วันเสาร์ ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / สกู๊ปพิเศษ
ย้อนรอย “วันสงกรานต์”  จาก “อินเดีย” ถึง “อาเซียน”

ย้อนรอย “วันสงกรานต์” จาก “อินเดีย” ถึง “อาเซียน”

วันศุกร์ ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2557, 02.00 น.
Tag :
  •  

             กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันที เมื่อประเทศสิงคโปร์ เพื่อนบ้านอาเซียนของเราประกาศจะจัดงานเล่นน้ำสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 12-13 เม.ย. 2557 ที่จะถึงนี้ หลังจากที่มีข่าวปรากฏ ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง มุมหนึ่งมองว่าสิงคโปร์กำลังลอกเลียนแบบประเพณีไทยเพื่อหวังแย่งตลาดการท่องเที่ยวจากบ้านเรา ขณะที่อีกมุมหนึ่งก็มีผู้มองว่าอันที่จริงแล้ว วัฒนธรรมเป็นสิ่งที่เคลื่อนย้ายไปมาได้เป็นปกติ

            อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเกาะกระแสดังกล่าว และเพื่อต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึงในอีกไม่นานนี้ “สกู๊ปหน้า 5” ขอนำเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับเทศกาลที่ติดอันดับโลก และนักท่องเที่ยวนานาชาติต่างบอกเล่ากันปากต่อปากว่าต้องมาร่วมสนุกให้ได้สักครั้งในชีวิต มาให้ทุกท่านได้ทราบกัน

สงกรานต์มาจากอินเดีย?


           เชื่อหรือไม่? ต้นกำเนิดประเพณีสาดน้ำที่สนุกสุดเหวี่ยงของชนชาวไทยและเพื่อนบ้านรอบข้าง (พม่า ลาวและกัมพูชา) อาจเดินทางมาไกลจากชมพูทวีปหรือประเทศอินเดีย โดย  ดร.ประภัสสร์ ชูวิเชียร อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ศิลปะ มหาวิทยาลัยศิลปากร เขียนบทความชื่อ “เถลิงศกสงกรานต์เป็นปีใหม่แขก แต่แทรกด้วยพิธีกรรมดึกดำบรรพ์ในสุวรรณภูมิ” ลงในเว็บไซต์ sujitwongthes.com (13 เม.ย. 2555)

           ระบุว่า สงกรานต์เป็นภาษาสันสกฤต แปลว่า “ก้าวย่าง” ในวัฒนธรรมอินเดียหมายถึงการเปลี่ยนผ่านเวลาในรอบปีจากราศีหนึ่งสู่อีกราศีหนึ่ง และในจำนวนนี้ การเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ปีใหม่จะใช้คำว่า “มหาสงกรานต์” ซึ่งหมายถึงการเปลี่ยนผ่านจากราศีมีนเข้าสู่ราศีเมษ อันตรงกับเดือนห้า หรือราวเดือนเมษายนของทุกปี

             อ.ประภัสสร์ กล่าวว่า หลักฐานจากบันทึกของคณะทูตจีนที่มาเยือนกัมพูชาในปี พ.ศ.1839 พบว่าชาวเขมรในขณะนั้นยังคงนับวันสิ้นปีในเดือนสิบสอง หรือราวเดือนพฤศจิกายนของทุกปี (ปัจจุบันเป็นวันลอยกระทง ซึ่งก็มีทั้งกัมพูชาและไทย) ส่วนหลักฐานเก่าแก่ที่พบว่าชาวไทยขึ้นปีใหม่ในเดือนห้าหรือเมษายนนั้น คือบันทึกของลาลูแบร์ ราชทูตฝรั่งเศสที่เข้ามายังกรุงศรีอยุธยาในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ ประมาณ พ.ศ.2230 โดยเมืองต่างๆ ในแถบนี้ ทั้งไทยและเขมร ผู้ปกครองนิยมรับวัฒนธรรมฮินดูของอินเดียมาใช้อยู่แล้ว เพราะมองว่าสูงส่งกว่าวัฒนธรรมท้องถิ่น

             อีกข้อหนึ่งที่อาจยืนยันได้ว่าประเพณีสงกรานต์มาจากแดนภารตะ ธีรภาพ โลหิตกุล นักเขียนสารคดีเจ้าของรางวัลศรีบูรพา ปี 2556 เขียนบทความเรื่อง “ทำไมอินเดียสาดสี-อุษาคเนย์สาดน้ำ” ลงในเว็บไซต์คมชัดลึก (8 เม.ย.2555) บรรยายว่า ทุกๆ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 หรือราวเดือนมีนาคมของทุกปี จะมี “เทศกาลโฮลิ” (Holi Festival) ที่ชาวอินเดียซึ่งส่วนใหญ่นับถือศาสนาฮินดูจะนำสีมาสาดใส่กัน เพราะเชื่อว่าเป็นการปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกจากร่างกาย  และเมื่อประเพณีดังกล่าวมาถึงดินแดนสุวรรณภูมิอันมีอากาศร้อนอบอ้าว จึงเปลี่ยนจากสาดสีเป็นสาดน้ำในที่สุด

เทศกาลปลดปล่อยความเครียด?

