17 ก.ค.56 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ถึงกรณีการเสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรมฯ ของนางพะเยาว์ อัคฮาด มารดา น.ส.กมลเกด อัคฮาด (น้องเกด) ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์การชุมนุมเมื่อปี 2553 เมื่อวานนี้ (16 ก.ค.)ว่า ขณะนี้มีความพยายามจากหลายฝ่ายที่จะยื่นร่างกฎหมายนิรโทษกรรมฯ เช่น ร่างของ นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ร่างของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และล่าสุด คือร่างของ นางพะเยาว์ ซึ่งตนคิดว่า ในวันนี้พรรคประชาธิปัตย์เริ่มเห็นแสงสว่างและเป็นเหมือนทางออกและคำตอบให้กับประเทศแล้ว เพราะ "ร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมแก่ประชาชนซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองภายหลังการยึดอำนาจโดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549" หรือร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับประชาชน ที่ญาติเหยื่อผู้เสียชีวิตปี 2553 โดยมีนางพะเยาว์เป็นผู้ยื่นเรื่องเสนอต่อรัฐบาลนั้น ซึ่งเมื่อทางพรรคได้อ่านและพิจารณาแล้วนั้น ตนเห็นว่ามีความสอดคล้องกับแนวคิดของพรรคในหลายประการ เนื่องจากในร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ มีการแบ่งแยกผู้กระทำความผิดอย่างชัดเจน เช่น ผู้ที่ฝ่าฝืนตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และผู้ที่กระทำผิดลหุโทษ ให้ยกเว้นความผิด แต่ผู้ที่กระทำความผิดโดยมุ่งประทุษร้ายต่อบุคคลอื่นโดยการใช้อาวุธ บุคคลที่วางเพลิงเผาทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ลักทรัพย์อันเป็นของเอกชน มุ่งหมายต่อการกระทำผิดต่อทรัพย์และก่อภยันตรายต่อประชาชน ให้มีความผิดตามกฎหมายเหมือนกับเหตุการณ์ปกติ การกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐระดับปฏิบัติการที่มิได้ฝ่าฝืนคำสั่งการบังคับบัญชาหรือไม่ได้กระทำเกินกว่าเหตุ ให้พ้นผิด และผู้ที่สั่งการหรือผู้ปฏิบัติการที่ได้กระทำโดยไม่สมควรแก่เหตุ ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย ซึ่งทั้งหมดถือเป็นความต้องการที่ตรงกันกับพรรคประชาธิปัตย์ที่เคยมีการเสนอต่อสาธารณชนมาแล้ว
        
นายชวนนท์ แถลงต่อว่า ตนยืนยันว่า ในหลักการของร่างดังกล่าวที่มีการแบ่งแยกความผิดที่ชัดเจน ที่จะสามารถนิรโทษกรรมได้ การฝ่าฝืน พ.ร.ก. ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีอาญา คนที่มีพฤติกรรมหรือเหตุอันเชื่อได้ว่ามุ่งหมายต่อชีวิตโดยการใช้อาวุธนั้น ไม่ได้รับสิทธิ์ในการนิรโทษกรรม และเรื่องที่ไม่มีการนิรโทษของผู้ที่กระทำการวางเพลิงโดยประสงค์ต่อทรัพย์สินนั้น ทางพรรคเห็นด้วย เพราะฉะนั้น ถ้ารัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทยยอมถอยโดยการถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ ทั้งหมดที่ยังค้างในสภาผู้แทนราษฎรในขณะนี้ออกไป แล้วเดินหน้าร่างกฎหมายนิรโทษของประชาชน ตนคิดว่ามีประเทศมีทางออก ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์สามารถหารือได้ โดยอาจจะมีประเด็นรายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องมีการระบุให้ชัดเจน เช่น ในร่างนี้จะมีการล้างผิดให้บุคคลที่ฝ่าฝืนประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือไม่ เพราะฉะนั้น ในประเด็นปลีกย่อยดังกล่าวสามารถคุยกันและสามารถเดินหน้าร่างนี้ได้ เพราะร่างดังกล่าวไม่นิรโทษให้กับคนที่กระทำผิดกฎหมายอาญา เผาบ้านเผาเมืองและประทุษร้ายต่อชีวิตและทรัพย์สินประชาชน แต่ล้างผิดให้คนที่กระทำผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพราะฉะนั้น พรรคประชาธิปัตย์ จะยืนอยู่เคียงข้างประชาชนที่ยื่นเสนอร่างดังกล่าว ซึ่งตนอยากให้มีการตกลงกันก่อน แล้วเดินไปบอกรัฐบาลว่าควรถอนร่างปรองดองออกไปให้หมด แล้วมาร่วมพิจารณาร่างกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับนี้ เพื่อประเทศเดินหน้าไปสู่ความปรองดองและสงบสันติต่อไป ซึ่งตรงนี้ ถือว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้ยื่นข้อเสนอต่อประชาชนผู้ยื่นร่างกฎหมายดังกล่าวแล้ว ซึ่งตนหวังว่าทางประชาชนกลุ่มดังกล่าวจะมีคำตอบให้กับตนและประชาชนโดยเร็ว