วันเสาร์ ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
“เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถกู้ภัยมีเวลาเพียงแค่ 4 นาทีก่อนที่ตำรวจจะเข้ามาที่จุดเกิดเหตุ ฉะนั้นนี่คือเวลาของนักกู้ภัยทุกคนที่จะต้องให้ความช่วยเหลือกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ” ประโยคนี้ถูกกล่าวขึ้นในซีรี่ส์เรื่อง Bangkok Breaking โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับวันชัย นำแสดงโดย เวียร์-ศุกลวัฒน์ ชายหนุ่มที่เข้ามาในกรุงเทพฯ เพื่อช่วยพี่ชายทำงานหาเงินจุนเจือครอบครัว แต่แล้วพี่ชายก็ประสบกับอุบัติเหตุเสียชีวิตก่อนที่จะได้พบกัน ทำให้เขาต้องมารับหน้าที่เป็นอาสาสมัครกู้ภัยอยู่ในมูลนิธิแห่งหนึ่งแทนพี่ชาย เขาพยายามที่จะสืบหาความจริงเกี่ยวกับการตายของพี่ชายรวมถึงความไม่ชอบมาพากลที่เกิดขึ้นภายในมูลนิธิ โดยวันนี้ผู้เขียนจะมุ่งประเด็นไปยังเรื่องปัญหาความไม่โปร่งใสภายในองค์กรที่ขึ้นชื่อว่า “มูลนิธิอาสาสมัครกู้ภัย”
“มูลนิธิ” ตามมาตรา 110 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หมายถึง ทรัพย์สินที่จัดสรรไว้โดยเฉพาะสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการกุศลสาธารณะ การศาสนา ศิลปะ วิทยาศาสตร์ วรรณคดี การศึกษา หรือเพื่อสาธารณประโยชน์อย่างอื่น โดยมิได้มุ่งหาประโยชน์มาแบ่งปันกันและได้จดทะเบียนตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้และการจัดการทรัพย์สินของมูลนิธิ ต้องมิใช่เป็นการหาผลประโยชน์เพื่อบุคคลใด นอกจากเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธินั้นเอง (กรมสรรพากร, 2564)
จากนิยามดังกล่าวเราคงเข้าใจในเบื้องต้นว่าเงินบริจาคที่เราเต็มใจให้มูลนิธินั้น ก็คงได้รับการจัดสรรไปกับเรื่องที่เกี่ยวกับการกู้ภัย เช่น อุปกรณ์สำหรับการกู้ภัย พาหนะของมูลนิธิ อุปกรณ์พยาบาลเบื้องต้น การส่งเสริมทักษะของอาสาสมัครกู้ภัย เป็นต้น แต่เราเคยสงสัยหรือไม่ว่าเงินบริจาคที่เราให้ไปนั้น ทางมูลนิธิได้นำเงินเหล่านั้นไปทำอะไรบ้าง ได้ทำตามจุดประสงค์ หรือมีนัยแอบแฝงสำหรับเรื่องส่วนตัวหรือไม่ ประเด็นดังกล่าวถูกตั้งคำถามอยู่ในซีรี่ส์เรื่องนี้ เมื่อมูลนิธิที่วันชัยทำงานด้วยเริ่มมีชื่อเสียง และได้รับเงินบริจาคมากขึ้น แต่มีสมาชิกอาสาสมัครคนหนึ่งกลับเริ่มพูดขึ้นมาว่า “ในที่สุดก็มีเงินซื้อเสื้อใหม่แล้ว” จากนั้นหัวหน้าที่ดูแลมูลนิธิก็ติงอย่างแรงว่าเอาเงินไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเพื่อตนเองไม่ได้ ต้องคำนึงถึงจุดประสงค์ของเงินบริจาคที่ได้มา ไม่ใช่นึกถึงแต่เรื่องส่วนตัว
จากเหตุการณ์ข้างต้น สะท้อนให้เห็นถึงมุมมองของการใช้ผลประโยชน์จากทุนที่ได้รับอย่างผิดจุดประสงค์ ซึ่งมีความพยายามนำไปใช้ในเรื่องส่วนตัว ขัดต่อจุดประสงค์ของการได้มาซึ่งเงินบริจาค ถึงแม้การกระทำดังกล่าวอาจไม่เกิดขึ้นก็ตาม แต่ก็เกิดความขัดแย้งกันด้วยคำว่าอาสาสมัครกู้ภัยเคยมีเงินพอใช้ทำอะไรให้ตัวเองบ้าง หากมาจำแนกเงินเดือนที่ได้รับ คนเหล่านี้จะมีรายได้ผ่านเงินสนับสนุนประจำเดือนจากกรรมการมูลนิธิ ซึ่งส่วนใหญ่มีธุรกิจส่วนตัว สามารถให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าพวกเขาสมควรได้รับสวัสดิการและเงินเดือนที่เหมาะสมกับลักษณะงานที่อันตรายก็ตาม แต่ไม่ควรนำมาเป็นประเด็นข้ออ้างสร้างความชอบธรรมต่อการกระทำทุจริตดังกล่าวได้
นอกจากนี้ยังมีประเด็นของการนำทรัพย์สินของมูลนิธิไปใช้ในเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานอาสา ซึ่งเห็นผ่านหลายฉากในซีรี่ส์ เช่น การนำพาหนะไปใช้ส่วนตัวเพื่อเดินทางนอกเวลาทำงาน ดัดแปลงยานพาหนะของมูลนิธิเป็นสินทรัพย์ส่วนบุคคล การเบิกอุปกรณ์รักษาพยาบาลไปใช้ส่วนตัวและไม่มีความเกี่ยวข้องกับการกู้ภัย เป็นต้น กลายเป็นการทุจริตเชิงพฤติกรรมโดยรวมมูลนิธิ ที่หลายคนอาจมองข้ามไป เพราะไม่ได้ดูเป็นรูปธรรมเหมือนการทุจริตทางการเงิน แต่เป็นประเด็นที่สำคัญอย่างมาก หากเราจะเริ่มจับตาการทุจริตภายในองค์กรของตัวเอง หรือในซีรี่ส์ก็ตาม หากเรามองลึกลงไปเราเคยมีพฤติกรรมดังกล่าวในที่ทำงานบ้างหรือไม่
จากประเด็นดังกล่าว เราจะเห็นได้ว่ารูปแบบการคอร์รัปชั่นจะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน หากเกิดขึ้นภายในองค์กร ซึ่งคนจะมุ่งเน้นไปที่ประเด็นของเงิน อย่างการจัดการงบประมาณภายในองค์กร การรับเงินบริจาค อย่างไรก็ตามพฤติกรรมที่นำอุปกรณ์ไปใช้ผิดประเภท เพื่อประโยชน์ส่วนตนก็ถือเป็นรูปแบบพฤติกรรมอย่างหนึ่งที่เราจะได้เรียนรู้เป็นแบบอย่างว่าสิ่งนี้คือรูปแบบหนึ่งของการคอร์รัปชั่นที่เราควรจะเรียนรู้ไว้
หากย้อนกลับไปที่ปัญหาข้างต้น ผู้เขียนมีความเห็นว่ามีหนทางในการแก้ไขปัญหาดังนี้ 1. ส่งเสริมพฤติกรรมการตรวจสอบ และเปิดเผยข้อมูลการบริหารงบประมาณให้เป็นสาธารณะ 2. ส่งเสริมแนวปฏิบัติด้านธรรมาภิบาล และส่งเสริมองค์กรให้เป็นตัวอย่างที่ดีต่อสังคม 3. ส่งเสริมความรู้แก่สมาชิกในองค์กร และประชาชนให้มีความเข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบพฤติกรรมที่เข้าข่ายการกระทำคอร์รัปชั่น ซึ่งหน่วยงานภาคประชาชนคอยส่งเสริมประเด็นธรรมาภิบาลในองค์กรไม่แสวงหากำไร อย่างมูลนิธินโยบายสาธารณะเพื่อสังคม และธรรมาภิบาล ที่สร้างความร่วมมือและแนวปฏิบัติของคณะกรรมการและผู้บริหารเป็นสำคัญ เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีในภาคประชาชน และสร้างแรงจูงใจเรื่องธรรมาภิบาลในส่วนอื่นๆ ของสังคมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น และเป็นสังคมที่โปร่งใส

‘กรมการแพทย์’ชู 3 เทคโนโลยีการรักษาฟื้นฟู‘กะโหลกเทียม แขนขาเทียมและตาปลอม’
ช็อกกันทั้งซอย กล้องหน้ารถจับภาพ ชายป่วยซึมเศร้าโดดตึก3ชั้นสาหัส
วางขายแล้ว! จาก‘ข้าวดอ’สู่‘ข้าวเม่า’ ขนมโบราณ ฝีมือชาวนาอำนาจเจริญ
ประเทศแรกในเอเชีย! ‘ฟีฟ่า’เลือก‘ไทย’ เจ้าภาพฟุตบอลหญิง รายการ FIFA Series 2026tm
‘สืบยโสธร’รวบเครือข่ายโจรกรรมรถ จยย.ข้ามชาติ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี