นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม เปิดเผยผลประชุมโครงการท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา จังหวัดสตูล ว่า ในการประชุมดังกล่าวได้รับทราบข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและติดตามสถานะความคืบหน้าของโครงการโดยเฉพาะด้านผลกระทบด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (EIA) ก่อนมีมติสั่งการให้ กรมเจ้าท่า กลับไปจัดทำแผนการศึกษาใหม่ภายใน 6 เดือน โดยเฉพาะขั้นตอนการทำประชาพิจารณ์เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่
ด้านแหล่งข่าวจาก กรมเจ้าท่า กล่าวว่าทาง กระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้ชะลอโครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกปากบารา วงเงิน 29,000 ล้านบาท เนื่องจากยังไม่สามารถสรุปรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ (EHIA) ได้หลังจากที่มีการต่อต้านจากประชาชนในพื้นที่จนไม่สามารถเปิดเวทีรับฟังความเห็นขอบเขตและแนวทางประเมินผลกระทบทำให้ไม่สามารถเข้าสู่ขั้นตอนการสำรวจความคิดเห็นประชาชนและจัดทำรายงาน และการรับฟังความคิดเห็นและทบทวนรายงานได้
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม ยังมีแนวคิดปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินโครงการเพื่อสนับสนุนให้โครงการเดินหน้าได้รวดเร็วขึ้น และลดข้อพิพาทขัดแย้งกับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งจะเปลี่ยนจากรัฐบาลลงทุนเองทั้งหมดเป็นการเปิดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน (PPP) เนื่องจากเอกชนสามารถดำเนินโครงการพัฒนาและเสนอค่าตอบแทนให้กับประชาชนได้ดีกว่า
อย่างไรก็ตาม มองว่าเอกชนที่จะเข้ามาลงทุนในท่าเรือปากบารานั้นต้องเป็นกลุ่มทุนรายใหญ่ที่มีศักยภาพด้านแหล่งเงินทุนและมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาท่าเรือพร้อมกับยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนโดยรอบเพื่อสร้างให้เกิดการยอมรับในวงกว้างต่อไป ซึ่งหากประเทศไทยยังไม่สามารถพัฒนาท่าเรือน้ำลึกปากบาราดังกล่าวได้อาจส่งผลให้เสียศักยภาพการแข่งขันด้านโลจิสติกส์ทางน้ำให้กับประเทศมาเลเซียและยังมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการขนส่งทางน้ำจากประเทศมาเลเซียในอนาคตอีกด้วย
ส่วนความคืบหน้าโครงการก่อสร้างท่าเรือสำราญ วงเงินลงทุน 4,000 ล้านบาทบริเวณเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานีนั้น นายณัฐ จับใจ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการส่งเรื่องเข้าไปยัง กระทรวงคมนาคม เพื่อพิจารณาเห็นชอบโครงการแล้ว โดยโครงการดังกล่าวเพื่อส่งเสริมศักยภาพการท่องเที่ยวของประเทศและผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ของการท่องเที่ยวทางน้ำ
ด้านแหล่งข่าวจากกรมเจ้าท่าให้ข้อมูลว่า หลังจากนี้ทางกรมเจ้าท่าจะเดินหน้าศึกษาแนวทางการลงทุนโครงการท่าเรือสำราญ คาดว่าจะใช้รูปแบบความร่วมมือภาครัฐ-ภาคเอกชน (Public Private Partnership: PPP) ใช้เวลาศึกษาราว 7-8 เดือน เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะส่งผลศึกษารูปแบบลงทุนดังกล่าวไปยัง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ภายในปีนี้ก่อนเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเปิดประมูลต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี