13 ก.ย.56 “แนวหน้าออนไลน์” นำข้อเขียนของ พล.ต.ม.จ.จุลเจิม ยุคล หรือ พระนามลำลองว่า "ท่านใหม่" พระโอรส ลำดับพระองค์ที่ 4 ใน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊คส่วนตัวในเรื่องของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในมุมมองของราชสกุล และราชองครักษ์ เนื้อหาในตอนที่ 2 นี้ “ท่านใหม่” บรรยายถึงวิริยะ อุตสาหะ ที่พระองค์ท่านพระราชทานแก่พสกนิกร ไม่ว่าลูกๆ ของพระองค์จะอยู่ถิ่นแดนแคว้นไหน
พล.ต.ม.จ.จุลเจิม ระบุไว้ด้วยว่า พระองค์ทรงทำหน้าที่พระมหากษัตริย์เกินกว่าหน้าที่ที่ควรจะเป็น แม้กฎหมาย หรือสถานบันองค์กรต่างๆ จะพยายามยืนยันว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่มีรัฐบาลไหนบ้างที่พยายามทำหน้าที่ให้ดี ตามความรับผิดชอบที่ตนควรยึดถือ จนทำให้พสกนิกรของพระองค์ที่ ทุกข์ยาก ยากจนซ้ำซาก ยาวนาน จนถึงทุกวันนี้
“เมื่อครั้งเสด็จนิวัติพระนคร มีเสียงตะโกนจากประชาชนริมข้างทางเสด็จว่า“ในหลวงอย่าทิ้งประชาชน” เสมอๆ ซึ่งสมัยก่อน ขบวนรถจะขับด้วยความเร็วค่อนข้างมาก แต่ทำไมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯถึงทรง “เห็น” และ“ได้ยิน” เสียงของราษฎรสองข้างทาง เป็นเพราะพระองค์ทรงมองดู ทรงเฝ้าดู และทรงเห็น ราษฎรของพระองค์ ทรงเพ่งดูเห็นความไม่สบายกาย ไม่สบายใจของพสกนิกรของพระองค์ตลอดเวลา”
ข้อความที่พล.ต.ม.จ.จุลเจิมโพสต์ลงเฟซบุ๊ค
ในหลวง รักคนไทยอย่างไร 2
ขออนุญาต เพื่อนๆแฟนคลับ วันนี้เข้าร่วมกับบันทึก “ในหลวงรักคนไทยอย่างไร..” จากแฟนคลับสักนิดนะครับ... มีแฟนคลับท่านหนึ่ง (คุณซอยห้า ขวามือ) เล่าเรื่อง ในหลวงกับคุณย่า ครั้งในทอดกฐิน ในบันทึก ในหลวง รักคนไทยอย่างไร ตอนที่แล้ว
ทำให้ผม นึกถึงเรื่อง “ความรักและพระเมตตา” ของพระองค์ท่านกับพสกนิกรทั่วแผ่นดิน โดยเฉพาะคนที่คิดว่าตนเองเป็นคนธรรมดา หรือเป็นจุดเล็กๆ จุดหนึ่ง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯน่าจะมองไม่เห็น
คงจำกันได้ เรามักได้ยินและอ่านเรื่อง เมื่อครั้งเสด็จนิวัติพระนคร เรื่องเสียงตะโกนจากประชาชนริมข้างทางเสด็จว่า... “ในหลวงอย่าทิ้งประชาชน” เสมอ ๆ ....
ซึ่งในสมัยก่อน ขบวนรถจะขับด้วยความเร็วค่อนข้างมาก หลายคนคงจะนึกไม่ถึงว่า ระหว่างสองข้างทางที่เสด็จฯ แต่ทำไมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯถึงทรง “เห็น” และ“ได้ยิน” เสียงของราษฎรสองข้างทาง ผมอยากจะบอกว่า เพราะพระองค์ทรงมองดู ทรงเฝ้าดู และทรงเห็น ราษฎรของพระองค์ตลอดเส้นทาง ทรงเพ่งดูเห็นความไม่สบายกาย ไม่สบายใจของพสกนิกรของพระองค์ตลอดเวลา
พระองค์ทรงรักและห่วงใย พสกนิกรทั้งที่ทอดพระเนตรเห็นด้วยพระองค์เองและที่ได้รับทราบจากข้าราชการที่ทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง และนี่ไม่ใช่เรื่องที่ เสก (Make) ขึ้นดังที่ฝ่ายโจมตีสถาบันกล่าวอ้าง
ผมจำได้ว่ามีเรื่องเล่าจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง เล่าให้ผมฟังว่า พระองค์ได้รับการทูลเชิญเสด็จเยี่ยมประเทศจีน เมื่อ 30 กว่าปีก่อน ซึ่งครั้งนั้น ทั้งสองประเทศมีลัทธิการปกครองที่ต่างกัน ยังไม่ได้เจริญไมตรีทางการทูตต่อกันอย่างชัดเจน เช่นทุกวันนี้ พระองค์ทรงตอบรับด้วยน้ำใจอันดีของเขาว่า พระองค์ขอบใจและรับคำเชิญ แต่ขอให้พระองค์ได้เสด็จเยี่ยมเยียนราษฎรของพระองค์ ให้ทั่วถึงก่อน....
ภาพที่เราเห็นพระองค์เสด็จตระเวนทั่วแผ่นดินไทย ไปทั่วถึงแทบทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ยากจน แห้งแล้งทุรกันดาร แม้ในพื้นที่ๆมีความขัดแย้ง ที่ยิงกันตลอดเวลาในสมัยหนึ่ง(พื้นที่สีแดง) พระองค์ยังทรงเสด็จฯไปเยี่ยมราษฎรที่ยากจน ซึ่งเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและลำบากมาก สำหรับทหาร,ตำรวจ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ของบ้านเมือง ในการถวายการอารักขาและความปลอดภัย หน่วยงานในการรักษาความปลอดภัย ตลอดเจ้าหน้าที่บ้านเมืองทุกคนได้ทูลคัดค้านในการเสด็จพระราชดำเนิน ทั้งที่พระองค์ไม่ควรต้องลำบาก เพราะไม่มีหน้าที่รับผิดชอบใดๆ แต่พระองค์ทรงไม่ฟังคำขัดค้านของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง และได้เสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมเยียนราษฎรในพื้นที่อันตรายดังกล่าว
ผมอยากย้ำจุดนี้จริงๆ เพราะหลายคน รวมถึงนักวิชาการบางท่านมักชอบพูดว่า สถาบันไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่ในความเป็นจริงแล้วทุกคนในคณะรัฐบาลทุกยุคทุกสมัยไม่เคยทำหน้าที่ให้ดี ตามความรับผิดชอบที่ตนควรยึดถือ จนทำให้พสกนิกรของพระองค์ที่ ทุกข์ยาก ยากจนซ้ำซาก ยาวนาน จนถึงทุกวันนี้...และแม้ขณะที่ผมเขียนเรื่องนี้ก็ตาม...
จนผมอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าผมหรือพวกคุณๆทั้งหลายถูกกีดกันจนไม่มีหน้าที่อะไรต่อประชาชนผู้ยากไร้ และก็วางเฉยบ้างนั้น จะผิดไหม??? แต่เมื่อได้เห็นสิ่งที่ในหลวงปฏิบัติแล้ว ผมรู้สึกว่า ถ้าผมทำอย่างนี้ พวกเราก็คงเป็นพวกเห็นแก่ตัวอย่างมาก
คนไทยก็รู้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงทำหน้าที่พระมหากษัตริย์ เกินกว่าหน้าที่ที่ทรงเป็นไปหลายร้อยเท่า