             ในทุกๆ ปีเมื่อเทศกาลสงกรานต์เวียนมาถึง ประเด็นถกเถียงที่มักจะเกิดขึ้นอยู่เสมอ คือพฤติกรรมสุดเหวี่ยงจนดูเหมือนหลุดโลกของผู้มาเล่นสาดน้ำทั้งชาวไทยและต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัวนุ่งน้อยห่มบางของสาวแท้และสาวเทียม การแต่งตัวแฟนซีประหลาดๆ เรียกเสียงหัวเราะและโห่ฮา รวมถึงการเต้นรำไปตามจังหวะเพลงที่เปิดด้วยเครื่องเสียงดังๆ มุมหนึ่งมองว่าเป็นการทำลายวัฒนธรรมอันดีงามของไทย เพราะสงกรานต์ในอดีตไม่ปรากฏภาพดังกล่าว มีแต่เพียงการประพรมน้ำกันพองามเท่านั้น

              แต่อีกด้านหนึ่ง นักวิชาการบางท่าน เช่น ดร.ฐิตารีย์ ไชยเศรษฐ หัวหน้าสาขาวิชาการท่องเที่ยว คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวในงาน “ยุเด็กไทย GO AC” จัดโดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (UTCC) เมื่อปลายปี 2556 ว่าประเพณีสงกรานต์สำหรับชาวบ้านสามัญชนทั่วไป นอกจากการทำบุญไหว้พระ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่แล้ว ในส่วนของการเล่นสาดน้ำ พบว่ามีขึ้นเพื่อเป็นการผ่อนคลายความเครียดที่สะสมมาทั้งปีจากกฏเกณฑ์ต่างๆ ของสังคม ซึ่งเป็นมานานแล้วไม่ใช่เฉพาะที่ไทยเท่านั้น แต่จัดกันทั่วไปแทบทั้งอาเซียนเลยทีเดียว

              “หลายท่านคิดว่าสงกรานต์ต้องเป็นวัฒนธรรมที่สวยงาม จริงๆ สงกรานต์พัฒนามาจากการสาดสีของอินเดีย แต่พอมาถึงอุษาคเนย์ ก็สาดน้ำแทนเพราะมันร้อน ไปที่พม่าไปที่เวียดนาม การสาดน้ำยิ่งสาดมากยิ่งขอฝนเยอะๆ และเป็นการปลดปล่อยกรอบประเพณี เช่นพระจะมาเล่นกับสีกา

              แต่คนในกรุงเทพเห็นแล้วกรี๊ด ทนไม่ได้ ตายแล้วเสียศีลธรรมอันดี ลืมไปว่าอุษาคเนย์ การเล่นสงกรานต์คือการปลดปล่อย การขบถเล็กๆ ต่อกรอบของสังคม อันนี้เป็นเรื่องจริงนะคะ เราจะมีความขบถเล็กๆ กับสงกรานต์ เราไม่ต้องไปกรี๊ดกร๊าดเพราะมันไม่ใช่ของเรา มันร่วมภูมิภาค” อ.ฐิตารีย์ กล่าว

              ที่น่าสนใจ กระทั่งเทศกาลที่เชื่อว่าน่าจะเป็นต้นแบบของสงกรานต์ อย่างเทศกาลสาดสีของอินเดียที่กล่าวไปข้างต้น ก็มีลักษณะเป็นการละเมิดจารีตของสังคมเล็กๆ น้อยๆ ได้ชั่วคราวตลอดช่วงเวลาที่กำหนดไว้เช่นกัน ดังบทความ “เทศกาลเล่นสี (Holi Festival)” จากเว็บไซต์ สมาคมพระนักศึกษา-นักศึกษาไทยมหาวิทยาลัยบาณารัสฮินดู (Banaras Hindu University , India) สถาบันอุดมศึกษาชั้นนำแห่งหนึ่งของอินเดีย ระบุว่า เทศกาลโฮลิของทุกปี ในสมัยพุทธกาลอาจถูกเรียกว่าเป็น “พาลนักษัตร” หมายถึงเทศกาลเล่นของคนพาลทั้งหลาย

             โดยช่วงเวลาตั้งแต่ตอนเช้าจนถึงบ่ายแก่ๆ จะเป็นช่วงเวลาแห่งการปล่อยผี ปล่อยความชั่วร้าย บนถนนจะเต็มไปด้วยรถจักรยานยนต์ที่วัยรุ่นอินเดียขับออกมาเล่นสาดสีกัน และบรรดาเด็กหนุ่มๆ ก็จะดื่มเครื่องดื่มมึนเมา (แอลกอฮอล์) กันอย่างเต็มที่ จึงมักมีคำเตือนว่าสุภาพสตรีไม่ควรเดินทางออกนอกบ้านในช่วงเวลานี้ การเล่นสาดสีจะดำเนินไปจนถึงเวลาประมาณ 4-5 โมงเย็น จากนั้นทุกอย่างก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ฟิลิปปินส์ก็มีเหมือนกัน

             ไม่เพียงประเทศที่ตั้งอยู่บนผืนแผ่นดินใหญ่และมีวัฒนธรรมคล้ายกันทั้งไทย พม่า ลาวและกัมพูชา ต่างมีประเพณีสงกรานต์รวมทั้งการเล่นสาดน้ำ แต่ประเทศที่เป็นเกาะมิได้เชื่อมต่อกับใครเลยอย่างฟิลิปปินส์ กลับมีการเล่นสาดน้ำกับเขาด้วยในช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปี โดยบทความ “เทศกาลหมูหันในฟิลิปปินส์” ของเว็บไซต์ สถานอารยธรรมศึกษาโขง-สาละวิน มหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวว่า ชาวฟิลิปปินส์จะจัดงานเฉลิมฉลอง “นักบุญจอห์น เดอะ แบ๊ปติสท์” (John the Baptist) ในเมบาลายัน ห่างออกไปทางใต้กรุงมะนิลาประมาณ 108 กิโลเมตร

             ชาวบ้านหลายร้อยในเมืองนี้จะร่วมกันทำหมูหัน ด้วยการนำหมูไปย่างจนกว่าหนังหมูจะเป็นสีเหลืองทอง เมื่อหมูย่างได้ที่แล้วชาวบ้านจะนำหมูย่างบางส่วนไปแต่งตัวและแห่ไปตามถนน ระหว่างทางจะมีการเล่นสาดน้ำไปด้วย เพราะชาวฟิลิปปินส์ที่ส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เชื่อว่าน้ำที่สาดกันคือพรจากพระเจ้า นอกจากนี้หมูหันยังถือเป็นอาหารที่สร้างความสุขและความความสามัคคีให้กับคนในชุมชนอีกด้วย

             จากข้อมูลทั้งหมดที่เรารวบรวมมานี้ หวังว่าทุกท่านคงได้รับสาระประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องย้ำกันทุกปี คือเรื่องของ “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์” อันเป็นสาเหตุหลักของความสูญเสีย ทั้งจากอุบัติเหตุบนท้องถนนและการทะเลาะวิวาทเนื่องจากเมาแล้วขาดสติ ซึ่งปีที่แล้ว ช่วง “7 วันอันตราย” ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย.2556 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ระบุว่ามีผู้เสียชีวิต 321 ศพ และบาดเจ็บ 3,040 ราย

             “ดื่มไม่ขับ-ขับไม่ซิ่ง” ยังคงเป็นคำเตือนที่ใช้ได้ และต้องย้ำกันเสมอ เมื่อฤดูแห่งเทศกาลมาถึง

SCOOP@NAEWNA.COM

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

ตบปาก'นศ.กัมพูชา' ถ้าผู้นำมีวิสัยทัศน์สามารถ'ซื้อ'กริพเพน'ได้เลย 'กองทัพบก ทันกระแส' บอกถ้าเขาขายนะ

ญาติ-แฟนเพลงเศร้า! รับศพ 'สาธิต ทองจันทร์' หมอลำชื่อดัง ภรรยาเผยสาเหตุเสียชีวิต 

ฝนถล่มก็ไม่หวั่น!‘คานาฟ-ซู หนิงเหยา’จ่อแชมป์ศึกสวิงเยาวชน‘ไทยแลนด์ จูเนียร์ แชมเปี้ยนชิพ 2025’

คนงานถูกไฟดูดหมดสติ เพื่อนทำตามความเชื่อโบราณ กลบทรายบนสังกะสี รอดตายปาฏิหาริย์

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved