“เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า ทีมดังแห่งลา ลีกา สเปน เปิดตัว ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ดาวเตะค่าตัวแพงที่สุดอันดับ 2 ของโลก ที่เพิ่งย้ายมาจาก “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ด้วยราคารวม 142 ล้านปอนด์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
โดยจะเริ่มด้วยการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ และมาแนะนำตัวกับบอร์ดบริหารที่ทางการ โรม่า เลานจ์ จากนั้น คูตินโญ่ เปิดตัวกับแฟนฟุตบอลที่สนามคัมป์นู ก่อนจะแถลงข่าวกับสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการ
“ฝันของผมเป็นจริงแล้ว” คูตินโญ่ กล่าว “ผมหวังมาตลอดที่จะมาเล่นที่คัมป์นู ผมจะได้เล่นเคียงข้างกับไอดอลของผมอย่าง ลีโอเนล เมสซี่ และ หลุยส์ ซัวเรซ พร้อมกับได้เล่นเคียงข้างกับผู้เล่นระดับพระกาฬมากมายทั้ง อันเดรียส อิเนียสต้า, เซร์คิโอ บุสเกตส์ ผมหวังว่าจะได้รับการต้อนรับที่ดีจากแฟนฟุตบอล และคว้าถ้วยรางวัลให้กับสโมสรแห่งนี้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”
สำหรับ คูตินโญ่ กลายเป็นนักเตะที่แพงที่สุดอันดับ 2 ของโลกตลอดกาล ในราคาเงินสด 106 ล้านปอนด์ บวกกับแอด-ออนส์ อีก 26 ล้านปอนด์ กลายเป็นนักเตะที่แพงที่สุดของสโมสรบาร์เซโลน่า อีกด้วย โดยท็อป 5 นักเตะที่แพงที่สุดประกอบด้วย 1.เนย์มาร์ จูเนียร์(ปารีส-แซงต์ แชร์กแมง) 200 ล้านปอนด์, 2.คูตินโญ่(บาร์เซโลน่า) 106 ล้านปอนด์, 3.อุสมาน เดมเบเล่(บาร์เซโลน่า) 97 ล้านปอนด์, 4.ปอล ป๊อกบา(แมนฯยูไนเต็ด) 89 ล้านปอนด์ และ 5.แกเร็ธ เบล(เรอัล มาดริด) 83 ล้านปอนด์
ขณะที่ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ต้นสังกัดเดิมของ คูตินโญ่ เร่งหานักเตะใหม่เข้ามาเสริมทัพอุตลุด หลังจากเสียจอมทัพคนสำคัญไปในครั้งนี้ โดยมีเป้าหมายตามคาดการณ์ของสื่อมวลชนในอังกฤษ รวมทั้งหมด 5 คน ซึ่งตอนนี้ ริยาร์ด มาห์เรซ ของเลสเตอร์ มีโอกาสเป็นไปได้มากที่สุดที่จะปิดดีลด้วยค่าตัว 65 ล้านปอนด์ ตามมาด้วย โตมาส์ เลอมาส์ ของโมนาโก รวมไปถึงกรณีที่จะเพิ่มเงินเพื่อไปดึง นาบี เกอิต้า กองกลางของอาร์เบ ไลป์ซิก ที่ซื้อไว้ล่วงหน้า โดยกำหนดเดิมจะมาในวันที่ 1 กรกฎาคม
ทางด้าน “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล แชมป์สูงสุด 13 สมัย และแชมป์เก่าฟุตบอลเอฟเอ คัพ พลาดท่ากระเด็นตกรอบ 3 หรือรอบแรกที่ทีมจากพรีเมียร์ลีก และเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ลงแข่งขัน ไปเป็นที่เรียบร้อย หลังจากบุกไปแพ้ให้กับ “เจ้าป่า” น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่สนามซิตี้ กราวนด์ ยับเยิน 2-4
การพ่ายแพ้ครั้งนี้ทำให้ อาร์เซนอล ตกรอบ 3 ครั้งแรกในรอบ 21 ปี หรือนับตั้งแต่ซีซั่น 1996 เป็นต้นมา พร้อมกับเป็นครั้งแรกของ อาร์แซน
เวนเกอร์ ที่คุมทีมตกรอบ 3 ตั้งแต่เข้ามาคุมทีม และกลายเป็นทีมที่ 4 ของพรีเมียร์ลีกต่อจาก เอฟเวอร์ตัน, สโต๊ค และเบิร์นลี่ย์ ที่ตกรอบ 3 ในปีนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี