นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการพิจารณาปรับเป้ายอดขายในปี 2561 ใหม่ จากเดิมที่ตั้งไว้ 45,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 50,000 ล้านบาท เป็นผลจากการที่บริษัทมียอดขายในช่วง 9 เดือน ปี 2561 สูงถึง 41,500 ล้านบาท หรือคิดเป็น 92% จากเป้ายอดขายเดิม แบ่งเป็น ยอดขายคอนโดมิเนียม 26,000 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 13,000 ล้านบาท และทาวน์เฮ้าส์ 2,500 ล้านบาท

โดยความสำเร็จจากการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา ทำให้บริษัทเล็งเห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจที่ชัดเจน จากที่อยู่อาศัยโครงการต่างๆของบริษัทที่ลูกค้าให้การตอบรับที่ดี ทั้งทาวน์เฮ้าส์ที่เติบโตเกือบ 90% คอนโดมิเนียมเติบโตกว่า 81% และบ้านเดี่ยวเติบโตถึง 45%

“ทุกโครงการของบริษัทได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด รวมถึงกลุ่มลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติ นอกจากนี้ลูกค้าของบริษัทยังมีการตอบรับโอนที่ดีอย่างต่อเนื่อง และมีกลุ่มลูกค้าที่ซื้อที่อยู่อาศัยด้วยเงินสด ทำให้บริษัทไม่มีความกังวลต่อภาพรวมเรื่องสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ โดยเป้ายอดขายที่มีการปรับใหม่เป็น 50,000 ล้านบาท นับเป็นอัตราการเติบโตที่สูงกว่าปี 2560 ถึง 30%”นายวันจักร์ กล่าว

นอกจากนี้ 9 เดือน ปี 2561 ยังนับเป็นอีกปีที่บริษัททำผลงานได้อย่างน่าพอใจ ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในตลาดต่างจังหวัด ซึ่งเติบโตถึง 73% จากช่วงเดียวกันของปี 2560 อีกทั้งบริษัทยังประสบความสำเร็จในการสร้างยอดขายจากตลาดต่างชาติ โดยสามารถสร้างยอดขายได้แล้วถึง 12,000 ล้านบาท คิดเป็น 93% จากเป้ายอดขายตลาดต่างชาติที่ตั้งไว้ในปี 2561 นี้ที่ประมาณ 13,000 ล้านบาท

ทั้งนี้บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการในปี 2561 จำนวน 29 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 70,000 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้มีแผนเปิดตัวที่อยู่อาศัยที่จะรองรับเป้ายอดขายใหม่ 50,000 ล้านบาท อีก 7 โครงการ มูลค่ารวม 12,700 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 3 โครงการ บ้านเดี่ยว 1 โครงการ และทาวน์เฮ้าส์ 3 โครงการ