ขณะที่ผู้มีหน้าที่ในบ้านเมืองในปัจจุบัน แค่ปกป้องพระเกียรติยศ ให้ปลอดจากการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ยังทำหน้าที่อ่อนหัด ไปหลายร้อยเท่า..อย่างน่าสลดใจ
ในฐานะเป็นนายทหารรักษาพระองค์ การถวายความปลอดภัยในพื้นที่ขัดแย้งทางการเมืองเมื่อ 50 ปี ก่อนเป็นเรื่องใหญ่มาก แต่เราทุกคนก็รู้ว่า วันเวลาพิสูจน์แล้วว่า ทหารอย่างผมคิดผิด พระองค์ทรงสามารถเหยียบย่ำบนพื้นแผ่นดินไทยได้ทุกหนแห่ง จนผมอยากใช้คำว่า ทุกตารางนิ้ว
อาวุธ ในพระหัตถ์ (มือ) ของพระองค์ คือ แผนที่ ดินสอ และกล้องถ่ายรูป
อย่างที่คุณ Ta pinky กล่าวครับ ภาพนี้ประทับใจคนไทยมาก
เราแทบจะไม่ค่อยได้เห็น ภาพของพระองค์เสด็จไปสังสรรค์ เลี้ยงเฮฮา สนุกสนาน ถ่ายรูปกุ๊กกิ๊ก จนหลายคนโจมตีท่านว่า ไม่เคยยิ้ม แต่ผมยืนยันในฐานะราชองค์รักษ์ พระองค์ก็ทรงเป็นมนุษย์ปุถุชนทรงมีทุกข์มีสุข มีดีใจ มีเสียใจ เช่นเราทุกคน
นอกจากนี้ เราจะเห็นพระองค์ท่าน มีวิทยุสื่อสารติดพระวรกาย ตลอดเวลา พระองค์ท่านจะฟังวิทยุสื่อสารอย่างสม่ำเสมอ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์จัดตั้งขึ้นมา เพราะความทุกข์ยากของราษฎรของพระองค์ เมื่อครั้ง มหาวาตภัย แหลมตะลุมพุก ครั้งนั้นเหมือนความเสียหายที่เกิดขึ้น คงเปรียบได้กับ “สึนามิ” มันเป็นทุกข์ของแผ่นดิน และเป็นทุกข์ของพระองค์ท่านที่สาหัสนัก
ดังนั้น พวกเราจะเห็นว่า ทุกครั้งที่บ้านเมืองมีทุกข์ภัย เช่นนี้ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ จะเข้าถึงพื้นที่เหล่านั้นทันที เสมอๆ
ถนนเชิงสะพานพระปิ่นเกล้าฯ ก็เกิดด้วยพระองค์เห็นความทุกข์ของราษฎร เรื่องการจราจร และจราจรในโครงการพระราชดำริ ก็เกิดขึ้นเพราะความทุกข์ของราษฎร
การออกเสด็จในยามค่ำคืน ก็เป็นเพราะไม่อยากให้ประชาชนต้องเดือดร้อนจากการปิดกั้นถนน เพื่อถวายอารักขา เว้นในพระราชกรณียกิจตามราชประเพณี หรือในกิจการของประเทศ
ผมมั่นใจ ว่าพระองค์เห็นพวกเราตลอดเวลา ไม่ว่าเราจะตัวเล็ก หรือยืนอยู่ในมุมมืดมิด ห่างไกลแค่ไหนก็ตาม แม้พระองค์จะไม่มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบทางการเมืองและการบริหารประเทศใด ๆ แต่พระองค์ก็ไม่เคยละทิ้งพสกนิกรของพระองค์ท่านเลย ด้วยความรักที่ในหลวงมีต่อคนไทย
แต่บ้านเมืองวันนี้มันช่างว้าเหว่สิ้นดี หมดหวัง ผมก็ต้องขอพวกเราช่วยกันเล่าความประทับใจแบบนี้ ที่ถูกกลุ่มคน และนักวิชาการบางคนมุ่งร้าย ไม่จงรักภักดีไม่รักพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โจมตีว่าเป็นเรื่องของการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ของสถาบันและคนรักสถาบันอย่างพวกเราๆ
ผมก็ไม่เห็นมีอะไร ดีไปกว่าช่วยกันเล่าขานกัน ปากต่อปาก บ้านต่อบ้าน เล่าสู่กันทุกวัน เล่ากันทุกที่ เล่ากันให้ทั่วแผ่นดินไทย เพื่อให้พวกเราและลูกหลาน เหลน โหลนทั้งหลายรู้ว่า พระองค์ท่าน รักคนไทย และไม่ทิ้งคนไทยอย่างไร...
และวันนี้...ลูกหลานคนไทย จะรักท่าน และออกมาต่อสู้คืนความยุติธรรมให้กับพระองค์ท่านอย่างไรบ้าง...
อ่านข่าว ในหลวงรักคนไทยอย่างไร...??? ความรักและเมตตาของพระราชา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี