัพย์ อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร เสร็จแล้วนายกรัฐมนตรีเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร
ชุมพรดันพัฒนาระบบโลจิสติกส์
ด้านนายสุพงศ์ เอื้ออารี ประธานหอการค้าจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ฯ (ครม.สัญจร) ที่จังหวัดชุมพร ในระหว่างวันที่ 20-21 สิงหาคม 2561 กลุ่มจังหวัดหอการค้าภายใต้และสภาอุตสาหกรรม จะเสนอให้มีการผลักดันกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน(ภูเก็ต พังงา ระนอง กระบี่ และตรัง) ควบคู่กับกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย (ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง) โดยเฉพาะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ ทั้งทางถนน เช่น ถนนเพื่อการท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเล หรือ ไทยแลนด์ ริเวียร่า ตั้งแต่ จ.เพชรบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชุมพร จ.ระนอง และเชื่อต่อไปยังจังหวัดสงขลา การสนับสนุนการโครงการมอเตอร์เวย์สายนครปฐม-ชะอำ และโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายชะอำ-ชุมพร และการพัฒนาทางราง เพื่อสนับสนุนด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว
นอกจากนี้ จะเร่งส่งเสริมการค้าการลงทุนโดยจะเชื่อมโยง ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี) เข้ากับท่าเรืองระนองและกลุ่มประเทศเอเชียใต้ประกอบด้วยสมาชิก7ประเทศคือ บังคลาเทศ ศรีลังกา อินเดีย ไทย พม่า เนปาลและภูฏานจะเป็นการเชื่อมโยงระบบการขนส่งที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในการลงพื้นที่ของคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ภาคเอกชนจะนำเสนอจุดเด่นของจังหวัดเพื่อให้มองเห็นศักยภาพของพื้นที่ที่จะมีการพัฒนาต่อยอดงจะส่งผลดีต่อธุรกิจในท้องถิ่น
กกต.จัดเลือกตั้งเที่ยงธรรม
วันเดียวกัน ที่โรงแรมพินนาเคิลแกร์นด์ จอมเทียน รีสอร์ท ชลบุรี สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้จัดประชุมผู้บริหารและผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดทั่วประเทศเพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการดำเนินการให้ได้มาซึ่ง ส.ว. และจัดทำแผนปฏิบัติการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.เป็นการเลือกตั้งทั่วไป โดย นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.กล่าวเปิดงานช่วงหนึ่งว่าภูมิใจและดีใจที่มีโอกาสเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรนี้ เป็นหนึ่งในองค์กรอิสระที่ร่วมขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศเพื่อทำให้การเลือกตั้งเกิดความสุจริต เที่ยงธรรม เชื่อว่ากกต.ทุกคนก็รู้สึกเช่นเดียวกันและเห็นว่าการเตรียมการจัดการเลือกตั้งเพื่อให้เป็นตามโรดแม็ปที่รัฐบาลวางไว้ ของ กกต.ชุดเก่า มีการเตรียมความพร้อมไว้เป็นอย่างดี
“การมีแผนปฏิบัติการไม่เพียง แค่ทำให้การเลือกตั้งสำเร็จ แต่จะทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งในและนอกประเทศเข้าถึงการเลือกตั้ง มีความรู้ความเข้าใจ ถือว่าเป็นปัจจัยเสริม และมั่นใจว่าทำให้การออกเสียงเลือกตั้ง เป็นไปด้วยความอิสระ ปราศจากอิทธิพล ครอบงำ และขอให้ทุกคนมีเป้าหมายการจัดการเลือกตั้งให้สุจริต เที่ยงธรรม เพื่อให้ได้รับการยอมรับทั้งภายในและนอกประเทศ” นายอิทธิพร ย้ำ
เน้นทำงานเข้มแข็งยึด4 ข้อ
ทั้งนี้ ประธาน กกต. ยังได้มอบนโยบายโดย เน้นย้ำว่า การทำงานของกกต.ต้องมีความเข้มแข้งใน 4 เรื่อง 1. ต้องมีเอกภาพและเป็นองค์กรที่ได้ที่หนึ่งในเรื่องความสามัคคี ถ้าองค์กรเข้มแข็ง ไม่ว่ากฎหมายจะเป็นอย่างไร การจัดการเลือกตั้ง ก็จะบริสุทธิ์ ยุติธรรม เมื่อจัดเลือกตั้งดีแล้ว ก็จะทำให้พรรคการเมือง เป็นผู้เล่นมีคุณภาพ มีความหมาย ประชาชนที่เข้ามามีส่วนร่วมใช้สิทธิอย่างมีคุณภาพ อยากให้เน้นให้ความสำคัญกับเยาวชน ตั้งแต่อายุ 11-18 ปี ในช่วง7ปี ที่ กกต.ชุดนี้มีวาระ ทำให้กลุ่มพลังนี้มีความรู้มีความเข้าใจ 2.คุณภาพ เราต้องรู้ซึ้งถึงอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ต้องตั้งเป้าการทำงาน ต้องทำให้เร็ว ทันเวลาและถูกต้อง ต้องลงพื้นที่ไปพบพรรคการเมือง นักการเมืองและประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งบางสถานการณ์จำเป็นต้องมี วอร์รูม เพื่อติดตามสถานการณ์เช่นในการเลือกตั้ง 3.คุณธรรม พนักงานต้องยึดมั่นการทำงานอย่างเป็นธรรม ยุติธรรม เปิดใจกว้าง และ 4.คุณค่า การทำงาน ต้องยึดและปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรม ซื่อสัตย์ สุจริต กล้าหาญ ไม่อยู่ภายใต้การครอบงำ ปราศจากอคติ องค์กรจะต้องกล้าหาญ ถ้าเรากล้าหาญและสุจริตก็จะเป็นเกราะคุ้มครองเรา ขอให้ถือเป็นคุณค่าและค่านิยมขององค์กร
ลั่นไม่ปล่อยคนโกงเข้าสภา
ด้านนายปกรณ์ มหรรณพ หนึ่งในกกต.ชุดใหม่ กล่าวว่าช่วงนี้ทุกฝ่ายต่างคาดหวัง ถึงความสุจริตและเที่ยงธรรมในการจัดการเลือกตั้งของ กกต.แต่อะไร คือ ความสุจริตและเที่ยงธรรม เพราะฝ่ายหนึ่งคาดหวังอย่างหนึ่ง อีกฝ่ายก็หวังอย่างหนึ่ง ดังนั้น การทำงานของ กกต. ชุดนี้เราจะให้ความสุจริต เที่ยงธรรม ตามกฎหมายดังนั้น ไม่มีทางที่จะได้ หากท่านไม่สุจริตมาก่อน
“แม้ผมจะเคย เป็นผู้พิพากษามา36 ปีโดยการทำงานผู้พิพากษา เมื่อพิจารณาสำนวนที่หลักฐานไม่ชัดไม่100 เปอร์เซ็นต์ก็จะต้องปล่อย แต่เมื่อผมมาทำงานนี้ หากผมสงสัยผมจะไม่ปล่อยอย่างแน่นอน แม้ผมไม่มีอำนาจ ไม่มีสิทธิ ไม่มีอะไรเลย ที่จะทำให้พวกท่านเข้าไปบริหารบ้านเมือง หรืออยู่ในสภา แต่ผมจะทำให้คนที่ไม่สุจริตและคนที่โกงไม่ได้เข้าไป” นายปกรณ์ กล่าวย้ำ
‘ปชป.-ชพน.’ให้กำลังใจกกต.ใหม่
ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์ ให้กำลังใจกกต.ชุดใหม่ขอเอาใจช่วย อยากให้กำลังใจ กกต.ชุดใหม่ให้สร้างความมั่นใจ ยึดมั่นความเป็นกลาง ความเที่ยงธรรมในการเลือกตั้ง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศ เพราะถือว่าเป็นงานที่หนักมากที่ โดย กกต.ต้องเร่งปรับกฎระเบียบต่างๆตามกฎหมายใหม่ ดังนั้นกกต.จะมีเวลาจำกัดในช่วงก่อนเลือกตั้ง ส.ส.และการคัดเลือก ส.ว.
เช่นเดียวกับด้านนพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา(ชพน.)ได้แสดงความยินดีและคขอเป็นกำลังใจให้กกต ชุดใหม่ ได้ทำหน้าที่ให้เป็นไปตามคาถา หรือ บทบัญญัติที่ได้บอกไว้ว่า กกต.ต้องเป็นกลาง กล้าตัดสินใจ ไม่ถูกครอบงำเพราะการเลือกตั้งครั้งใหม่ต้นปี 62 มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประเทศชาติและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน พื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศ ขณะนี้มีความมั่นคงเพียงพอที่จะเติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน ขณะเดียวกัน ความมั่นใจที่มีต่อประเทศไทยของการลงทุนในขณะนี้ผูกไว้กับการเลือกตั้งที่เป็นสัญลักษณ์ของประชาธิปไตยรวมทั้งบรรยากาศทางการเมืองในประเทศ ดังนั้นการทำหน้าที่ของกกต.เพื่อให้เกิดการยอมรับผลของการเลือกตั้งทั้งในและนอกประเทศว่า เป็นการเลือกตั้ง ที่บริสุทธิ์ ถูกต้อง เป็นธรรม ได้คนดี คนเก่งเข้ามาบริหารประเทศ จึงเป็นปัจจัยที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งต่ออนาคตของบ้านเมืองซึ่งพรรคพร้อมให้ความร่วมมือในการทำงานกับกกต.อย่างเต็มที่ เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี