"มัลลิกา" จี้ "ปู" เปิดปากสารภาพโครงการ "รับจำนำข้าว"
วันอาทิตย์ ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2556, 13.15 น.
Tag :
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นางสาวมัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ถึงกรณีความเสียหายจากนโยบายจำนำข้าวของรัฐบาลว่า ธนาคารโลก ระบุว่าโครงการรับจำนำข้าวของไทย ได้กลายเป็นโครงการที่สิ้นเปลืองงบประมาณมากที่สุด คิดเป็นวงเงินสูงถึงราว 115,000 ถึง 150,000 ล้านบาทต่อ 1 ฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวซึ่งอาจมีมากถึง 3 ครั้งต่อปี หากเทขายราคาถูกตลาดข้าวจะปั่นป่วนไปทั่วโลก กลไกราคาพังพินาศ ทำให้ประเทศไทยสูญเสียงบประมาณแผ่นดิน รวมถึงทำให้การจัดเก็บรายได้ที่ไม่เข้าเป้าเนื่องจากส่งออกไม่ได้ ดังนั้นโครงการนี้ได้สร้างปัญหาอย่างรุนแรงกับประเทศไทย
นางสาวมัลลิกา กล่าวว่า จากข้อมูลนี้ประเทศไทยกลายเป็นที่จับตามองอย่างยิ่งเพราะจะเก็บข้าวไว้นานเกินอายุไม่ได้ ถ้าขายแพงกว่าราคาจำนำก็ไม่มีใครรับซื้อ จึงอาจเกรงว่าจะมีการเทขายซึ่งจะกลายเป็นว่าไปสร้างความปั่นป่วนต่อกลไกราคา วันนี้รัฐบาลจึงต้องเก็บงำข้อมูลทำอะไรไม่ได้นี่คือผลรับของนโยบายเอาแต่ได้แล้วพาประชาชนมาตายดาบหน้า หากรัฐบาลนี้มีอายุครบ 2 ปี เราต้องสูญเงินงบประมาณภาษีของพี่น้องประชาชนประมาณ 450,000 ล้านบาทไปกับโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ด คือ 3.8 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพีของไทย ซึ่งนั่นเป็น 1 ใน 5 ของวงเงินงบประมาณแผ่นดิน 1 ปีเลยทีเดียว แต่ใช้เงินมหาศาลนี้เพื่อรองรับโครงการเดียวและประโยชน์ก็หมุนเวียนอยู่กับเกษตรกรเพียงกว่า 2 ล้านราย ที่เหลือจากนั้นหายไปกับค่าจัดการและการทุจริตคอรัปชั่น
ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี คือน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เลิกงอนนักข่าวที่ตั้งฉายาปูกรรเชียงจนไม่ยอมพูดไม่ยอมจาไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนจนเสียผลประโยชน์ในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารการตรวจสอบของประชาชน ขอให้นายกรัฐมนตรีเปิดใจแถลงสารภาพความจริงกรณีโครงการจำนำข้าวอย่างละเอียดว่าเหตุใดไม่ได้ขายแบบจีทูจีหรือรัฐต่อรัฐกับประเทศจีนอย่างที่เคยอ้าง แล้วถ้าไม่ได้ขายแบบจีทูจีเวลานี้รัฐบาลยิ่งลักษณ์เอาข้าวขายออกไปที่ใด ราคาเท่าใด ได้กำไรหรือขาดทุน เงินเหล่านั้นจะกลับคืนเข้าคลังมากกว่าหรือน้อยกว่างบประมาณที่ใช้ออกไปมหาศาลก่อนหน้านี้
"ต้องรีบพูด รีบสารภาพ เพราะการที่สส.ในสภาฯจับโกหกรัฐบาลได้แต่ที่สุดก็โหวตไว้วางใจผ่านมา ตอนนี้ประชาชนส่วนหนึ่งยังเชื่อรัฐบาลแต่เมื่อไม่มีที่ไปที่มาของเงินรายได้จากการขายก็เท่ากับว่าความจริงได้กระชากหน้ากากเอง จึงควรสารภาพก่อนที่ประชาชนจะลุกฮือ ถึงตอนนั้นต่อให้คุณยิ่งลักษณ์ทุ่มตัวเพื่อพี่ชายก็ไม่คุ้มเสียแล้ว รีบหาประเทศใหม่หนีไปกบดานอยู่ก็แล้วกัน" นางสาวมัลลิกา กล่าว