คาดปีนี้รายได้ใกล้เคียงปีก่อนที่ 4.3 พันลบ. หลังฝนตกชุก ความต้องการใช้น้ำไม่โต ตั้งงบลงทุนปีนี้ 1 พันลบ. ใช้จัดหาน้ำดิบ เพิ่มมูลค่าน้ำดิบ และปรับปรุงประสิทธิภาพ พร้อมลงนามสัญญาบริการน้ำอุตสาหกรรมให้ GULF ใช้พื้นที่รฟฟ. EEC คาดส่งน้ำสูงสุด 6 หมื่น ลบ.มต่อวัน ตั้งเป้าปี 63 สัดส่วนงานน้ำอุตสาหกรรมเพิ่มเป็น 20% เตรียมเซ็นต์สัญญา AMATA เพิ่มปลายส.ค.-ก.ย.นี้
นายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง กรรมการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากร น้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EASTW เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทคาดว่ารายได้จะอยู่ในระดับใกล้เคียงปีก่อน 4,350 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณการขายน้ำดิบใกล้เคียงปีก่อน 250-260 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี เพราะปริมาณฝนตกค่อนข้างมาก ทำให้ผู้บริโภคตุนน้ำฝนไว้ใช้ ส่งผลให้บริษัทมีการจำหน่ายทั้งน้ำมันดิบและน้ำประปาน้อยลง แต่เชื่อว่าครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก ส่วนอัตรากำไรสุทธิคาดว่าอยู่ระดับใกล้เคียงปีก่อนที่ 28.03% โดยปัจจุบันสัดส่วนรายได้น้ำดิบ 70% และน้ำประปา 30%
ทั้งนี้บริษัทตั้งงบลงทุน 1,000 ล้านบาท ในการจัดหาน้ำดิบ และเพิ่มมูลค่าน้ำดิบ รวมถึงปรับปรุงพัฒนา โดยใช้กระแสเงินสดจากการดำเนินงานในปี 63 บริษัทตั้งเป้าจะมีสัดส่วนรายได้จากการขายน้ำอุตสาหกรรมถึง 20% หลังจากล่าสุดได้เริ่มต้นทำกิจบริหารจัดการน้ำอุตสาหกรรมครบวงจร โดยได้วางฐานรากสร้างระบบโครงข่ายท่อางน้ำดิบความยาวกว่า 500 กิโลเมตร ครอบคลุมแหล่งน้ำในพื้นที่เขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เพราะประเมินว่าจะมีความต้องการใช้น้ำอีกเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดเซ็นต์สัญญาส่งมอบบริการน้ำอุตสาหกรรมให้กับ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF โดยจะส่งมอบน้ำ 60,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เป็นระยะเวลา 25 ปี คิดเป็นมูลค่างานที่บริษัทได้รับ 6,000 ล้านบาทจะทยอยรับรู้ตลอดอายุสัญญา
โดยระบบผลิตน้ำแบบศูนย์รวมภายในพื้นที่ EEC ที่บริษัทวางระบบไว้มีกำลังการผลิตได้ถึง 100,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ทำให้บริษัทมีโอกาสรับงานลูกค้าอุตสาหกรรมรายอื่น โดยเตรียมเซ็นต์สัญญากับบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA ซึ่งจะให้บริการน้ำอุตสาหกรรมในนิคม อมตะซิตี้ ซึ่งคาดเซ็นต์สัญญา ปลายส.ค. หรือ ต้น ก.ย. นี้
ด้านนางพรทิพา ชินเวชกิจวานิชย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3 คาดว่าจะพลิกมีกำไรสุทธิดีกว่าช่วงไตรมาส 2 ที่มีผลขาดทุน 438 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลจากอัตราแลกเปลี่ยน เพราะเงินบาทอ่อนค่า 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ในไตรมาส 3 เงินบาทเริ่มแข็งค่ามาอยู่ที่ระดับ 31-32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนรายได้ยังเติบโตได้ดีต่อเนื่อง และมีกำไรจากการดำเนินงานระดับสูง หลังจากมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้มีแผนการลงทุนซื้อกิจการหรือร่วมลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้า ขณะนี้มีบริษัทโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศเขามาเจรจาวันละกว่า 10 ราย ซึ่งถือว่าสูงกว่าปกติ 2-3 เท่า คาดว่าเพราะ GULF เป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีความพร้อมด้านการลงทุน ส่วน บริษัท วินด์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด หรือ WEH ยอมรับว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่เจรจาอยู่ โดยบริษัทสนใจทั้งพลังงานความร้อนร่วม ถ่านหิน และพลังงานทดแทน รวมถึงสนใจการลงทุนในต่างประเทศ เช่น แถบ CLMV ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย
อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีกำลังการผลิตที่จำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์(COD) แล้ว ประมาณ4,000 เมกะวัตต์ ซึ่งขณะนี้มีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่อยู่ในแผนแล้วทั้งหมด 11,000 เมกะวัตต์ภายในปี 67
ล่าสุด บริษัทได้ลงทุนบริหารจัดการน้ำอุตสาหกรรม โดยได้จ้างบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากร น้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EASTW ระยะสัญญา 25 ปี เพื่อนำมาใช้ในโรงไฟฟ้า GPD ขนาดกำลังการผลิต 2,500 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ ระยอง 2 ซึ่งจะทำให้ต้นทุนด้านการบริหารจัดการน้ำลดลง 30%
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี