นางกมลวรรณ วิปุลากร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2559 นี้บริษัทเตรียมใช้งบลงทุน 1.7 พันล้านบาท โดยจะใช้ในการลงทุนโรงแรมระดับประหยัดหรือ Budget ภายใต้แบรนด์“HOPP INN” ในไทย 10 แห่ง รวมจำนวน 790 ห้องพักมูลค่าลงทุน 600-700 ล้านบาท และจะขยายโรงแรมHOPP INN ในฟิลิปปินส์อีก 1 แห่ง จำนวน 160 ห้อง มูลค่าลงทุน 150-200 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดให้บริการได้ในเดือนธันวาคม 2559 ส่วนงบที่เหลือจะใช้ในการปรับปรุงโรมแรมที่มีอยู่เดิม

โดยบริษัทคาดว่าในปี 2559 จะมีจำนวนโรงแรมเพิ่มขึ้นเป็น 44 แห่ง จากปี 2558 ที่มี 33 แห่ง และมีจำนวนห้องพักเพิ่มเป็น 6,634 ห้อง จากปี 2558 ที่มี5,684 ห้อง โดยตั้งเป้าภายในปี 2563 จะมีโรงแรมภายใต้แบรนด์ HOPP INN ในฟิลิปปินส์เพิ่มเป็น 16 แห่ง ซึ่งแผนดังกล่าวเป็นการขยายไปต่างประเทศครั้งแรกของบริษัท อีกทั้งบริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนธุรกิจโรงแรมในอินโดนีเซียด้วย แต่ยังไม่มีความชัดเจนในขณะนี้เนื่องจากมองว่าโอกาสการเติบโตยังไม่เท่ากับฟิลิปปินส์

นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ในปี 2559 แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากยังไม่ได้มีการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยการจัดตั้งกอง REIT บริษัทจะนำงินที่ได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์ไปจ่ายปันผล ชำระคืนหนี้ และเป็นเงินลงทุนในอนาคต

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2558คาดว่าจะเป็นไตรมาสที่ดีทีสุดของปี 2558 ทั้งในแง่ของรายได้และกำไรสุทธิ เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจท่องเที่ยว ประกอบกับสถานการณ์ต่างๆ ในประเทศกลับมาสู่ภาวะปกติ ทำให้ไม่มีปัจจัยที่น่ากังวล โดยจะเห็นได้จากอัตราการเข้าพักเฉลี่ย(OCC) ยังอยู่ในระดับที่พอใจ