“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เดินหน้าล่าแชมป์พรีเมียร์ลีก ครั้งแรกของสโมสรในรอบ 24 ปี สตีเว่น เจอร์ราร์ด นำทัพ ขณะที่แผงกลางเตรียมส่ง โจ อัลเลน ลงเล่นแทน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ติดแบน
ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 20 เมษายนนี้ มีการดวลแข้งทั้งหมด 3 คู่ โดยคู่แรกเวลา 18.00 น.”หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่มีลุ้นแชมป์เต็มสูบ โดยมีเงื่อนไขที่ว่าหากชนะหมดอีก 4 เกมที่เหลือจะเป็นแชมป์ทันทีโดยไม่สนใจผลการแข่งขันของเกมอื่น จะบุกไปเยือนถิ่นแคร์โรว โร้ด ของ “นกขมิ้นเหลืองอ่อน” นอริช ซิตี้ ที่กำลังหนีตาย
นัดนี้ “หงส์แดง” ที่ชนะมา 10 เกมรวด ต้องทดสอบความฟิตของ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ หัวหอกจอมแดนซ์ที่เจ็บจากนัดพิชิต แมนฯซิตี้ 3-2 หากลงไม่ได้ วิคเตอร์ โมเซส น่าจะได้สตาร์ทตัวจริง ขณะที่แดนกลาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน มิดฟิลด์ไดนาโมของทีมที่ติดแบนเกมแรกจาก 3 นัด ทำให้ โจ อัลเลน น่าจะได้สตาร์ทตัวจริง โดยมี ลูคัส เลว่า รอเสียบ ที่เหลือพร้อมลุยนำโดย สตีเว่น เจอร์ราร์ด, หลุยส์ ซัวเรซ และราฮีม สเตอร์ลิ่ง ที่กำลังเข้าฟอร์ม
เจ้าถิ่นเกมนี้จะได้ เซบาสเตียน บาสซง ปราการหลังกัปตันทีมที่หายเจ็บพร้อมกลับมาคุมเกมรับ หลังจากเดี้ยงในเกมกับ ฟูแล่ม เมื่อนัดที่แล้ว ซึ่ง นีล อดัมส์ กุนซือคนใหม่ จะปรับทัพใหม่ถึง 6 ตำแหน่งจากนัดที่แล้วเพื่อกู้วิกฤติทีม ที่ลงเตะ 34 นัด มีแค่ 32 คะแนนเท่านั้น โดยเน้นแผงกลางถึง 5 คนมี จอนนี่ ฮาวสัน, โรเบิร์ต สน็อดกราสส์ ส่วนหน้าเป้าคือ แกรี่ ฮูเปอร์
สำหรับสถิติคู่นี้ ลิเวอร์พูล เหนือกว่าด้วยการชนะ 32 เสมอ 13 นอริช ชนะ 14 โดยที่ “หงส์แดง” ชนะ 8 จาก 9 นัดที่เจอกัน โดยแพ้หนสุดท่ายต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 1994 หรือเมื่อ 20 ปีที่แล้ว
จากนั้นเวลา 20.05 น.”ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ที่ลุ้นไปแชมเปี้ยนส์ลีก จะบุกไปเยือน “เสือน้อย” ฮัลล์ ซิตี้ ที่เคซี สเตเดี้ยม ซึ่งเป็นเหมือนเกมชิมลางก่อนที่ทั้งสองทีมจะดวลกันในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ในเดือนหน้า
เกมนี้ อาร์เซนอล ส่ง แอร่อน แรมซี่ย์ เดินเกมแดนกลางร่วมกับ ซานติ กาซอร์ล่า และมิเกล อาร์เตต้า ส่วนหน้าเป็นยังเป็น โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ขณะที่แนวรับ โลรองต์ กอสซิแอลนี่ ประสานพลังกับ แพร์ แมร์เตซัคเกอร์
ทางฝั่งเจ้าบ้านไม่มี พอล แม็คเชน, ร็อบบี้ เบรดี้ และอัลลัน แม็คเกรเกอร์ ที่บาดเจ็บอยู่ทั้งหมด โดยเกมรุกได้ เชน ลอง กับ นิกิซ่า เยลาวิซ ที่ติดคัพไทในเกมเอฟเอ คัพ กลับมายืนเป็นหัวหอก ส่วนตัวหลักพร้อมลงเล่นทั้ง ทอม ฮัดเดิ้ลสตัน, เจ๊ค ลิเวอร์มอร์ และเคอร์ติส เดวิส
ปิดท้ายที่คู่เวลา 22.10 น.”ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ที่ลุ้นไปแชมเปี้ยนส์ลีก เตะ 34 นัด มี 66 แต้ม ทำศึกกับ “ปีศาจแดง”แมนฯยูไนเต็ด ที่มี 57 แต้ม จาก 33 นัด
เกมนี้เจ้าบ้านที่เพิ่งเสียฟอร์มพ่ายคารังต่อ คริสตัล พาเลซ 2-3 จะต้องลุ้นอาการบาดเจ็บของ ฟิล ยากิลก้า หากลงไม่ได้ จอห์น สโตน กับ ซิลแว็ง ดิสแด็ง จะได้เล่นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟต่อไปอีกนัด แต่แผงกลาง เจมส์ แม็คคาร์ธี่ย์ หายเจ็บกลับมาพร้อมลงเล่นอีกครั้ง โดยจะเดินเกมกับ รอสส์ บาร์คเลย์, เควิน มิรัลลาส และสตีเว่น เนย์สมิธ โดยมี โรเมลู ลูคาคู ยืนหน้าเป้า
ขณะที่ “ผีแดง” ที่ต้องการคะแนนเพื่อไปยุโรป เกมนี้ เดวิด มอยส์ กุนซือจะได้เยือนถิ่นเก่าที่เขาเคยอยู่คุมทีมมานานถึง 11 ปี รวมไปถึง เวย์น รูนี่ย์ และมารูยาน เฟลไลนี่ ที่จะมาเยือนถิ่นเก่า แต่ทีมไม่มี โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กับ ราฟาเอล ดา ซิลวา ที่บาดเจ็บอยู่ทั้งคู่
สำหรับคู่นี้ เอฟเวอร์ตัน เป็นรองเยอะมาก ชนะแค่ 2 จาก 18 เกมลีกหลังสุด ในการเฝ้ารังเจอผีแดง แต่ถ้าพวกเขาชนะได้ จะเป็นการชนะแมนฯยูไนเต็ดทั้งไปและกลับ ครั้งแรกในรอบ 44 ปีเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม แมนฯยูไนเต็ด มีสถิติในการเล่นนอกบ้านดีมาก ไม่แพ้ใครมา 5 เกมรวดและชนะได้ถึง 4 เกม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี